เมื่อวันที่ 26 ก.พ. การพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นับเป็นวันที่ 36 หลังเสร็จสิ้นพิธีหลวง การนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพหมุนเวียนจนกว่าจะครบจำนวนเจ้าภาพตามที่แสดงความจำนง

 

วันเดียวกันนี้สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะเป็นวันที่ 115 เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ทำให้มีพสกนิกรเดินทางมาจากทั่วสารทิศมากเป็นพิเศษ ตลอดทั้งวันมีฝนตกโปรยปรายและยังคงมีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่พสกนิกรยังคงพร้อมใจกันสวมชุดสุภาพสีดำเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นจำนวนมากตั้งแต่เช้ามืด ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพเมื่อวันที่ 25 ก.พ. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 32,716 คน รวม 115 วัน มี 4,763,827 คน และประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,501,107.50 บาท รวม 115 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 401,664,946.34 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มด้วยพิธีทำบุญทางศาสนา โดยเวลา 10.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานปฐมฤกษ์ประกอบพิธีพราหมณ์ จุดธูปเทียนที่เครื่องบวงสรวง พราหมณ์อ่านโองการบวงสรวงการก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ประธานในพิธีปิดทอง ผูกผ้าที่เสา ถือสายสูตรยกเสาพระเมรุมาศขึ้นตั้ง พราหมณ์ครูวิสุทธิคุณฯ รดน้ำเทพมนต์และเจิมเสา พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ รำบวงสรวง ประธานในพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์อนุโมทนาและกรวดน้ำถวายเป็นพระราชกุศล
ทั้งนี้ การยกและการวางเสาเอกพระเมรุมาศตามกำหนดเวลาฤกษ์ในเวลา 10.01-10.54 น. เป็นมหัทธโนฤกษ์ หมายถึงฤกษ์ใหญ่ ใช้ประกอบการมงคลทุกอย่างเป็นปฐมฤกษ์ เช่น สร้างบ้านใหม่ ประกอบธุรกิจ เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เงินทองและฐานะสมบัติมั่งคั่ง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ บริเวณจุดก่อสร้างพระเมรุมาศ ทีมงานโยธาธิการและผังเมือง และกรมศิลปากร ร่วมกันจัดเตรียมสถานที่ในพิธีบวงสรวงและยกเสาพระเมรุมาศซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 ก.พ. เวลา 10.01 – 10.54 น. ทั้งในส่วนของปะรำพิธีและเต็นท์รับรองบุคคลสำคัญที่จะมาร่วมงานจนเสร็จเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่เตรียมพื้นทรายทั้งหมดเพื่อความเรียบร้อย ขณะเดียวกันมีฝนตกโปรยปรายลงมาทำให้หน้าดินไม่มีฝุ่น ภายในปะรำพิธีจัดวางเก้าอี้กว่า 500 ตัวเพื่อรองรับผู้ร่วมในพิธี พร้อมติดตั้งโทรทัศน์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานชมด้วย ขณะที่บริเวณทำพิธีบวงสรวงปูพรมสีแดงและประดับตกแต่งดอกไม้สวยงาม พิธีครั้งนี้ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11

 

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศ นายกฯและคณะตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกรมศิลปากรบริเวณสนามหลวงด้านทิศใต้ วิธานสถาปกศาลา (โรงขยายแบบ) อาคารจัดสร้างพระโกศจันทน์ อาคารปั้นหล่อประติมากรรม และอาคารเขียนสีและตกแต่งองค์ประกอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้คณะสงฆ์จีนนิกายจำนวน 90 รูป จัดพิธีบำเพ็ญกุศลกงเต๊ก น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 28 ก.พ.

 

นายเศรษฐพงษ์ จงสงวน ประชาสัมพันธ์คณะสงฆ์จีนนิกาย เผยกำหนดการขั้นตอนการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลกงเต๊ก ทั้ง 7 ขั้นตอน ดังนี้ ลำดับที่ 1 ในเวลา 13.00 น. ที่ปะรำพิธีหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท คณะสงฆ์จีนนิกาย นำโดยพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต๊ก) เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย จะสวดพระพุทธมนต์เปิดมณฑลพิธี ประพรมน้ำพระพุทธมนต์โดยรอบมณฑลพิธี แล้วอ่านคำประกาศการพิธีกงเต๊ก เพื่อบรรจุคำประกาศซึ่งมีพระนามและรายนามผู้อุทิศถวายพระราชกุศลลงในเทวทูตทรงม้า (ทำจากกระดาษ) นำคำประกาศส่งถึงเหล่าเทพยดา เมื่อเสร็จแล้วพระประยูรญาติจะเชิญเครื่องทองน้อยและเชิญธงถ่งพวงตามขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อตั้งด้านหน้าที่ประดิษฐานพระบรมศพ เมื่อพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์หน้าพระบรมโกศ ขอพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ แผ่พระพุทธรัศมีอัญเชิญดวงพระวิญญาณสถิตในฉลองพระองค์ที่เคยทรงใช้แล้วที่สวมไว้กับรูปธงกระดาษ ซึ่งมีคำเรียกเป็นภาษาจีนว่า “ถ่งพวง”

