ฟัน “เบนซ์ เรซซิ่ง” ฐานฟอกเงิน ตำรวจ ปส. เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา 6 มี.ค. แต่ยังไม่ได้รับการประสานว่าจะมาหรือไม่ หลังพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน พบเข้าข่ายสมคบคิดกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน ก่อนขอออกหมายจับ “บอย” ก็โดนด้วย หากเดินทางเข้ามาก็จะสอบปากคำ ก่อนส่งฝากขังทันที ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล
จากกรณีแผนปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 60/2 ของตำรวจ ปส. นำโดย พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ลุยตรวจค้น 40 จุดเป้าหมายทั่วประเทศ เพื่อทลายเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวลาว ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 ม.ค. คาสนามบินสุวรรณภูมิ โดย 1 ในนั้นมีแอเรีย 51 ที่อาคารธนดลแมนชั่น ย่านอินทามระ ซึ่งเป็นร้านแต่งรถบิ๊กไบก์ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถจักรยานยนต์ สามี แพท-ณปภา ตันตระกูล ดาราสาวและพิธีกรชื่อดัง หลังถูกซัดทอดมีหน้าที่ฟอกเงินให้เครือข่าย
จากนั้นนายอัครกิตติ์ ได้เดินทางมาพร้อมทนายความนำหลักฐานเอกสารบางส่วนเข้าชี้แจงกับตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถึงที่มาที่ไปของทรัพย์สินหลายรายการ โดยเฉพาะ รถยนต์หรูลัมโบร์กินี รุ่นกัลลาโด รุ่นย่อย Super Leggera LP 570-4 สีเทา-ดำ ที่มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยเบนซ์อ้างว่ารถคัน ดังกล่าว ได้ยืมเงินมาจากนายบอย ขณะที่ตำรวจสงสัยว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวโยงกับเครือข่ายนายไซซะนะ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 มี.ค. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผบช.ปส. เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือในวันนี้ได้ข้อสรุปว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฟอกเงิน” ต่อนายอัครกิตติ์ เนื่องจากพบพิรุธของธุรกรรมทางการเงินหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับนายบอย ผู้ต้องหาค้ายา ซึ่งเบนซ์ เรซซิ่งชี้แจงไม่กระจ่างและยังมีข้อสงสัยหลายประการ รวมถึงเอกสารการครอบครองรถหรูลัมโบร์กินี รถจักรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและเคทีเอ็มที่มีการรับโอนเงินจากนายบอยด้วย จนทำให้เจ้าหน้าที่พิจารณาและออกหมายเรียก โดยได้ประสานให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันจันทร์ที่ 6 มี.ค. ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้รับการตอบรับจากนายอัครกิตติ์ ว่าจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันดังกล่าวหรือไม่
ขณะที่ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้นำพยานหลักฐานไปขออนุมัติศาลออกหมายจับนายอัครกิตติ์ และนายบอย ต่อศาลอาญารัชดาภิเษก หลังการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า พฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน โดยศาลพิจารณาแล้วอนุมัติหมายจับนายบอย ในฐานความผิดตามคำร้อง ซึ่งพนักงานสอบสวนเตรียมเข้าแจ้งข้อหาและอายัดตัวดำเนินคดีที่เรือนจำกลางคลองเปรม
ส่วนนายอัครกิตติ์ ศาลพิจารณาแล้วพบว่า ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้ออกหมายเรียกให้เข้าให้ข้อมูลหลายครั้ง และได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เห็นว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน
โดยพนักงานสอบสวน บช.ปส. จะออกหมายเรียกให้นายอัครกิตติ์ เข้ารับทราบ ข้อกล่าวหา ในวันจันทร์ที่ 6 มี.ค. เวลา 09.30 น. ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน หากนายอัครกิตติ์ เดินทางมาในวันดังกล่าวพนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำ จากนั้นจะนำตัวไปส่งฟ้องและฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ส่วนการขอปล่อยตัวชั่วคราวนั้น ให้เป็นดุลพินิจของศาล หากไม่มาตามนัดก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป
