เปิดปฏิบัติการใหม่ แม่ทัพภาค 1 หอบแผนผังธรรมกายเข้าถกคสช. ก่อนบิ๊กตู่เรียกรมต.-ผบ.ทบ.-ผบ.ตร.-ดีเอสไอหารือถึงค่ำ เตรียมพิมพ์เขียวโซนเอ เชื่อธัมมชโยอยู่ห้องลับในอาคารภาวนา 100 ปี รัฐบาลโต้ใช้งบค้นธรรมกาย 60 ล้าน รมว.ยุติธรรมยันใช้ไม่ถึง “บิ๊กป้อม” บอกไม่มีค่าใช้จ่าย “บิ๊กตู่” สั่งสุวพันธุ์เร่งเจรจาหาทาง ออกกับพระ ดีเอสไอรุกพระ-ลุยตรวจใบสุทธิทุกรูป ถ้าไม่มีเอาผิดฐานแต่งกายเลียนแบบพระ พศ.แจ้งวัดทั่วประเทศ ห้ามพระมาชุมนุมกับธรรมกาย เผาแล้วลุงผูกคอประท้วงม.44
ดีเอสไอรุกพระ-ตรวจใบสุทธิ
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. สำหรับสถานการณ์ ปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 เพื่อติดตามจับกุมพระธัมมชโย โดยช่วงกลางดึกที่ผ่านมา บริเวณประตู 7 วัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและทหารจัดกำลังตรวจตรา พร้อมขึ้นป้าย หน้าวัดระบุว่า ประกาศงดพระภิกษุสงฆ์-สามเณร ชุมนุมขัดขวางเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าวัดธรรมกาย เป็นความผิดทางกฎหมาย โดยแปลเป็น 3 ภาษา ทั้งภาษาไทย อังกฤษและจีน
ขณะที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง ตรงข้ามประตู 5-6 พระยังออกมาบิณฑบาตท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด พร้อมตั้งจุดตรวจสอบใบสุทธิและลงบันทึกรายชื่อพระสงฆ์จากต่างจังหวัดหรือต่างวัด ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อบิณฑบาตด้วย ส่วนพระสงฆ์ 5 รูปที่อดอาหารประท้วงม.44 ยังคงนั่งสมาธิอยู่ในเต็นท์ โดยได้อดอาหารมาแล้ว 6 วัน
นายพลังชาติ เหมือนแก้ว พนักงานสอบสวนพิเศษชำนาญการพิเศษ 8 ดีเอสไอส เผยว่าเจ้าหน้าที่คัดกรองพระสงฆ์ที่ไม่ได้อยู่วัดพระธรรมกายไปแล้ว 13 รูปและบางส่วนประสงค์จะกลับวัด ตอนนี้จะอนุญาตให้พระที่มีใบสุทธิอยู่ในวัดพระธรรมกายเท่านั้น โดยให้ผ่านเข้าบริเวณประตู 7
พระขู่นั่งสวดมนต์บนถนน
ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถตู้ขับผ่านมาบริเวณวัด ภายในมีพระนั่งมา 8 รูป แยกเป็นพระจากอุดรธานี 5 รูปและร้อยเอ็ด 3 รูป เมื่อสอบถามพบกำลังนั่งไปตลาดกลางคลองหลวง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกประวัติไว้ จากนั้นให้ขึ้นรถตู้เดินทางกลับทันที เพื่อสกัดไม่ให้มารวมกลุ่มกันได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่นิมนต์พระไพศาล พระวัดพระธรรมกาย มาเจรจาถึงข้อตกลง บริเวณตลาดกลางคลองหลวง หลังคณะสงฆ์ยื่น 3 ข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.ขอให้พระสงฆ์นอกพื้นที่ที่เข้ามาในพื้นที่วัดพระธรรมกายไม่ต้องมีใบสุทธิและเดินทางเข้าออกได้ 2.ไม่ต้องบันทึกเป็นเอกสาร แค่ เจ้าหน้าที่ใช้วิธีดูใบสุทธิว่าเป็นพระจริงเท่านั้น 3.ขอสำเนาเอกสารทุกชุดที่เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการเก็บหลักฐานจากพระมาให้คณะสงฆ์ในพื้นที่ โดยยืนยันหากไม่ทำตามข้อเรียกร้องจะนำพระสงฆ์นั่งสวดมนต์บนถนนหรือบุกเข้าวัดพระธรรมกาย
ออกหมายเรียกแล้ว 21 ราย
ที่บก.ตชด.ภ.1 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักษ์ศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษก ดีเอสไอ พร้อมพล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษก ดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่เครือข่ายวัดพระธรรมกายในต่างประเทศพยายามไปรวมตัวชุมนุมที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อขอให้ ยกเลิกม.44 นั้น ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ขอยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ยึดแนวทางตามกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ซึ่งจากการพูดคุยกับหน่วยงานต่างประเทศพบว่าเข้าใจในการทำงานและเป็นเรื่องภายในประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่รัฐจะทำลายพระพุทธศาสนา
โฆษกดีเอสไอกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกบุคคลที่พยายามเคลื่อนไหวสนับสนุนในพื้นที่ แยกเป็นออกหมายเรียกพระรอบแรก 14 รูป และบุคคล ที่เคลื่อนไหว 4 ราย ล่าสุดกลางดึกวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ออกหมายเรียกเพิ่มอีก 3 ราย รวมออกหมายเรียกแล้ว 21 ราย โดยยังคงมีกลุ่มบุคคลที่พบข้อมูลพยายามเคลื่อนไหวอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากพบเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่จะออกหมายเรียกทันที
แฉจัดตั้ง 700 คนปะทะจนท.
