เตือนจังหวัดริมฝั่งเจ้า พระยาเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำสิงห์บุรี อ่างทอง ปราจีนบุรี น้ำทะลักแล้ว เหนือ-อีสานก็ยังหนัก พิจิตรน้ำป่าซัดรอบ 2 อ.บางมูลนากอ่วม แม่น้ำน่านยังหนุนสูงระบายลงไม่ได้ ชาวบ้าน 70 หลังคาเรือน-ถนนเส้นหลักถูกตัดขาด ต้องใช้รถไถนาขนพาออกจากหมู่บ้านให้ไปทำงานกันได้ แล้วต่อรถไฟเข้าตัวเมือง ส่วนลาดยาว นครสวรรค์ น้ำแม่วงก์สูงไม่หยุด ฝนยังตกหนัก ทั้งไหลแรง หลายพื้นที่ถูกตัดขาด ชัยภูมิฝนกระหน่ำ ลำชีสูงหนุนบึงละหานน้ำท่วมกลางดึกบ้าน 300 หลังขนของหนีอลหม่าน ด้านเขื่อนพิมายเร่งระบายน้ำ รองรับน้ำจากพื้นที่อื่นที่ไหลเข้าสมทบต่อเนื่อง ชุมชนต่างๆ เริ่มมีน้ำท่วมขัง อ.ขุขันธ์ ศรีสะเกษ ก็ท่วม พังงายังไม่พบชาวประมงที่คลื่นซัดตกทะเลสูญหาย หาดปากเมง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.ตรัง เจอคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง เสียหายหนัก

วันที่ 24 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 24 ก.ย. ว่า ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ยังคงมีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายของฝนสะสมและฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง อนึ่ง พายุโซนร้อน “เมกี” (MEGI) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มแรงขึ้นและเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนใกล้บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ และไต้หวัน ในช่วงวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ

ทั้งนี้ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักบางแห่ง

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงซัดเข้าตลิ่งอย่างหนักที่จ.สตูล สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านกว่า 40 ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งหาดบางศิลา บ้านหัวหิน อ.ละงู หลังฝนตกหนักทำให้คลื่นแรงซัดตลิ่งพัง โดยเฉพาะถนนหน้าบ้านเลขที่ 388 ม.1 ต.ละงู ถูกน้ำทะเลกัดเซาะทำให้ทรุดตัวเป็นแนวยาวกว่า 100 เมตร สร้างความวิตกให้ชาวบ้านว่าหากคลื่นลมแรงติดต่อกันหลายวัน อาจทำให้ถนนทรุดตัวลงทั้งหมด เป็นอันตรายอย่างมาก

ที่ จ.พังงา วันเดียวกัน นายพีระนนท์ มีเพียร กำนัน ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี เปิดเผยว่า ภาวะคลื่นลมแรงในทะเลอันดามันที่มีความสูงของคลื่น 2-4 เมตร เป็นอุปสรรคต่อการค้นหา นายสุวิทย์ มาเมืองรัก อายุ 31 ปี ราษฎรหมู่ที่ 7 ตำบลคุระ อ.คุระบุรี ซึ่งถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดตกจากเรือจมทะเลสูญหายไปเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ โดยการค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่พบเพียงสิ่งของที่ลอยมาเกยหาดบ้านทุ่งดาบ หมู่ที่ 1 ต.เกาะพระทอง

ที่ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวรายงานหลังเดินทางไปที่หาดปากเมง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ซึ่งถูกคลื่นซัดกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้ต้นสนและถนนเลียบทะเลได้รับความเสียหาย นายวินัย ชูเสียงแจ้ว กำนัน ต.ไม้ฝาด เปิดเผยว่า ปีนี้มีคลื่นรุนแรงมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ หากหน่วยงานราชการไม่เข้ามาดูแล นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็ไม่รู้ไปอยู่ตรงไหน เพราะหากต้นสนล้มลงทั้งหมด จะไม่มีที่ร่มเงาให้นั่งเล่นและไม่มีชายหาดให้ดู ทั้งเดินทางไปเที่ยวในบางเกาะไม่ได้เพราะคลื่นลมแรงมาก

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.พิจิตร ว่ายังคงมีน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่หมู่ 3 บ้านสถานีดงตะขบ ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก โดยทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง หลังจากมวลน้ำป่าก้อนใหญ่จากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลหลากลงมาตามลำคลองสาขา แต่ไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำน่านที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าได้ ทำให้น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวนกว่า 70 หลังคาเรือนเป็นรอบที่สอง และยังทะลักเข้าท่วมพื้นผิวถนนสายบางไผ่-ดงตะขบเป็นระยะทางยาว 1 ก.ม. ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักเพียงสายเดียวที่ประชาชนใช้เข้าออกหมู่บ้าน โดยบางจุดระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร อีกทั้งไหลแรงและเชี่ยว ทำให้ประชาชนสัญจรไปมาไม่ได้

ต่อมา นายพิชัย พ่วงพร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.บางไผ่ นำรถไถขนาดใหญ่พร้อมกระบะมาเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อบริการรับส่งประชาชนให้สามารถไปทำงานหรือทำธุระในตัว อ.บางมูลนาก และอ.ตะพานหิน และตัวเมืองพิจิตร โดยนั่งรถไถออกจากหมู่บ้านมารอการเดินทางด้วยรถไฟที่สถานีดงตะขบ

ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้น้ำในลำน้ำแม่วงก์ช่วงไหลผ่าน อ.ลาดยาว เพิ่มสูงขึ้น และไหลบ่าล้นท่วมไร่นา ถนน ชุมชน ตลาด โดยเฉพาะตลาดลาดยาวช่วงแยกไฟแดงศูนย์จราจรถึงหน้า สภ.ลาดยาว ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและไหลแรงขึ้น ระดับความสูงประมาณ 50-60 ซ.ม. รถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะต่ำ รถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ส่วนถนนสายลาดยาว-หนองเบน มีน้ำไหลข้ามถนนและท่วมเป็นทางยาวหลายจุด เช่น ช่วงบ้านหนองเดิ่น-บ้านหนองกระดูกเนื้อ ระยะทางประมาณ 2 ก.ม. น้ำท่วมสูงประมาณ 15-20 ซ.ม. รถยนต์เล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้

ส่วนในเขตที่ต่อเนื่องกันคือที่บ้านหนองนมวัวมีน้ำท่วมไหลข้ามถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ระดับน้ำสูงกว่า 20 ซ.ม. ที่บ้านหนองตาเชียงมีน้ำท่วมไหลข้ามถนนระยะทางประมาณ 100 เมตร ระดับน้ำสูงประมาณ 10-15 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และขณะนี้ในหลายพื้นที่ของ อ.ลาดยาว กำลังประสบความเดือดร้อนเนื่องจากถูกตัดขาด

ที่จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำหลังฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังขยายวงกว้างต่อเนื่อง ล่าสุดลำน้ำชียังท่วมสูง ประชาชนในพื้นที่ต้องขนของขึ้นไว้บนที่สูงเป็นการด่วน อย่างไรก็ตาม สถาน การณ์ยังน่าเป็นห่วงเพราะยังมีปริมาณน้ำที่ล้นจากลำห้วยยางหลากเข้าบึงละหาน ทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างในอีกหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ละหาน

ส่วนที่ อ.หนองบัวระเหว หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 3 วัน และน้ำป่าจากเทือกเขาพังเหยไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านใน 4 ตำบล คือ ต.โสกปลาดุก ต.หนองบัวระเหว ต.โคกสะอาด อ.หนองบัวระเหว และ ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส ทำให้พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านเสียหายเป็นจำนวนมากกว่า 5,000 ไร่

วันเดียวกัน ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่มวลน้ำจากตัวเมืองนครราชสีมาไหลเข้าสมทบกับน้ำในพื้นที่เหนือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ (เขื่อนระบายน้ำพิมาย) อ.พิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำสุดท้ายก่อนลงสู่แม่น้ำมูล มีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งในพื้นที่ อ.พิมาย ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำเหนือเขื่อนที่เพิ่มระดับและรองรับปริมาณน้ำจากพื้นที่ต่างๆ ของจ.นครราชสีมา ที่จะยังคงไหลเข้ามาสมทบ อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เหนือเขื่อนระบายน้ำ ขณะเดียวกันฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องเริ่มส่งผลให้ชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลฯ พิมาย มีปริมาณน้ำท่วมขังตามถนนสายต่างๆ และคาดว่าหากยังคงมีฝนตกก็อาจจะส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังอยู่มีระดับที่เพิ่มสูงขึ้น

เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่าน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ ไหลลงมาตามลำห้วยเหนือและเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านที่บ้านห้วยเหนือ หมู่ที่ 1 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ และท่วมบ้านเรือนบริเวณริมห้วยเหนือในเขตเทศบาลตำบลเมืองขุขันธ์ และต.ห้วยเหนือ ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 45 ครอบครัว ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ระดมกันอพยพชาวบ้านออกจากบ้านเรือนไปอยู่บนที่สูง ขณะที่นาข้าวที่กำลังโตใกล้จะออกรวงต้องจมใต้น้ำกว่า 300 ไร่

นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ประชา สัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมห้วยเหนือ ยกสิ่งของขึ้นอยู่ที่สูง และเตรียมสถานที่อพยพชั่วคราวที่ศาลากลางบ้านห้วย หมู่ที่ 1 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ ขณะที่มวลน้ำกำลังไหลลงสู่ลำห้วยสำราญ ผ่านอ.วังหิน อ.อุทุมพรพิสัย อ.เมืองศรีสะเกษ และไหลลงสู่ลำน้ำมูลต่อไป ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนที่อาจประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี ทีซี 3 จุดตรวจวัดน้ำของสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จนถึงขณะนี้เขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มการระบายจากน้ำมาอยู่ที่ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลกระทบน้ำล้นตลิ่งที่ ต.ท่างาม ต.ชีน้ำร้าย ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี และระดับน้ำมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ

นายอัครเดช เจิมศิริ ผวจ.สิงห์บุรี ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดเตือนชาวบ้านที่อยู่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะที่อยู่นอกเขตแนวกั้นน้ำอาจได้รับผลกระทบ ให้ขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังและรายงาน 24 ชั่วโมง และประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนได้ทราบเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หลังจากที่ได้รับหนังสือด่วนที่สุดแจ้งเตือนจากสำนักชลประทานที่ 12 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยแจ้งปริมาณน้ำที่ไหลผ่านที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น 50 – 70 ซม. และขอให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้บ้านเชียงราก หมู่ที่ 15 ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังไหลเอ่อเข้านา โดยชาวบ้านได้ช่วยกันตั้งเครื่องสูบน้ำ และอบต.ทองเอน ส่งรถแบ๊กโฮมาช่วยเสริมแนวกั้นไม่ให้น้ำล้นเข้านา และชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 5 เครื่อง ช่วยสูบน้ำจากบึงเชียงรากเพื่อช่วยระบายน้ำ ส่วนชาวนาต่างลอยเรือเกี่ยวข้าวก่อนน้ำจะท่วมข้าวตายหมด

ที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน ทำให้น้ำเจ้าพระยาในคลองโผงเผง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก เพิ่มระดับล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้าน น้ำสูงกว่า 80 ซ.ม. ชาวบ้านเร่งเก็บข้าวของหนีน้ำกันอลหม่าน นอกจากนี้ น้ำยังล้นเข้าหมู่ที่ 1 ต.จำปาหล่อ และหมู่ที่ 6 ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง

ที่จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมามีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังและมีน้ำรอการระบายหลายแห่ง และบางพื้นที่มีน้ำฝนระบายไม่ทัน ทำให้ท่วมขังถนนสายหลัก 2 ช่องทางการจราจรระดับน้ำสูง 30-50 ซ.ม. ระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร จากการตรวจพบว่าถนนที่ถูกน้ำท่วมขังคือ ถนนสุวรรณศร หรือทางหลวงหมายเลข 33 สระแก้ว-กบินทร์บุรี ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 203-204 ถนนทางหลวงหมายเลข 304 มุ่งหน้าเข้าสี่แยกสัญญาณไฟจราจรกบินทร์บุรี ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี ถูกน้ำท่วมขัง 2 ช่องทางจราจร รถเล็กต้องหลีกเลี่ยงเพราะบางพื้นที่มีน้ำท่วมสูง

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่.ปทุมธานี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้พากันเก็บข้าวของขึ้นที่สูง หลังจากหน่วยงานราชการประกาศแจ้งเตือนว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้น เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มปริมาณการระบายน้ำจาก 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 70-90 ซ.ม. หากมีฝนตกเพิ่มเติมจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่าเกณฑ์ ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน