สลด! ศิษย์สาวธรรมกาย ป่วยหอบหืด ไลน์ขอความ ช่วยเหลือเพื่อน แต่ไม่ ทันการณ์ สุดท้ายตายคาห้องพัก ขณะที่ทางวัดกับ จนท.ดีเอสไอโต้กันนัว ปมขวางรถพยาบาล ทำให้เสียเวลาเป็นชั่วโมง จนช่วย ผู้ป่วยไม่ทัน กู้ชีพแถลงรับแจ้งไปทันที ไม่มีใครขัดขวาง ไม่ได้ช้าเป็นชั่วโมง “บิ๊กตู่” ไม่ตอบ เรียกประชุมเรื่องธรรมกาย ด้าน “บิ๊กป้อม” บอกคนๆ เดียวออกมามอบตัวทุกอย่างก็จบ “วิษณุ”ชี้ยกเลิกม.44 ไม่ได้ อธิบดี ดีเอสไอเผย นายกฯให้ทำตามกฎหมาย 2 หนุ่มบึงกาฬเถียงเรื่องธัมมชโย ถึงตีกันตาย ส.เปรียญ 9 ออกแถลงการณ์ เรียกร้ององค์กรปกครองชาวพุทธ ฟ้องร้องผู้ที่จาบจ้วงพระพุทธศาสนา ดีเอสไอบุกจับศิษย์เอกธรรมกายขณะเดินอยู่ในตลาดกลาง
วิษณุชี้ยกเลิกม.44ไม่ได้
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายว่า ไม่มีการรายงานเรื่องนี้ในการ ประชุมครม.เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนการจะยกระดับการปฏิบัติการนั้น หน่วยปฏิบัติ การจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งไม่จำเป็นต้องมารายงานต่อที่ประชุมครม.เพื่อให้ข่าวรั่ว เพราะคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมครม.มีเป็นร้อยคน และตอนนี้ไม่จำเป็นต้องประกาศใช้กฎหมายหรือคำสั่งอื่นใดอีกมาดำเนินการ ส่วนจะนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือกฎอัยการศึกมาใช้แทนหรือไม่ ตนไม่ทราบต้องถามฝ่ายความมั่นคง
การที่มีคนพูดว่าขอให้ยกเลิกการออกคำสั่งตามมาตรา 44 นั้นพูดรวมๆ ตนรู้ว่าคนที่ออกมาพูดไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ถ้าอ่านคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 5/2560 จะเห็นว่าไม่ได้ใช้เฉพาะกับกรณีวัดพระธรรมกาย แต่เป็น คำสั่งที่ใช้ควบคุมเหตุการณ์ทำนองนี้ในพื้นที่อื่นๆ ถ้าจะเรียกร้องให้งดใช้คำสั่งนี้กับวัด พระธรรมกาย ซึ่งอาจถูกต้องมากกว่า แต่หากจะให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเลย คงไม่มีใครทำ
บิ๊กตู่ปัดไม่ตอบเรื่องธรรมกาย
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเมื่อค่ำวันที่ 28 ก.พ. โดยบอกว่าบอกไม่ได้ เรื่องของธรรมกายไม่ตอบ
ขณะเดียวกันพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าไม่มีอะไร นายกฯชวนมากินข้าวหมูแดงไม่ได้เรียกประชุมเรื่องธรรมกาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องปรับแผนดำเนินการหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องดูก่อน อะไรที่ทำไปแล้วไม่ก้าวหน้าก็ต้องปรับเพื่อให้ก้าวหน้า ซึ่งนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เป็นผู้รับผิดชอบที่จะไปพูดคุยกับวัดธรรมกาย ตนคิดว่าทั้งสองฝ่ายควรหยุดได้แล้วเพราะความจริงหากคนๆเดียวออกมามอบตัวทุกอย่างก็จบ ประเด็นคือต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูในวัดให้ได้ว่ามีอะไรบ้าง แล้วทำไมจึงไม่ให้เข้า โดยจะทำตามกฎหมายแต่ไม่ใช่ การบุก
เผยนายกฯให้ทำตามกม.
ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางมาเข้าร่วมประชุมประเมินสถานการณ์และแนวทางปฏิบัติการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เช่น พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษก ดีเอสไอ ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และกรมการปกครอง
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวก่อนเข้าประชุมเพียงสั้นๆ ถึงข้อสักถามกรณีนากยกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ารายงานสรุปสถานการณ์ที่เกี่ยวกับคดีวัด พระธรรมกาย เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 ก.พ. ที่ ผ่านมา ว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีข้อสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ให้ดำเนินการตาม กฎหมาย
ติดประกาศห้ามชุมนุม
ส่วนที่หน้าตลาดกลางคลองหลวงมี เจ้าหน้าที่นำป้ายประกาศมาติดไว้ที่เสาไฟฟ้า มีข้อความว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไม่อนุญาตให้ประกอบกิจกรรมชุมนุมจึงขอความกรุณาพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และ ผู้ชุมนุมออกไปจากพื้นที่บริเวณนี้โดยเร็ว เพื่อที่จะประกอบกิจการการค้าได้ตามปกติ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364 และ 365
2 หนุ่มเถียงเรื่องธัมมชโยถึงดับ
เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.อ.ประยูรณ์ ไชยเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ไปตรวจสอบที่ ร.พ.พรเจริญ หลังนายพรหมลิขิต สมการ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 222 หมู่ 10 บ้านโพนแก้ว ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ถูกทำร้ายมารักษาตัวแล้วเสียชีวิต เบื้องต้นพบถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่เหนือหูซ้าย
สอบสวนทราบว่าคนร้ายคือนายธนพล สิงโต อายุ 25 ปี หนุ่มข้างบ้านหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ก่อนญาติพาเข้ามอบตัว สอบสวนทราบว่าทั้งคู่โต้เถียงกันเรื่องว่าดีเอสไอ จะจับพระธัมมชโยได้ไหม จนทะเลาะชกต่อยกัน ผู้ตายสู้ไม่ได้จึงคว้ามีดปลายแหลมจะแทง นายธนพลจึงคว้าท่อแป๊บเหล็กฟาดถูกเหนือหูด้านซ้ายหรือทัดดอกไม้อย่างแรงจนผู้ตายล้มตึงแน่นิ่งไป ญาติเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่ง ร.พ.พรเจริญ ก่อนจะสิ้นใจตายดังกล่าว
ออกหมายเรียก 3 ศิษย์ธรรมกาย
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เผยว่า คณะทำงานจะประชุมร่วมกันเพื่อให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับที่จะแจ้งเตือนไปยังกลุ่มพระสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ที่ปักหลักรวมตัวทั้งบริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี และภายในวัดพระธรรมกาย เกี่ยวกับแนวทางการประกาศห้ามบุคคลผ่าน หรือเข้าออกวัดพระธรรมกาย ในช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 1 มี.ค. นี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาดีเอสไอ เคยออกประกาศแจ้งเตือนไปแล้วหลายครั้ง แต่ยังมีกลุ่มบุคคลฝ่าฝืนเข้าออกพื้นที่ควบคุมพิเศษตามคำสั่ง คสช.อยู่ ขอย้ำว่าผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนจะมีความผิด โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายและบันทึกวิดีโอไว้แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินคดีย้อนหลัง
โฆษกดีเอสไอเผยว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกบุคคลที่มีพฤติกรรม ขัดขวางและปลุกระดมในพื้นที่ประกาศมาตรา 44 ประกอบด้วย 1.นายอัยย์ เพชรทอง 2.นางกชกร ไชยวาน และ 3.นายพยุง อุณหิต โดยให้มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ที่บก.ตชด.ภ.1 ในวันที่ 3 มี.ค. นี้ ส่วนกรณีมีข่าวว่า นายรุ่งโรจน์ เภกะนันทน์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาเคลื่อนไหวร่วมกับศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวงนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาอยู่ ยอมรับว่า ขณะนี้มีความพยายามนำประเด็นการตรวจค้นวัดพระธรรมกายไปขยายผลเชื่อมโยงกับเรื่องการเมืองระดับประเทศ จึงย้ำอีกครั้งว่าเป็นคนละประเด็นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหมายค้นที่ทางดีเอสไอ ร้องขอต่อศาลได้หมดอายุไปเมื่อ วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ทาง ดีเอสไอจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 โดย ไม่ต้องขอหมายค้นใหม่
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ยังกล่าวถึงการติดตามตัวพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับทางการข่าวยังเชื่อว่าพระธัมมชโยยังหลบซ่อนอยู่ภาย ในวัด โดยภายในวัดพบว่ายังมีความพยายามสร้างสิ่งกีดขวางทั้งการขุดวางท่อ และการตั้งถังน้ำมัน พฤติการณ์หลายอย่างชัดเจนว่าเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมี การแจ้งเตือนไปยังวัดไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ควบคุมอีก
สมช.ชี้ยังไม่ต้องใช้พรบ.มั่นคง
ด้านพล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เผยตอนนี้ไม่มีการแจ้งข่าวว่าให้ระวังอะไร และไม่มีสิ่งที่น่าห่วง ขณะเดียวกัน สำหรับการตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตมีส่วนช่วยในการลดการปลุกระดมมวลชนได้ดี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ประมาทไม่ได้ โดยเพ่งเล็งคนบางกลุ่มที่ตั้งเป้าจะสร้างความไม่สงบเรียบร้อย แต่ขณะนี้ยัง ไม่ถึงขั้นที่จะเปลี่ยนไปใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
ต่อข้อถามถึงข่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนเป็นลูกศิษย์ของวัดนี้ทำให้ข้อมูลการปฏิบัติงานของฝ่ายรัฐรั่วไปถึงฝ่ายวัดพระธรรมกายได้รู้ก่อน ตนมองว่าเป็นธรรมดาแต่ละคนมีความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานยังคงทำตามหน้าที่อย่างถูกต้อง และต้องไม่ให้เกิดความรุนแรง
เด้งผกก.คลองหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันพล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 57/2560 ให้พ.ต.อ.เอกเขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จ.ปทุมธานี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 1 และมอบหมายให้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจดังกล่าว โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ศิษย์สาวธรรมกายป่วยตาย
เมื่อเวลา 11.29 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อบัญชี Phra Sanitwong Charoenrattawong โดยมีโลเกชั่น อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ระบุว่า “R.I.P ศพที่ 2 ของ ม.44” เวลา 11.29 น. ได้รับแจ้งจาก ผู้ป่วยโรคหอบหืด ต้องการยาพ่น ซึ่งพักอยู่ที่หลังวัด (58 ไร่) ซึ่งปกติจากจุดรับเรื่องถึงที่พักผู้ป่วยใช้เวลาเดินทางเลียบคลองแอล 10 นาที แต่ทางหน่วยกู้ชีพรัตนเวชติดด่านตำรวจทหาร เพราะตัดสินใจไม่ได้ ต้องถามสอบเจ้าหน้าที่ DSI เท่านั้น หน่วยฯรัตนเวชที่รับเรื่องจึงได้ประสานงานให้รถหน่วยกู้ชีพ 1669 ให้ไปรับคนไข้แทน แต่รถ 1669 มาตามเส้นทางไม่ถูก และไม่ได้รับอนุญาตให้รับคนไข้ที่อื่น นอกจากประตู 7 เท่านั้น
อาสาสมัครรัตนเวชแจ้งว่า ต้องเสียเวลาย้อนไปที่ประตู 7 เพื่อทำเรื่องขออนุญาต และนำทางให้รถ 1669 ไปรับผู้ป่วย เมื่อไปถึงในเวลา 12.39 น. พบผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว เสียเวลาในการติดต่อและผ่านเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 1 ชั่วโมง 10 นาที ระหว่างประสานงานติดต่อผู้ป่วยไม่ได้ เพราะสัญญาณโทรศัพท์ขาดๆ หายๆ ชื่อผู้เสียชีวิต น.ส.พัฒนา เชียงแรง อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาอยู่ จ.พะเยา เป็นลูกศิษย์วัด ช่วยงานพยาบาลศูนย์รัตนเวช
ต่อมาร.ต.อ.อดิศักดิ์ คชสิทธิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง ไปตรวจสอบบันทึกภาพในที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตได้เข้ามาทำงานในวัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี 2540 ส่วนศพผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และจะประสานให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
จนท.กู้ภัยชี้แจงใช้เวลาแค่25นาที
เมื่อเวลา 16.00 น. นายสหพล ศรีสมบัติ อายุ 38 ปี จนท.รถพยาบาลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และนายวชิระ แก้วเกิด อายุ 39 ปี จนท.รถพยาบาล มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าให้ปากคำที่สภ.คลองหลวง ก่อนจะกล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่พบผู้ป่วยเสียชีวิตในพื้นที่ของวัดพระธรรมกาย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ ตอนเวลา 12.10 น. จากนั้นเข้าไปถึงจุดที่ผู้ป่วยอยู่เวลา 12.35 น. ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปกติ และไม่ได้มีการหลงเส้นทาง เพราะมีพยาบาลซึ่งอยู่ในวัดพระธรรมกายเป็นคนนำไป แต่เมื่อไปถึงพบว่าผู้ป่วยไม่มีสัญญาณชีพจึงพยายามช่วยเหลือตามขั้นตอน จนพบว่าเสียชีวิตจริงจึงยุติการช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอน ไม่ได้เลือกปฏิบัติตามที่ถูกกล่าวหาทั้งในโลกโซเชี่ยล และที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา เบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำกู้ภัย และพยาบาลทั้งหมดแล้ว รอผลชันสูตรศพ เพื่อตรวจสอบข้อมูล ก่อนหน้านี้กองอำนวยการคลองหลวงทำข้อตกลงร่วมกับวัดพระธรรมกาย ว่าหากมีคนเจ็บป่วยจะต้องนำตัวมาส่งที่ประตู 7 เท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาเข้าออกพื้นที่วัดพระธรรมกายไม่ได้ แต่ในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือถึงห้องพักหลังพบว่าไม่มีใครนำผู้ป่วยออกมา สพฉ.แจ้งมาก็เร่งดำเนินการทันที ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าพวกเราเข้ามาช่วยเหลือสังคม ไม่เคยแบ่งชนชั้นวรรณะแต่อย่างใด
ดีเอสไออ้างตายมาแล้ว 5 ชม.
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุพร้อมพระมหานพพร และพระสงฆ์อีก 1 รูป รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต เมื่อถึงที่พักซึ่งเป็นแฟลตของเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย ประตู 14 ในพื้นที่ 58 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพบตำรวจสภ.คลองหลวง และแพทย์ที่ชันสูตรอยู่ก่อนแล้ว สอบถามเบื้องต้นแพทย์คาดว่าเสียชีวิตแล้วไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง
ด้านพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค กล่าวยืนยันว่า หลังปภ.ของดีเอสไอได้รับแจ้งเหตุผู้ป่วยได้นำรถฉุกเฉินเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุใช้เวลาเพียง 10 นาที แต่เมื่อไปถึงผู้ป่วยเสียชีวิตไปแล้ว แพทย์ผู้ชันสูตรให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ดังนั้น ต้องตรวจสอบต่อไปว่าเหตุใดยังมีข้อมูลทางไลน์ปรากฏการติดต่อจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตขอความช่วยเหลือไปยังเพื่อนที่อยู่ในอาคารบุญรักษา ในเวลาประมาณ 11.00 น.ได้
ขณะที่พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่มีความกังวลเรื่องความเจ็บป่วยของเจ้าหน้าที่ ในการประชุมเมื่อช่วงเช้าวันนี้ จึงได้มีการหารือกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) ที่ร่วมเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการ ขอให้จัดรถกู้ชีพ 1669 เข้าไปตรวจอาการมวลชนที่อยู่ภายในวัด เพื่อจะได้รู้ด้วยว่าวัดจะอนุญาตให้รถเข้าไปหรือไม่ แต่ก็เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นก่อน
สพฉ.ติงขวางรถฉุกเฉิน
ขณะที่นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กล่าวว่า ในส่วนของการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นเป็นเรื่องที่รอ ไม่ได้ ไม่ควรมีการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม เพราะโดยหลักการสากลแล้วแม้แต่ในภาวะสงครามก็ยังต้องเปิดทางให้กับบุคลากรทางการแพทย์เข้าไปช่วยเหลือชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใด ประตูใดสามารถเข้าไปรับผู้ป่วยได้ก็ควรจะช่วยเปิดทางให้
ผู้สื่อข่าวถามว่าการขัดขวางบุคลากรทางการแพทย์เพื่อเข้าไปช่วยเหลือชีวิตคนนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ นพ.ภูมินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ตามหลักคือไม่ควรจะมีการขัดขวางการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้าไปช่วยเหลือชีวิตคน เจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินในจุดเกิดเหตุให้ข้อมูลว่า เป็นเรื่องจริงเนื่องจากผู้ป่วยอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์บริเวณพื้นที่ควบคุม แต่ไม่ใช่ภายในวัดพระธรรมกาย ซึ่งเมื่อผู้ป่วยมีอาการหอบหืด มีผู้หวังดีประสานโทร.สายด่วน 1669 ซึ่งรถฉุกเฉิน ได้ออกมาทันที แต่มาติดที่ประตู 7 โดย ไม่สามารถผ่านเข้าไปรับตัวผู้ป่วยได้ เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบต่างๆ ซึ่งเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่าไม่ทันการณ์แล้ว
ญาติเตรียมเข้ากรุงรับศพ
ต่อมาช่วงเย็น นางบัวลอย จตุนาม สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา เปิดเผยที่บ้านพักในจ.พะเยาว่า น.ส.พัฒนาผู้ตายเป็นหลานสาวของตน อาชีพพยาบาลรับจ้าง เพิ่งเดินทางกลับมาบ้านเยี่ยมยายเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วกลับไปรับจ้างต่อที่กรุงเทพฯ ทันทีที่ทราบข่าวตนและญาติทุกคนเสียใจอย่างมาก และ ได้เตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในเวลา 19.00 น. วันนี้ เพื่อไปรับศพของหลานสาวนำมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเท่าที่ทราบ หลานสาวของตนเป็นโรคภูมิแพ้ ระหว่างที่รับจ้างอยู่ในวัดพระธรรมกาย คาดว่าจะมีอาการไม่สบายและอาจจะออกมาหาหมอ ลำบาก จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
“สุวพันธุ์”เผยปรับแผนค้นธรรมกาย
ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงการเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและฝ่ายความมั่นคงได้เข้าชี้แจงผลปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงในการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้หารือกับทางสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คณะสงฆ์ และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีแล้ว จะมีการปรับแผนปฏิบัติการบางส่วน เพื่อแก้ไขปัญหา แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะแผนปฏิบัติการต้องดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนข้อเสนอของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิราชที่ออกมาระบุว่าอยากให้รัฐบาลหารือกับทางคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคม เพื่อแก้ไขปัญหาคดีวัดพระธรรมกาย โดยมีการตั้งคณะตัดสินเพื่อระงับอธิกรณ์ตามวินัยสงฆ์นั้น ส่วนตัวน้อมรับแนวทางนี้เป็นข้อเสนอที่ดี และพร้อมดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อยุติ ที่ผ่านมาตัวแทนของหน่วยงานด้านความมั่นคงได้หารือกับพระสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่มาตลอด ซึ่งต้องให้เวลาด้วย
นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลพระสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่วัดพระธรรมกายเป็นความตั้งใจของรัฐบาลอยู่แล้วที่ต้องการให้เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พศ. และมหาเถรสมาคม เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาทั้งการดูแลเรื่องอาหาร และการออกคำสั่งต่างๆ เพื่อเอื้อต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน โดยขอให้ประชาชนและพระสงฆ์ที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ เพราะอาจมีความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายได้ ขณะที่บอกได้เพียงว่ามีการปรับแผนแล้ว ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์ ทั้งนี้ ท้ายที่สุดหากการเจรจาหรือการดำเนินการของฝ่ายสงฆ์ ไม่บรรจุผล หรือยังไม่มีการตอบรับจากฝ่ายวัดพระธรรมกาย สังคมคงเห็นอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นรัฐบาลพยายามหาทางออกที่เหมาะสมแล้ว
ส.เปรียญ9ออกแถลงการณ์
วันเดียวกัน สมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค (สป๙) ออกหนังสือแถลงการณ์ เรื่อง ข้อกังวลและข้อเสนอต่อสถานการณ์และกระแสข่าวลือที่มีต่อพระพุทธศาสนา จำนวน 5 ข้อ ดังนี้คือ 1.สมาคมไม่เห็นด้วยกับการบังคับใช้กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงหลักธรรมและหลักพระวินัยในพระพุทธศาสนา ต้องปกป้องสิทธิและเสรีภาพทางศาสนาของหมู่ชนชาวพุทธ เรียกร้องให้องค์กรปกครองชาวพุทธ ฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ที่จาบจ้วงพระพุทธศาสนาให้ถึงที่สุดโดยเร็ว 2.ไม่เห็นด้วยกับการเตรียมการออกกฎหมาย ที่จะมีผลบังคับต่อประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยพุทธ เช่น บังคับให้พระสงฆ์บวชตลอดชีวิต ห้ามมิให้พระสงฆ์รับมรดก เป็นต้น หากบัญญัติกฎหมายข้อนี้มาบังคับใช้ จะเป็นการทำลายศาสนทายาทของพระพุทธศาสนาให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 3.การบังคับให้สถาบันการศึกษาของสงฆ์จัดการเรียนการสอนเฉพาะหลักสูตร ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในวิชาการชั้นสูงอย่างอื่น เป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของชาวพุทธอย่างร้ายแรง สมาคมเห็นด้วยกับการไม่แบ่งแยกนิกาย สมควรให้มีการรวมนิกายเถรวาทไทยเข้าด้วยกัน เพราะไม่มีกฎหมายฉบับใดที่ให้พระสงฆ์ไทยดั้งเดิมต้องแบ่งแยกนิกาย เป็นเพียงแต่การนับถือปฏิบัติตามคำสอนของครูอาจารย์ที่แตกต่างกันเท่านั้น
4.เห็นด้วยที่จะให้นำพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2484 มาปรับใช้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้พระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถและยังอยู่ในวัยที่สมควร ให้มามีส่วนร่วมและแบ่งเบาภาระพระมหาเถระ ในการบริหารกิจการพระพุทธศาสนา และ 5.สมาคมขอเรียกร้องให้องค์กรชาวพุทธทั่วประเทศ จัดประชุมธรรมสภา รับฟังและระดมความคิดเห็นต่อสถานภาพของพระพุทธศาสนาภาย ใต้กฎหมายไทยจากสันนิบาตชาวพุทธทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอแนวคิดต่อองค์กรผู้รับผิดชอบในการบัญญัติกฎหมายในการปฏิรูปพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
จับศิษย์เอกธรรมกาย
เวลา 18.00 น. ที่ตลาดกลางคลองหลวง ศิษยานุศิษย์วัดธรรมกาย ได้ร่วมกันจัดพิธี สวดพระอภิธรรม ให้กับ น.ส.พัฒนา เชียงแรง โดยในพิธี มีพระสงฆ์จำนวน 4 รูป มานั่งสวดพระอภิธรรม ก่อนที่ทางลูกศิษย์จะถวายผ้าบังสุกุล และกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้กับ น.ส.พัฒนา พร้อมกับปล่อยนก เพื่อเรียกร้องสันติภาพ พระเสกสรรค์กล่าวว่า วันนี้ได้เกิดเหตุสลดสังเวย มาตรา 44 อีกหนึ่งศพ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่กู้ชีพไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทัน เพราะติดขั้นตอนการประสานงาน จากเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เพื่อขอผ่านเข้าไปรับผู้ป่วยในที่พัก จากนั้นพระปลัดเสกสรรค์ ได้นำภาพซึ่งเป็นแช็ตจากข้อความทางไลน์ ที่ น.ส.พัฒนาส่งมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมาแจก ให้กับสื่อมวลชนได้ดูอีกด้วย
เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ควบคุมตัวนายอัยย์ เพชรทอง แกนนำศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายมา สอบสวน ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมมาอย่างแน่นหนา เมื่อถึงห้องประชุมด้านหลัง บก.ตชด.ภ1 นายอัยย์ได้ยกนิ้วให้ผู้สื่อข่าวก่อนจะถูกนำตัวเข้าไปสอบสวนอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ
ดีเอสไอแจงเหตุสาวเสียชีวิต
เมื่อเวลา 18.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภ.1 (ตชด.ภ.1) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายอัยย์ เพชรทอง ในข้อหาขัดคำสั่งของเจ้าพนักงาน ส่งตัวไปแล้ว เพราะมีการกระทำต่างกรรมต่างวาระมีในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา มีทั้งหมด 20 คน เรียกมารายงานตัวแล้ว 1 คนคือ พระมหานพพร ไม่เฉพาะแต่ในนายอัยย์ หากใครที่ฝ่าฝืนคำสั่งในพื้นที่ควบคุมพิเศษ เมื่อมีการกระทำความผิดถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ตายรายล่าสุดพบว่าอยู่ในวัดมานาน เป็นเภสัชกร มีน้องชายบวชเป็นพระในวัดพระธรรมกาย และมีโรคประจำตัว เป็นโรคภูมิแพ้และโรคทางเดินหายใจ หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือแต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว จากข้อเท็จจริงเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่บริเวณคลองแอลเป็นชุดแรกที่ได้รับแจ้งจากหญิง 2 คน มาร้องขอให้ช่วยเหลือ และพาเจ้าหน้าที่ไปประตู 7 พร้อมแจ้งศูนย์แพทย์ฉุกเฉิน จากนั้น 12.10 น. ก็ได้รับแจ้งจากหญิงชื่อหมวย ซึ่งแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังร.พ.ปทุมธานี ในกรณีเดียวกัน ทั้งนี้ใช้เวลาเดินทางจากประตู 7 ไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมอุปกรณ์กู้ชีพ เมื่อขึ้นไปถึงห้องพัก ชั้น 4 พบว่าประตูปิดล็อก เจ้าหน้าที่ต้องทำลายประตูเข้าช่วยเหลือ ขณะที่เปิดไปพบผู้ป่วย แพทย์ตรวจสอบแล้วยืนยันเสียชีวิตแล้ว
พื้นที่หญิงเสียชีวิตดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งเวลาเดินทางจากประตู 7 ไปที่เกิดเหตุใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที แต่ไม่ถือว่าล่าช้า เพราะเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดใช้เวลาประมาณ 12.20 น. ต่อมาเวลา 13.30 น. พระมหานพพรได้แจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ไปที่จุดเกิดเหตุด้วยกัน เมื่อไปถึงก็พบว่ามีชุดให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว ชุดของพระมหานพพร คือชุดกู้ภัยสุดท้ายที่เข้ามา
โต้มีปัญหาเข้าพื้นที่วัด
รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า ในส่วนของการมีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นมีการโจมตีว่าเจ้าหน้าที่ทำการกีดกัน คัดกรอง ใช้เวลานานทำให้หน่วยกู้ชีพไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทันไม่เป็นจริง เนื่องจากหน่วยแพทย์พร้อมที่จะเข้าไปช่วย แต่มีปัญหาเรื่องการผ่านเข้าไปในพื้นที่วัด ทั้งที่พยายามประสานงานแต่การเข้าออกภายในต้องได้รับความยินยอมจากทางวัด ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อและทำความเข้าใจญาติผู้ตายได้แล้ว เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายเสียชีวิตประมาณเวลา 12.00-12.30 น. ซึ่งจะต้องรอผลการชันสูตรยืนยันจากแพทย์ อย่างไรก็ตาม การบิดเบือนข้อมูล ให้ข่าวเท็จทางดีเอสไอจะพิจารณาหากเข้าข่ายหมิ่นประมาทอาจจะมีการดำเนินการทางคดี
“ที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐไม่อยากเสียเวลากับเรื่องจุกจิก สิ่งที่พยายามกล่าวหาเจ้าหน้าที่สุดท้ายความจริงจะปรากฏ สำหรับพระสนิทวงศ์จะมีการกล่าวโทษดำเนินคดีเร็วๆ นี้ ส่วนการจับกุมขอให้เป็นวิจารณญาณและเทคนิคของเจ้าหน้าที่ เพราะไม่อยากเข้าดำเนินการจน เกิดประเด็นขัดแย้งตามมา” พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าว
กลางถนน – พระวัดพระธรรมกายฉันเช้าบนถนนเลียบคลองแอล หน้าด่านตรวจของ เจ้าหน้าที่ บริเวณประตู 5 หลังเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้กลับเข้าวัดทางประตูนี้ โดยให้ไปเข้าทางประตู 7 เพียงประตูเดียว เมื่อวันที่ 1 มี.ค.
พิษธัมมชโย-ตร.นำตัวนายธนพล สิงโต ทำแผนฯใช้เหล็กแป๊บฟาดนายพรหมลิขิต สมการ เพื่อนบ้านเสียชีวิต หลังจากเถียงกัน เรื่องจับพระธัมมชโย แล้วความเห็นไม่ตรงกัน ที่หน้าบ้านในอ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เมื่อ 1 มี.ค.