ด้านพ.ต.ต.วรณันเผยว่า มีข้อมูลทางการข่าวทราบว่าพบมวลชนจัดตั้งประมาณ 700 คน ที่ตลาดกลางคลองหลวง เตรียมใช้กลยุทธ์ผลักดันเจ้าหน้าที่ ซึ่งตรงนี้เห็นว่าเขาพยายามยกระดับและใช้ลักษณะของมวลชนเข้ามาปฏิบัติการมากขึ้น ต่อไปนี้จึงจะใช้มาตรการจริงจังในการเรียกคนที่เป็นแกนนำหรือบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเข้ารายงานตัว พร้อมเตือนกลุ่มบุคคลนี้หรือผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมและจะเคลื่อนไหว ขอให้หยุดการกระทำทั้งหมด ส่วนแกนนำถ้าพบการกระทำผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่จะจับกุมตัวและดำเนินคดีแน่นอน
พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูล 3-4 วันเกี่ยวกับมวลชน ซึ่งมี 2 ลักษณะคือ 1.คล้ายมวลชนจัดตั้ง 200 คน และ 2.มวลชนที่เดินทางไปกลับ ซึ่งจะมีเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่มีสถานการณ์สำคัญ หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมก็จะเหลืออยู่ 200-300 คน นอกจากนี้จะมีพระหมุนเวียนเข้ามา ซึ่ง เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งห้ามเข้ามาร่วมการชุมนุมครั้งนี้
“จากนี้มาตรการเชิงรุกทางฝ่ายสงฆ์จะเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะตรวจสอบใบสุทธิพระ หากท่านไม่มีจะถูกดำเนินคดี ข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลทางการข่าวเพิ่มว่ามีความพยายามให้มวลชนเล็ดรอดเข้ามาทางจุดสกัดที่เป็นแนวตะเข็บในช่วงเวลา 03.00-05.00 น. ซึ่งเราทราบแล้วและมีแผนสกัดแล้ว พร้อมให้หยุดการกระทำนั้นด้วย” รองโฆษกดีเอสไอกล่าว
ดีเอสไอเช็กพิมพ์เขียว-ค้นวัดซ้ำ
ถัดมาเวลา 18.00 น. พ.ต.ต.วรณัน แถลงว่า จากการติดตามสถานการณ์พบมวลชนภายในวัด ประกอบด้วย พระเณร 800 รูป และประชาชน 1,300 คน ส่วนบริเวณตลาดกลางคลองหลวงมีพระเณร 150 รูป ประชาชน 700 คน ไม่มีความเคลื่อนไหวรุนแรง ส่วนในวันที่ 1 มี.ค. เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีจะมีหนังสือไปยังรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 4 ประเด็นคือ 1.ให้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนิมนต์เชิญพระที่ออกไปปฏิบัติกิจอยู่นอกวัด โดยเฉพาะตลาดกลางคลองหลวงกลับเข้าวัด 2.ให้นิมนต์พระที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดวัดพระธรรมกายออกจากพื้นที่และกลับไปยังวัดต้นสังกัด 3.จะทวงถามหนังสือที่ขอทราบจำนวนพระวัดพระธรรมกายทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานเรื่องภัตตาหารให้เพียงพอ 4.ให้พระวินยาธิการ หรือตำรวจพระ เจ้าคณะอำเภอ เข้าร่วมเจรจาด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ดีเอสไอเตรียมเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ภายในอาคารโซนเอ เนื่องจากยังตรวจค้นไม่ครบในบางห้อง เพราะช่วงที่เข้าไปตรวจค้น เจ้าหน้าที่ถูกจำกัดพื้นที่บางแห่งในการตรวจค้นหาตัวพระธัมมชโย โดยเจ้าหน้าที่นำพิมพ์เขียว อาคารภาวนา 100 ปี มาตรวจอย่างละเอียด และเชื่อว่า พระธัมมชโยยังคงอยู่ภายในอาคารดังกล่าว
