สยองจุดทางตัดรางรถไฟอีกม้าเหล็กขบวนกรุงเทพฯ-ยะลา ชนสยองรถปิกอัพ ตายหมู่4 ศพที่โพธาราม หัวจักรลากรถกระบะไปไกลถึง 150 เมตร เผยเหยื่อเดินทางจาก สุพรรณฯ จะไปร่วมงานศพ คาดคนขับไม่ชำนาญเส้นทางช่วงมืดค่ำ ประกอบกับรถไฟวิ่งมาด้วยความเร็วสูงจึงชนเข้าเต็มลำ พังยับเยิน อนาถ 2 ศพติดคาอยู่ในซากรถ อีก 2 กระเด็นออกไปตกกลางทุ่งนา

เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 24 ก.ย. พ.ต.ท. ประดับ เชื้อโพหัก สารวัตรเวร สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างโพธาราม พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม เข้าตรวจสอบที่เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟที่ 169 กรุงเทพฯ-ยะลา ชนกับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน กต 5682 สุพรรณบุรี มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 4 ราย

เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายพินันท์ คำน้อย นางโสภา คำน้อย นางบังอร ช้างเผือก และนายสมพงษ์ ด้วงทอง ทั้งหมดอยู่หมู่ที่ 2 ต.ปลายนา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี บริเวณที่เกิดเหตุเป็นจุดทางตัดรถไฟทั้งสองฝั่งถนนรถไฟเป็นทุ่งนา พบศพนางบังอรกระเด็นออกจากรถยนต์กระบะตกลงมานอนเสียชีวิตอยู่ริมทางรถไฟห่างจากจุดตัดถนนรถไฟประมาณ 30 เมตร ส่วนหัวจักรของขบวนรถไฟลากรถยนต์กระบะที่ชนอัดติดกับหัวรถจักรไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร พบศพนายสมพงษ์เสียชีวิตติดอยู่ที่บริเวณตู้โดยสารรถไฟ ส่วนอีก 2 รายเสียชีวิตติดอยู่ภายในรถซากรถกระบะที่สภาพพัง ยับเยิน

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้เดินทางมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมากันทั้งหมดรวม 2 คัน เพื่อไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพญาติในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางถนนตัดรถไฟ รถยนต์คันดังกล่าวที่นั่งกันมา 4 คน โดยคาดว่าคนขับไม่ชำนาญเส้นทางและเป็นช่วงจังหวะกำลังจะมืดค่ำ ขณะวิ่งตัดทางรถไฟช่วงจังหวะที่ขบวนรถไฟวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จึงพุ่งชนกับรถยนต์กระบะทำให้อัดติดอยู่กับหัวรถจักรและลากไปไกลประมาณ 150 เมตร

ต่อมาการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างโพธาราม นำเครื่องตัดถ่างนำผู้เสียชีวิตออก เร่งดำเนินการนำรถกระบะออกจากหัวรถจักรอย่างเร่งด่วน เพื่อเคลียร์เส้นทางให้รถไฟที่เสียเวลาวิ่งได้ ท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกลงมาอย่างหนัก การทำงานเป็นไปอย่างลำบาก เพื่อให้ขบวนรถไฟสามารถนำผู้โดยสารไปส่งปลายทางที่จังหวัดยะลาได้ต่อไป

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ จากการได้รับรายงานเบื้องต้นพบว่า รถกระบะคันดังกล่าวไม่ได้หยุดรถก่อนขับข้ามจุดตัดทางรถไฟ ทั้งที่บริเวณทางลักผ่านดังกล่าวได้ตั้งป้ายเตือนและสัญญาณไฟวาบทั้งสองฝั่งแล้ว ที่สำคัญรถยนต์และรถจักรยานยนต์คันอื่นได้หยุดรถในบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อรอให้รถไฟผ่านก่อนนั้น ให้การตรงกันว่ารถกระบะคันที่เกิดเหตุได้ขับแซงรถยนต์ที่จอดรอขบวนรถไฟผ่านอยู่เพื่อข้ามทางรถไฟ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง การรถไฟฯ อยู่ระหว่างการรอผลการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายวุฒิชาติกล่าวต่อว่า สำหรับการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ขบวนรถเร็วที่ 169 (กรุงเทพฯ-ยะลา) ไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากซากรถกระบะกีดขวางทางเดินรถ จึงต้องประกาศปิดทางในช่วงดังกล่าวเป็นการชั่วคราว ส่งผลให้ขบวนรถไฟที่มีกำหนดเดินรถในเส้นทางสายใต้ในคืนวันที่ 24 ก.ย.ล่าช้ากว่ากำหนด จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ กำลังเร่งดำเนินการเคลียร์เส้นทางเปิดให้บริการโดยเร็วที่สุดคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในวันเดียวกันนี้

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังขอความร่วมมือให้ประชาชนผู้สัญจรข้ามจุดตัดทางรถไฟฯ ทุกประเภท ทั้งที่มีหรือไม่มีสัญญาณไฟ และเครื่องกั้นให้ระมัดระวังในการเดินทางและปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกอย่างเคร่งครัด โดยผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อรถไฟผ่านไปแล้ว และมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้จึงขับผ่านไปได้ รวมถึงห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ และต้องจอดรถในระยะ 15 เมตรจากทางรถไฟผ่าน เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน