เปิดใจยายวัย 86 ตื่นตี 3 ขายเมี่ยงคำซ.อารีย์ มา 74 ปี หาเลี้ยงลูกชายสติไม่ดี
จากกรณี ดีเจเฟี้ยต ธัชนนท์ได้ทวิตข้อความและภาพเกี่ยวกับเรื่อง ยายคนหนึ่งชื่อยายรัตน์ อายุ 86 ปี ทำเมี่ยงคำขายมา 74 ปีแล้ว ตื่นตี 1 เตรียมของ ลากรถเข็นเดินขายตั้งแต่ตี 1 เตรียมของ ลากรถเข็นเดินขายตั้งแต่ตี 5 ย่านฟุตปาธอารีย์ ซ.1 ยายตัวคนเดียว ไม่กลับบ้านแปดริ้ว เพราะลูกสัญญาถ้ามีเงินจะมาดูแล กลัวลูกหาไม่เจอ แต่ยายฝากบอกลูกว่า ไม่ต้องมีเงินก็ได้แค่อยากเจอ
ข่าวสดออนไลน์ ได้เดินทางมาที่อารีย์ ซ.1 เพื่อมาพบกับ คุณยายสาคร รอดวงษา อายุ 84 ปี โดยพบว่าคุณยายกำลังเดินขายของอยู่ริมทางฟุตปาธ โดยได้พูดคุยได้ความว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่กับ สามี ชื่อลุงสุขใจ รอดวงษา อายุ 80 ปี ซึ่งเป็น ข้าราชการเก่าอยู่ที่ โรงพิมพ์ตำรวจ มีลูกด้วยกัน 4 คน แต่ตอนนี้ไม่ได้คุยกันมานานแล่วเนื่องจาก ลุงสุขใจ กล่าวหาว่า ยายสาครมีชู้ จึงเลิกคุยกันไปแต่ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านเดียวกันในบ้านพัก สวัสดิการ ของโรงพิมพ์ตำรวจ
โดยมีลูก 4 คน ลูกสาวคนโต หาเงินเรียนเองจนจบปริญญา ทำงานอยู่ที่โรงพิมพ์ตำรวจ มีเงินเดือนแต่ต้องเลี้ยงดูสามีผู้พิการขาซ้ายเนื่องจากโดนรถสิบล้อทับจนไม่สามารถทำอะไรได้ ลูกสาวคนที่ 2 อยู่เชียงใหม่ไม่รู้ว่าประกอบอาชีพอะไร และไม่ได้ติดต่อเป็นเวลานาน ลูกคนที่ 3 ผู้ชาย สติไม่ดี อาศัยนอนตามริมทางรถไฟ เพราะเข้าบ้านไม่ได้เนื่องจาก ทะเลาะกับพี่เขย ส่วนคนที่ 4 อาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มที่ประกอบอาชีพ ช่างทำผม ที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ ลงมาที่ กทม.อยู่เดือนล่ะครั้งเนื่องจากต้องพาสามีมาหาหมอและจะแวะนำเงินมาให้เดือนล่ะครั้ง 1,000-2,000 บาท
ยายสาคร กล่าวอีกว่า ตนหากินด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ด้วยการขายเมียงคำมานานกว่า 74 ปี กำไรที่ขายได้ตกวันละ 500 บาท ด้วยน้ำจิ้ม สูตรเด็ดที่คิดค้นมามากกว่า 10 ปี ขายของได้เงินมาก็จะนำเงินมาเลี้ยงดูลูกชายที่สติไม่ดี และนำข้าวมาให้กินในทุกๆ วัน ตนหยุดขายไม่ได้ถ้าหยุดขาย ลูกชายก็จะไม่มีอะไรกิน บ้างครั้งมีท้อบ้างแต่ก็ต้องทำ เพื่อลูกชายคนนี่คือสาเหตุหลักที่ตนต้องขายของ
“ทุกๆวันจะต้องตื่น 03.00 น.เพื่อเตรียมของและจะนำของมาขายได้ก็จะเป็นช่วง 03.30 น. แต่ ของส่วนใหญ่ จะเป็นคน คัดสรรเองอย่างตั้งใจเนื่องจากมีลูกค้าส่วนใหญ่ต่างบอกว่าอร่อย และมีการบอกกันปากต่อปาก บางคนก็จะสงสารและเข้ามาช่วยยายชื้อจนหมด”ยายสาคร กล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