ในส่วนพื้นที่ 2,000 ไร่นั้น ไม่มีอาคารที่เหมาะสมในการหลบซ่อน เพราะพระธัมมชโยยังคงมีอาการป่วย อย่างไรก็ตามมี ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างให้ข้อมูลกับ ดีเอสไอว่าพิมพ์เขียวที่เสนอมาอาจไม่ตรงกับความเป็นนจริงในการก่อสร้าง โดยอาจมีการสร้างเพิ่มเติม
เผาแล้วลุงผูกคอต้านม.44
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่เมรุวัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี มีพิธีฌาปนกิจนายอนวัช ธน เจริญณัฐ อายุ 64 ปี ลุงที่ผูกคอประท้วงม.44 เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีพ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล และพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ พร้อมนายอาวุธ วิเชียรฉาย นายอำเภอธัญบุรี ศิษย์วัดพระธรรมกายมาร่วมงาน โดยมีนางนวพร ธนเจริญณัฐ ภรรยาและลูกชาย พร้อมญาติต้อนรับ มีพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขตและเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ขึ้นเป็นประธานจุดไฟฌาปนกิจฝ่ายสงฆ์
บิ๊กตู่สั่งสุวพันธุ์เจรจาพระ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. เป็นประธานการประชุมคสช. โดยมีการหารือถึงการเข้าค้นวัดพระธรรมกายที่ยังยืดเยื้อ จากนั้นพล.ท. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และพล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาคที่ 1 เดินทางมาร่วมประชุม พร้อมนำแผนผังพื้นที่วัดพระธรรมกายมาด้วย คาดเป็นการมารายงานสถานการณ์
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สั่งการให้นาย สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ไปพิจารณาหาทางออกร่วมกับพระ โดยยึดหลักกฎหมายก็คือกฎหมาย ต้องการให้ทุกอย่างเกิดความสงบเรียบร้อยเร็วที่สุด ส่วนการปล่อยข่าวที่ระบุตนเปลี่ยนศาสนาจากไทยพุทธเป็นไทยมุสลิม เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ ทำไมถึงคิดกันไปขนาดนั้น จึงขอย้ำว่าม.44 ถือเป็นกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ เจ้าหน้าที่ทำงาน สามารถใช้กำลังเข้าจู่โจมจับ ยึด ต่อสู้ หากมีการใช้อาวุธ แต่ในสถานการณ์คนหมู่มาก 2-5 พันคน ท่ามกลางคนหมู่มากเช่นนี้เป็นลักษณะการใช้กฎหมู่มาสู้กับกฎหมาย แต่รัฐบาลยังย้ำต้องหาวิธีพูดคุยกันให้ได้มากที่สุดว่า เราจะลดการใช้ม.44 ได้อย่างไร ซึ่งต้องพึ่งกันทั้ง 2 ฝ่าย ขอให้เราเข้าไปตรวจค้น โดยไม่ขัดขวางในทุกพื้นที่
รบ.ปัดใช้งบค้นวัดถึง 60 ล.
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีแม่ทัพภาคที่ 1 นำแผนผังวัดพระธรรมกายเข้าพบว่า ได้สอบถามความคืบหน้าว่าทำอะไรไปบ้าง ทั้งเรื่องกำลังพล เรื่องหักค่าเสบียงอาหาร ซึ่งได้ข้อมูลว่าตำรวจชี้แจงว่าแม่ค้าที่รับทำอาหารส่งมื้อละ 80 บาท รวม 3 มื้อ เป็นเงิน 240 ขณะนี้ได้ลดลงเหลือมื้อละ 50 บาท
เมื่อถามถึงกรณีวัดพระธรรมกายแฉใช้งบค้นวัด 12 วันถึง 60 ล้านบาท พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มีๆ ค่าใช้จ่ายไม่มี”
เมื่อถามว่าต้องปรับแผนหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่าขอเวลาดูอีกระยะ เพราะอยากให้พระธัมมชโยมอบตัว ถ้ามอบตัวทุกอย่าง ก็คลี่คลายหมด ซึ่งไม่รู้ว่าพระธัมมชโยอยู่หรือไม่อยู่ภายในวัด แต่การออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ใช้ม.44 ก็ค่อนข้างมั่นใจ เพราะประเมินจากการที่พระและฆราวาสปกป้องเหลือเกิน
ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีพบกลุ่มฮาร์ดคอร์การเมืองนอกพื้นที่แฝงตัวในพื้นที่วัดพระธรรมกายว่า ผู้ปฏิบัติระมัดระวังกันอยู่ และตอนนี้อธิบดีดีเอสไอกำลังหารือถึงการจัดรูปแบบหรือแผนปฏิบัติในพื้นที่ที่อาจจะมีการปรับให้มากขึ้น ขณะเดียวกันได้รับความร่วมมือกับคณะสงฆ์มากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลพระ 2 เรื่องคือ 1.พระที่มารวมตัวกันบริเวณตลาดกลางคลองหลวง จะขอให้คณะสงฆ์ไปพูดคุย และ 2.การดูแลเรื่องอาหารเช้าและอาหารเพลที่จะปรับ ซึ่งจะให้คุยกันในพื้นที่ โดยตอนนี้ดีเอสไอเพิ่มการสอบสวนนอกวัดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะพยายามให้ได้ข้อยุติเร็วที่สุด
เมื่อถามว่าพระธรรมกายตั้งข้อสังเกต ดีเอสไอใช้งบตรวจค้นมากถึง 60 ล้านบาท นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ยืนยันไม่จริงและไม่ถึง 60 ล้านบาท ดีเอสไอแจ้งมาว่าไม่ได้สูงขนาดนั้น เรื่องงบประมาณต้องใช้พอสมควร
เมื่อถามว่าการเจรจายังมีอยู่หรือไม่ นาย สุวพันธุ์กล่าวว่าเรื่องการพูดคุยคงไม่ได้ปิดทั้งหมด ในพื้นที่คงคุยกันอยู่ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีก็เข้าไปพูดคุย
ต่อมาเวลา 16.45 น. หลังการประชุมครม. พล.อ.ประวิตร นายสุวพันธุ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักพุทธฯ เดินทางกลับเข้ามาทำเนียบอีกครั้ง เพื่อเข้าหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เบื้องต้นคาดหารือเรื่องพระธัมมชโย
จากนั้นเวลา 19.30 น. บรรดารัฐมนตรีที่ นายกฯเรียกพูดคุยทยอยลงจากตึกไทยคู่ฟ้า โดยให้รถไปต่อขบวนนายกฯ ซึ่งน่าสังเกตว่านายสุวพันธุ์มีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ หลังถูกถามว่าคุยเรื่องอะไรว่า “ไม่รู้ ไม่เอา ไม่เอา” ก่อนขึ้นรถไปพร้อมขบวนนายกฯ
พศ.แจ้งวัดทั่วปท.ห้ามพระชุมนุม
ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.นครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม โดยมิได้ทรงมีรับสั่งถึงกรณีวัดพระธรรมกาย ขณะที่พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรฯ กล่าวว่า กรณีที่ฝ่ายบ้านเมืองจะขอให้มหาเถรฯ สั่งการห้ามพระร่วมชุมนุมกับวัดพระธรรมกายนั้น หากจะมาก็มาได้ แต่ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะม.44 ที่สำคัญมหาเถรฯ ห่วงเรื่องมือที่ 3 หรือพระที่ไม่ได้สังกัดวัดพระธรรมกายที่อาจมีพฤติกรรมไม่เหมาะ โดยสำนักพุทธฯ จะตรวจใบสุทธิของพระทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อป้องกันมือที่สาม
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวว่า สำนักพุทธฯ ทำหนังสือแจ้งไปยังทุกจังหวัด แจ้งไม่ให้พระสงฆ์มาร่วมชุมนุมกับวัดพระธรรมกาย