 

นายเศรษฐพงษ์กล่าวต่อว่า พิธีลำดับที่ 2 เวลา 14.00 น. จะเป็นพิธีการสรงน้ำดวงพระวิญญาณ พระสงฆ์จีนนิกายจะประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นสื่อนำทางให้แก่ดวงพระวิญญาณในมณฑลพิธีนี้ เพื่อเข้าสู่หอสรง เพื่อดวงพระวิญญาณได้รับน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความผ่องแผ้ว เบิกบาน สิ้นกังวลพระราชหฤทัยในพระราชภารกิจและพสกนิกรทั้งมวล พิธีลำดับที่ 3 ในเวลา 15.00 น. พิธีสังวัธยายสุขาวตีวยูหสูตร หรือการสวดพระสูตรฝ่ายมหายาน เพื่อมหากุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณ พิธีลำดับที่ 4 ในเวลา 16.00 น. พิธีลอยกระทงและปล่อยนกปล่อยปลา พระสงฆ์จีนนิกาย นำพระประยูรญาติ ข้าราชบริพาร ข้าราชการ เชิญกระทงออกจากลานพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผ่านทางประตูศรีสุนทร ประตูเทวาภิรมย์ ไปยังท่าราชวรดิฐ แล้วปล่อยชีวิตนก ปลา เป็นการประกอบทานบารมีอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ดวงพระวิญญาณ

 

พิธีลำดับที่ 5 ในเวลา 19.00 น. พิธีข้ามสะพานโอฆสงสาร ในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เสมือนการข้ามพ้นจากวัฏสงสาร คือห้วงแห่งการเวียนว่ายตายเกิดไปสู่ฝั่ง คือดินแดนพุทธเกษตรอันเป็นสุข เสร็จแล้วจึงจะอัญเชิญดวงพระวิญญาณขึ้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระสงฆ์จีนนิกายสวดทำพิธีหน้าที่ประดิษฐานพระศพ พิธีลำดับที่ 6 ในเวลา 20.00 น. พิธีโยคะตันตระ หรือพิธีทิ้งกระจาด เป็นการเจริญเมตตาธรรมเพื่อโปรดสรรพสัตว์ในภูมิทั้งหก ในพระสูตรฝ่ายมหายานได้กล่าวถึงอานิสงส์ไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้ประกอบพิธีนี้โดยน้อมจิตอธิษฐานอุทิศกุศลใดๆ ในพิธีนี้ ผู้รับจะได้พลานิสงส์อย่างไพศาล

 

ทั้งนี้ เมื่อเสร็จพิธีโยคะตันตะ พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์นำ พระประยูรญาติทรงเผาเครื่องอุปโภคจำลองทำด้วยกระดาษ อุทิศถวายเป็นทิพยสมบัติในพุทธเกษตร ที่บริเวณหน้าประตูศรีสุนทร
ลำดับที่ 7 เวลา 22.00 น. พระสงฆ์จีนนิกาย 10 รูป ประกอบพิธีสดับปกรณ์ (พิจารณาผ้ามหาบังสุกุล) เป็นพิธีลำดับสุดท้าย เพื่ออุทิศถวายบุญกุศลทั้งปวงอันได้จากการประกอบพิธี แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นอันจบพิธีบำเพ็ญกงเต็กถวายพระบรมศพ ที่คณะสงฆ์จีนนิกายจัดทำถวายสืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3

 

โดยหลังจากนี้ จะมีคณะเจ้าภาพการบำเพ็ญกุศล (กงเต๊ก) อีก 4 คณะในลำดับถัดไป ได้แก่ วันที่ 21 มี.ค. คณะสงฆ์อนัมนิกาย วันที่ 18 เม.ย. นายเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี พร้อมครอบครัว วันที่ 23 พ.ค. สมาคมนักธุรกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย และวันที่ 28 มิ.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน