‘หมอธี’ เบรกบิ๊กร.ร.ก่อม็อบป่วนการเมือง ขู่ฟันวินัยแม่พิมพ์ค้านผิดกฎหมาย

หมอธี – วันที่ 28 ก.พ. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมหารือกรณีกลุ่มข้าราชการครูและผู้บริหารทางการศึกษา ได้ยื่นร้องเรียนให้ก.ค.ศ.ทบทวนกรณีที่ได้มีการยื่นขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ศธ. 0206.3/ว13 เรื่อง การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดยที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นว่า เรื่องนี้มีการเจรจากันมาแล้วหลายครั้ง และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการก.ค.ศ. ก็เห็นควรให้เดินตามกฎหมาย โดยให้ทำเรื่องอุทธรณ์ผ่านต้นสังกัดหรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อพิจารณาเป็นรายบุคคล หากใครไม่พอใจ ก็สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ขอให้การดำเนินการเรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ขอร้องว่าอย่ามาชุมนุมกันโดยเฉพาะมาชุมนุมเพื่อกดดันให้ก.ค.ศ. และรัฐบาลจะต้องยอมถือว่า มีผลทางการเมืองอาจส่อผิดวินัยข้าราชการเพราะมาชุมนุมก่อนการเลือกตั้ง เรื่องนี้รองเลขาธิการก.ค.ศ. ได้มีการคุย และเรื่องควรจะจบได้แล้ว ถ้าไม่จบจะดำเนินการตามกฎหมาย อีกเรื่องกรณีมีกลุ่มแกนนำครู ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่มีข้อเสนอให้เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็น ครูใหญ่ ความจริงส่วนตัวไม่อยากจะมีปัญหา เรื่องนี้คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) เป็นผู้เสนอมาและตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ทุกคนมีสิทธิ์ออกมาคัดค้านและแสดงความเห็นได้ ไม่เป็นไร เพราะการพิจารณาเรื่องนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอน

“ผมไม่เคยติดใจเรื่องพวกนี้เพราะเป็นการแสดงความเห็นทางวิชาการ แต่ขออย่างเดียว อย่าค้านในลักษณะการเมือง ขณะนี้เริ่มมีการค้านแบบโจมตีกัน เช่น อย่าปล่อยให้นักการศึกษามากำหนดชีวิตชะตาพวกเรา เหมือนเป็นการปลุกระดม ไม่ดี เพราะไม่เกี่ยวใครเป็นนักการศึกษาหรือไม่เป็นนักการศึกษาเป็นการค้านที่มีมูลเหตุแอบแฝงทางการเมือง อย่ามาทะเลาะกันด้วยประเด็นพวกนี้แต่ถ้ามองเชิงวิชาการ แต่ถ้าทำให้เป็นประเด็นเคลื่อนไหวทางการเมืองใช้ความรุนแรงกดดันทางจิตใจไม่ได้

ซึ่งถ้าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองผมจะใช้การเมืองจัดการ เคลื่อนไหวช่วงนี้หวังผลอะไรหรือไม่ เพราะกำลังจะเลือกตั้งและเสียหายตรงไหนถึงต้องเคลื่อนไหวในฐานะศธ. ผมอยากให้ทุกอย่างเราแสดงความคิดเห็นอย่างศิวิไลซ์ชน คือคิดต่างกันได้เช่น ว13 การคิดแบบศิไลซ์ชนคือ อุทธรณ์และว่ากันไปตามกฎหมาย บางเรื่องคุยกันไม่ได้เพราะเป็นกฎเกณฑ์ที่มีมา จะมาระดมคน 1 พันคนมากดดันให้ยอมไม่ได้” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

นางอุษณีย์ ธโนศวรรย์ เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวว่า ที่ประชุมยังหารือกรณีที่ คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ไม่พิจารณาคืนอัตราเกษียณอายุราชการปี 2559-2560 ให้สพฐ. เนื่องจากทางศธ.ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ดังนั้นจึงได้มอบให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดศธ. และนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการกพฐ.ไปจัดทำแผนการกำหนดขนาดกำลังคนภาครัฐในปี 2559-2560 ของสพฐ. ให้เป็นไปตามมาตรการของคปร. ที่จะคืนอัตราเกษียณให้โรงเรียนที่มีนักเรียนไม่ต่ำกว่า 250 คน ส่วนปี 2561 มีข้อมูลแล้วว่าจะต้องคืนอัตราเกษียณ 5,265 อัตรา ให้กับโรงเรียน 3,890 โรงเรียน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน