ขีดเส้นตายธรรมกาย 10 โมงเช้า หากไม่ยอมให้เข้าค้นเตรียมยุติเจรจา ก่อนปรับแผนเพิ่มการกระชับพื้นที่รอบวัด ออกหมายเรียกพระ 14 รูปซ้ำ-ลูกศิษย์ด้วย โฆษกดีเอสไอชี้ยังเคลือบแคลงจุดเดิมในวัดเลยขอค้นซ้ำ หากค้นแล้วไม่พบธัมมชโยหรือได้ข้อสรุป เล็งชงเสนอเลิก ม.44 ด้านนายกฯลั่นไม่เลิกม.44 คุมวัดพระธรรมกาย จนกว่าจะจับธัมมชโยได้ เตรียมให้มส.บริหารจัดการวัดใหม่ด้วย บิ๊กป้อมสั่งสกัดวัดสาขานำคนมาหนุน เร่งตรวจสอบที่มาพระด้วย สุวพันธุ์ให้ดีเอสไอเช็กธัมมชโยหนีไปนอกแล้ว ปัดจับพระสึกทั้งวัด ดีเอสไอเจรจาขอค้นโซนเอ-บี แต่ยังไม่เป็นผล เตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงใช้เหตุจำเป็น พ่อค้าแม่ค้ารอบวัดโวยขายของไม่ได้ ชาวบ้านเดือดร้อนเข้าออกบ้านลำบาก-ลูกไปเรียนไม่ได้ ด้านพระสงฆ์ 323 วัดจาก 4 จังหวัดใต้ขอบิณฑบาตบิ๊กตู่ ไม่ใช้ความรุนแรงบุกธรรมกาย-จับธัมมชโย
ลูกศิษย์ฮือเข้าวัดธรรมกาย
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. สำหรับสถานการณ์ปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 เพื่อติดตามจับกุมพระธัมมชโย โดยช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีลูกศิษย์วัดจำนวนหนึ่งเดินทางมาจากพื้นที่ใกล้เคียงและพยายามขอเข้าไปในวัด แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งและโต้เถียงกันเล็กน้อย ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายจะเจรจาแต่ไม่เป็นผล พระสงฆ์จึงพาลูกศิษย์เดินทางกลับไปฝั่งถนนตรงข้ามวัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เสริมกำลังป้องกันเหตุแทรกซ้อน
ส่วนบรรยากาศในช่วงเช้าบริเวณประตู 1-6 ของวัด ยังคงมีศิษยานุศิษย์และพระภิกษุสงฆ์กว่า 500 คน นั่งสวดมนต์ขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าตรวจค้นอยู่กลางถนนสายเลียบคลองแอน 2-3 ก่อนมีพระสงฆ์ออกมาบิณฑบาตตามปกติและกลับเข้าไปฉันอาหารภายในวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังโดยรอบ ซึ่งบริเวณประตู 6 ทางลูกศิษย์ได้นำรถยนต์และแผงเหล็กมาวางขวางป้องกันเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้น โดยมีพระนำป้ายข้อความเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เลิกใช้ม.44 และเปิดทางให้สามเณร 564 รูปไปสอบบาลีด้วย
พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เผยว่า เนื่องจากมีการแจ้งเตือนในโซเชี่ยลว่าจะมีการแทรกตัวของมือที่สาม โดยอาจมาในรูปแบบแต่งกายคล้ายพระหรือประชาชนมาทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วป้ายความผิดให้พระและสาธุชนภายในวัด ดังนั้นวัดพระธรรมกายขอประกาศว่า วัดและลูกศิษย์ยึดหลักอนูปวาโท อนูปฆาโต คือไม่ว่าร้ายและทำร้ายกัน ดังนั้นหากมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากมือที่สาม วัดพระธรรมกายขอปฏิเสธว่าไม่ใช่การกระทำของลูกศิษย์วัด
ขณะที่วัดพระธรรมกายมีประกาศจากสำนักสื่อสารองค์กรว่า เนื่องจากสถานการณ์อ่อนไหว ขอแจ้งงดสื่อมวลชนเข้าพื้นที่วัด ได้แก่ สำนักข่าวทีนิวส์ สำนักข่าวอัมรินทร์ สำนักข่าวเนชั่น
ต่อมาพระสงฆ์และลูกศิษย์นำธงพระพุทธศาสนาสากลโลกมาปักไว้บริเวณแนวกั้นเหล็กระหว่างพระกับเจ้าหน้าที่ บนถนนเลียบคลองแอน ประตู 5-6 เพื่อแสดงให้เห็นถึงการรวมพลัง
ตร.ขอค้นโซนเอ-บีอีกรอบ
Advertisement
ที่ศปก.ส่วนหน้า สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมาประชุมร่วมกับพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 เพื่อหารือถึงแนวทางตรวจค้นวัดพระธรรมกาย
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า สถานการณ์รอบพื้นที่วัดยังปกติ โดยรอความชัดเจนตามที่ได้พูดคุยกันไว้ว่าต้องการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายในพื้นที่โซนเอ-บีอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เจรจากับตัวแทนวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจน วัดให้เหตุผลว่ากลุ่มลูกศิษย์ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ซึ่งยืนยืนเจ้าหน้าที่ไม่จัดการกลุ่มศิษย์อยู่แล้ว แต่จะใช้วิธีเจรจาสร้างความเข้าใจ ส่วนพระสงฆ์ยอมเราอยู่แล้ว เบื้องต้นเป็นหน้าที่ของอธิบดีดีเอสไอที่จะเป็นผู้นำหมายเข้าไป ส่วนตำรวจเป็นเพียงผู้ปฏิบัติตาม วันนี้เราต้องเข้าไปในพื้นที่โซนดังกล่าวให้ได้ พร้อมปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวมีมหาเศรษฐีหนุนหลังวัดพระธรรมกาย
เมื่อถามถึงภาพในโลกโซเชี่ยลที่ในถุงมือเจ้าหน้าที่มีสนับมือด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า อย่าว่าแต่สนับมือเลย กระบองตนยังไม่ให้นำเข้ามาเลย ซึ่งดีเอสไอทราบปัญหาที่เกิดขึ้น 3-4 วันหมดแล้ว หากใช้มวลชนมาแบบนี้เป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน เพราะหากการ กระทำปลุกปั่นที่เกิดขึ้นเข้าตามมาตรา 116 ก็ต้องดำเนินการหมด
เตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนการตรวจค้นที่บอกว่าใช้เวลา 7 วันนั้นคือวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ไม่ใช่ 7 วันต้องได้ตัวพระธัมมชโย ตอนนี้ยังเชื่อว่ากฎหมายก็คือกฎหมาย ไม่มีอะไรที่หนักใจ แต่บางเรื่องบางราวตนว่าใช่กิจของสงฆ์หรือไม่ มันไม่ใช่อย่างนี้กิจของนักเลง ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ตนไม่ได้พูดท้าทาย แต่พูดให้คิด
เมื่อถามว่ามีข้อมูลทางการข่าวหรือไม่ว่าขณะนี้พระธัมมชโยอยู่ภายในวัดหรือในประเทศ หรือเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า “ผมไม่เคยให้ราคา หนีได้ก็หนีไป เวลามอบตัวก็อย่าขอประกันตัวแล้วกัน ส่วนมาตรการตัดน้ำตัดไฟนั้น ก็ให้ไปกราบหลวงพ่อท่าน นิมนต์ท่านมามอบตัวสิ”
ที่บก.ตชด.ภ.1 ดีเอสไอและตำรวจ เตรียมความพร้อมเข้าตรวจค้นวัด ด้วยการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง 3 คัน และรถน้ำปกติอีก 1 คันมาจอดเตรียมการไว้บริเวณด้านหลังอาคารบก.ตชด.ภ.1 เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีมีเหตุจำเป็นต้องใช้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดนำรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายกลุ่มมวลชนวัดพระธรรมกาย
ต่อมาพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดี ดีเอสไอ พร้อมพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เข้าพบพระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผอ.สำนักสื่อสารองค์กร ที่วัดพระธรรมกาย เพื่อขอตรวจค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง
พ่อค้าแม่ค้า-ชาวบ้านโวย
จากนั้นเวลา 11.30 น. กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าภายในศูนย์อาหารตรงข้ามประตู 5-6 วัดพระธรรมกาย ทยอยขนของเข้าไปขายบริเวณ ดังกล่าว พร้อมนำหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่จากสภ.คลองหลวง มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ต่อมาพล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่าเป็นพื้นที่ควบคุมและไม่อนุญาตให้บุคคลเข้าไปในพื้นที่ได้ ส่วนที่มีการขออนุญาตเข้าพื้นที่ กำลังตรวจสอบว่าใครเป็นผู้อนุญาต ทั้งนี้ หากขออนุญาตต้องติดต่อดีเอสไอเท่านั้น
เมื่อกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้ยินคำชี้แจง ได้สร้างความไม่พอใจและต่อว่าเจ้าหน้าที่ พร้อมขึ้นป้ายขอความเห็นใจ เพราะขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว นอกจากนี้ ยังมีผู้ปกครองพาลูกหลานนับสิบคนที่พักอาศัยและมีบ้านอยู่บริเวณวัดก็มาร่วมชุมนุมเรียกร้องกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประกาศพื้นที่ควบคุมและปิดถนน ทำให้เดินออกจากบ้านไม่ได้และเด็กไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ด้วย
ด้านนายหรรษา ทองมา ผู้ค้าในศูนย์อาหารเมืองแก้วมณี ติดกับวัดพระธรรมกายกล่าวว่า ตนขายอาหารใต้อยู่ในศูนย์อาหาร หลังจากเจ้าหน้าที่ปิดพื้นที่ทำให้ไม่สามารถเปิดร้านได้ ซึ่งเดือดร้อนมาก ขณะที่นาง ปุณปวีร์ เยาวนา แม่ค้าผลไม้กล่าวว่า ตนขายผลไม้ในตลาดหน้าประตู 5 และถูกเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้เข้ามาขายของ 2 วันแล้ว ทำให้ผลไม้เน่าเสียหมดและไม่มีรายได้
ต่อมาตำรวจนำแผงรั้วเหล็กมาเสริมบริเวณทางเข้าออกถนนเรียบคลองแอนทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งเป็นทางเข้าออกประตู 5-6 พร้อมเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตรึงพื้นที่ เพื่อป้องกันกลุ่มศิษย์ที่ปักหลักอยู่ตลาดคลองหลวงเคลื่อนขบวนเข้ามา หลังจากวันที่ 20 ก.พ.ได้พยายามเคลื่อนกำลังมาแต่ไม่สามารถฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่ได้
ขีดเส้นธรรมกายถึง 10 โมงเช้า
จากนั้นในช่วงเย็น พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล โฆษกดีเอสไอแถลงถึงการเข้าเจรจากับตัวแทนวัดพระธรรมกาย เพื่อขอตรวจค้นพื้นที่โซนเอ-บีว่า วัดยังไม่เปิดให้ดีเอสไอเข้าตรวจค้น ดีเอสไอจึงขีดเส้นการเจรจาตลอดคืนนี้ไปจนถึงเวลา 10.00 น.ของวันที่ 22 ก.พ. หากวัดยังไม่ตอบรับหรือยินยอมให้เข้าค้นก็จะยุติการเจรจาทันที และดีเอสไอจะปรับแผนใหม่ในการติดตามตัวพระธัมมชโย โดยยืนยันจะไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง ส่วนสาเหตุที่ต้องค้นจุดเดิม เนื่องจากยังเคลือบแคลงสงสัย จึงต้องตอบข้อสงสัยกับสังคม หากค้นแล้วไม่พบพระธัมมชโยหรือค้นแล้วได้ข้อสรุป อาจใช้เป็นเหตุผลเพียงพอต่อการเสนอรัฐบาลให้ยกเลิกม. 44 ได้
โฆษกดีเอสไอยังยืนยันว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าไม่ได้ปิดกั้นพระสงฆ์และสามเณรที่จะไปสอบเปรียญธรรม โดยมีการนิมนต์พระรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีมาร่วมยืนยันด้วย โดยเจ้าคณะจังหวัดให้ข้อมูลว่า ได้ประสานขอแก้ปัญหาหลายครั้ง ทั้งขอให้พระธัมมชโยติดต่อมอบตัวและตรวจสอบใบสุทธิพระกว่า 1,000 รูปที่อยู่ในวัดพระธรรมกาย โดยวัดส่งตัวแทนเป็นพระฝ่ายบริหารมาพูดคุย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ขณะที่ตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเผยว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงห่วงใยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้เลขาฯประจำพระองค์โทรศัพท์มาสอบถามถึงปัญหาและการแก้ไข ซึ่งสำนักพระพุทธศาสนายืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงประสานเจ้าคณะจังหวัดและฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางออก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ก.พ. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จะเข้าเจรจากับตัวแทนวัดพระธรรมกายอีกรอบ หากการพูดคุยรอบนี้ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะประชุมกันอีกครั้งหลังเวลาเส้นตาย 10.00 น.ที่ขีดเส้นวัดพระธรรมกายไว้ โดยเตรียมเพิ่มความเข้มในการใช้กฎหมายตามม. 44 ประกอบด้วย 1.เพิ่มการกระชับพื้นที่รอบวัดพระธรรมกายให้มากขึ้น และ 2.ออกหมายเรียกแกนนำ ทั้งพระ 14 รูปที่เคยออกหมายเรียกไปแล้ว โดยจะออกหมายซ้ำอีก และกลุ่มลูกศิษย์ที่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ทั้งหมดต้องผ่านการประชุมหารืออีกครั้ง
บิ๊กตู่ลั่นไม่เลิก ม.44 คุมวัด
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวน้าคสช.กล่าวว่า วันนี้โทรทัศน์บางช่อง พิธีกรบางคนระบุใช้ม.44 กับวัดพระธรรมกายแล้วไม่มีความหมาย กลายเป็นรัฐบาลไม่มีน้ำยา เรื่องนี้หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ปัญหาก็จะเกิด กลายเป็นเชียร์มวย ดูกันว่าใครจะชนะระหว่างพระกับเจ้าหน้าที่ ถามว่าเกิดประโยชน์อะไรกับบ้านเมือง เรื่องนี้เป็นคดีความ ถ้าสู้กันตามกระบวนการทุกอย่างก็จบ
นายกฯกล่าวอีกว่า เมื่อตำรวจบอกว่า 7 วันหมายความว่าต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป วันนี้มีการทำงานร่วมกันทั้งสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) มหาเถรสมาคม(มส.) ก็หารือร่วมกัน เพื่อทำให้วัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าไป ไม่แปลกประหลาดหรือแตกต่างจากที่อื่น ส่วนคดีความเป็นเรื่องของบุคคล ใครทำผิดก็ว่ากันไป
“ได้ที่ไหน เป็นพระปิดหน้าปิดตา เหมาะสมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนที่ขอให้ยกเลิกม.44 ยืนยันผมไม่ยกเลิก เพราะยังไม่จบเรื่องแล้วจะยกเลิกได้อย่างไร ในเมื่อยังนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีไม่ได้ จึงต้องเป็นพื้นที่ควบคุมไปจนกว่าพระธัมมชโยจะมอบตัวหรือดำเนินคดีได้ พร้อมบริหารจัดการใหม่ และอย่ามาบอกว่าผมจะไปยึดพระทองคำ เพราะไม่รู้อะไรอยู่ไหน มีหรือเปล่าก็ไม่รู้ และแน่ใจอย่างไรว่าเป็นพระแท้ เป็นไปได้หรือที่นำทองคำไปหล่อพระขนาดนั้น เพราะขนาดสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นยังรั่วเลย คิดแบบนี้ก็จะรู้คำตอบเอง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
สั่งเช็กธัมมชโยเผ่นไปนอก
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าเป็นพระมาจากที่ใดบ้าง แต่คิดว่าไม่มีปัญหา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการเชิญชวนเตรียมคนให้เข้าไปล้อมทหารอีกชั้นหนึ่งนั้น ก็ให้เกณฑ์มา ตอนนี้ยังไม่ทันเกณฑ์มาแล้วจะไปคิดอะไร เวลานี้รัฐบาลทำตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการประสานไปที่จังหวัดซึ่งมีสาขาวัดพระธรรมกาย ให้ป้องกันไม่ให้นำคนมาเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “อย่าไปห่วง เพราะสื่อยังคิดได้ ถ้าผมคิดไม่ได้ก็ยืนตรงนี้ไม่ได้เหมือนกัน”
เมื่อถามว่าหากครบกำหนดตรวจค้นตามหมายศาลที่มีกำหนด 7 วันจะดำเนินการอย่างไรต่อ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าก็มีมาตรา 44 กำหนดพื้นที่ควบคุมไว้อยู่แล้ว ไม่ต้องขอหมายใหม่
เมื่อถามย้ำว่าหากตรวจค้นแล้วไม่พบ พระธัมมชโยอยู่ภายในวัด การบริหารจัดการวัดจะเป็นอย่างไรต่อ รองนายกฯกล่าวว่าเป็นเรื่องของมส.จะดูภาพรวมทั้งหมด
ขณะที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ดีเอสไอประสานกับวัดพระธรรมกาย เพื่อเข้าตรวจค้นเพิ่มเติมอีกครั้ง ถ้าเข้าตรวจค้นวันนี้ได้ก็ยิ่งดี เพื่อให้มั่นใจและตอบคำถามรัฐบาลได้ว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัดหรือไม่ ซึ่งกำลังหารือกันอยู่
เมื่อถามว่าขณะนี้เป็นไปได้หรือไม่ว่า พระธัมมชโยยังอยู่ในวัด นายสุวพันธุ์กล่าวว่าต้องรอดีเอสไอสรุป เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องตรวจสอบ ส่วนกรณีพระจะไปสอบบาลีที่วัดเขียนเขตหรือวัดมหาธาตุ ก็สามารถไปสอบและกลับเข้าวัดได้ตามปกติ ยืนยันไม่มีการจับพระหรือสามเณรสึกทั้งวัดแน่นอน
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพระธัมมชโยขอลี้ภัยไปสหรัฐอเมริกาจริงหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่าดีเอสไอยังไม่ได้รายงานให้ทราบ รวมถึงข้อมูลที่พระธรรมศักดิ์ พระลูกวัดพระธรรมกายให้ข้อมูลว่าพระธัมมชโยหนีไปกับคนสนิทแล้ว ดีเอสไอตรวจสอบเพิ่มเติมก่อน
สงฆ์ 4 จว.ใต้ขอบิณฑบาต
วันเดียวกัน คณะสงฆ์ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอบิณฑบาตระงับเหตุการณ์ ระบุว่าอาตมภาพพร้อมคณะสงฆ์ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 323 วัดมีความรู้สึกเป็นห่วงกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ใช้กองกำลังมากมายบุกเข้าจับหลวงพ่อธัมมชโย และตรวจค้นวัดพระธรรมกาย จนทำให้เกิดการ กระทบกระทั่ง ทั้งที่วัดเป็นที่สงบร่มเย็น เป็นที่บำเพ็ญบุญทางพระพุทธศาสนา ดังนั้น จึงขอบิณฑบาตนายกรัฐมนตรีให้พิจารณา โดยไม่ใช้ความรุนแรงและแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี
ด้านพระมหาสุรศักดิ์ จิรสักโก เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 21-23 ก.พ. คณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานีจัดสอบบาลีสนามหลวงประจำปี 2560 ซึ่งคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายต้องเข้าสอบ 564 รูป แต่พระบางรูปเกรงออกมาแล้วกลับเข้าวัดไม่ได้ วัดเขียนเขตจึงจัดที่พักให้จำวัดระหว่างสอบ
ว่าที่ร.ต.จุลสัน ทันอินทร์อาจ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานีกล่าวว่า กรณีพระวัดพระธรรมกายไม่สามารถเข้าสอบบาลีสนามหลวงได้ สามารถสอบซ่อมได้อีก ช่วงวันที่ 21-23 เม.ย.
