อดีตนางงาม จับมือ ม.ราม เปิดตัว ขนมไทยผสมกัญชา โกอินเตอร์ อวดทำน้ำตาล ความดันลด!
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ดร.แก้มหอม ณ ลานช้าง หรือ แม่มดกัญชา พร้อมด้วย นายบัณฑูร นิยมาภา หรือ ลุงตู้ ผู้บุกเบิกให้สารกัญชารักษามะเร็ง , น.ส.ชนากานต์ ชัยศรี หรือ ส้ม อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 1990, รศ.ดร.วรรณา มุสิก คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ อ.ชาตรี นิลน้ำเพ็ชร ผอ.สถาบันคอมพิวเตอร์ ม.รามคำแหง ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัว การนำขนมไทย ที่ ผสมผสานกัญชา ไปเปิดขายในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย
ดร.แก้มหอมกล่าวว่า โครงการที่เราจะไปเปิดตัวนั้น จะเป็นขนมไทย ที่มีส่วนผสมของกัญชา ไปขายในต่างประเทศ เนื่องจากประเทศเรายังไม่เปิดโอกาสให้มีความเสรีในเรื่องกัญชา ประกอบกับตนเห็นว่า ขนมเมืองนอก ที่มีส่วนผสมของกัญชาทั้งช็อกโกแลต บราวนี่ ทุกอย่าง ขายดีหมด เราจึงอยากจะนำขนมไทย ที่เป็นหนึ่งอย่างหนึ่งของไทย ไปทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก เราจึงนึกถึง คุณส้ม ทันที จึงได้มีการติดต่อประสานงานเพื่อติดต่อให้มาคิดค้นสูตรขนมไทยขึ้นมา
โดยเมนูแรก ที่เราจะเริ่มวางขาย คือ ทองเอก ซึ่งตอนนี้มีออร์เดอร์แล้ว ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทางเจ้าของโรงแรมได้ติดต่อตนมา ว่าอยากจะนำขนมไทยไปวางขายในร้านอาหารของโรงแรม โดยเราจะนำขนมวางขายในต่างประเทศ ที่มีความเสรีในเรื่องกัญชา
ทั้งนี้ ตนอยากให้บุคลากรทางการแพทย์ เปิดใจ เรียนรู้ว่า กัญชานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อให้ประเทศเราได้เจริญก้าวหน้า
ด้าน น.ส.ชนากานต์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1990 ทำงานเกี่ยวกับจิตอาสามาโดยตลอด ตนถือว่านางงามคนแรกของโลก ที่เป็นเชฟด้วย ตนจบการเรียนเชฟจากเลอ กอร์ดอง เบลอ เรียนจบทั้ง อาหาร และ ขนม มาโดยเฉพาะ ซึ่งตนก็อยากจะทำประโยชน์ให้สังคม โดยขนมไทยที่ตนได้คิดค้นสูตรนั้น จะไปทำที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ซึ่งจะสามารถทานได้ สำหรับคนที่มีอายุ อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยเราจะเคร่งครัดในเรื่องของปริมาณกัญชา เราจะต้องมีการกำหนดปริมาณของกัญชาอย่างชัดเจน เพื่อให้เป็นประโยชน์ ปลอดภัย และถูกต้อง
น.ส.ชนากานต์กล่าวต่อว่า ซึ่งคนสูงอายุสามารถทานได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน หากทานขนมของเรา ที่มีส่วนผสมของกัญชา ทำให้น้ำตาลและความดันลด ทำให้คนที่กินขนมหวาน ช่วยเรื่องน้ำตาลได้ โดยรสชาติ และสีของขนม จะไม่เปลี่ยนแปลง เราใส่กัญชาที่สกัดแล้ว
ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าในประเทศของเรายังไม่ได้เปิดให้สามารถนำกัญชามาผสมในอาหาร ฉะนั้น ร้านขนมของตน ยังเป็นร้านขนมหวานปกติ ไม่มีส่วนผสมของกัญชา หากประเทศเราเปิดเสรีแล้ว คนไทยจะได้มีโอกาสทานขนมของตนแน่นอน
นายบัณฑูรกล่าวว่า ตนเชื่อว่าในอนาคต ประเทศไทยของเราจะเปิดเสรีเรื่องกัญชา เพราะ หากคิดทางการแพทย์ กัญชา สามารถเป็นส่วนของยา รักษาคนป่วยได้ ตนใช้กัญชามากว่า 50 ปี ยังไม่เป็นอะไร สติยังครบทุกประการ ร่างกายแข็งแรง เรามองว่ากัญชามีผลต่อการแพทย์ คนป่วยรอไม่ได้ ชีวิตคนเราสำคัญกว่ากฎหมาย เราจึงต้องนำกัญชามาประยุกต์ใช้ในการแพทย์ ในส่วนของอาหารอนาคตเราต้องมีการพัฒนาอย่างแน่นอน
รศ.ดร.วรรณากล่าวว่า เราในฐานะสถาบันศึกษา อยากจะให้ความรู้กับประชาชนที่ให้ความสนใจในเรื่องกัญชา อยากให้รู้จักกัญชาในทางที่ถูกต้อง จึงมีการจัดอบรมเรื่องกัญชา ในวันที่ 30 เม.ย. เวลา 08.30-16.30 น.
รศ.ดร.วรรณากล่าวต่อว่า ทั้งนี้กัญชาสามารถนำมาผลิต เป็นสินค้าต่างๆ ได้มากมาย แต่จะต้องมีการตรวจสอบ วิจัย ให้ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น เนื่องจากเรายังติดในเรื่องของกฎหมายอยู่ ประเทศเรายังไม่สามารถผสมได้ ผลิตที่ประเทศอเมริกา เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยยอมรับ จะมีการเปิดขายทันที
ด้าน น.ส.ศศินันท์ สีทอง อายุ 35 ปี กล่าวว่า ตนเองมีลูกสาวชื่อ น้องแก้มหอม อายุ 8 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรค CP ซินโดรม หรือน้ำคั่งในสมองแต่กำเนิด โดยได้ทดลองรักษากับลุงตู้มาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว ผลที่ได้รับก็คือ น้องมีอารมณ์ดีขึ้น ไม่เกรี้ยวกราด มีการตอบรับของสมองดีขึ้น ไม่มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ส่วนผลข้างเคียงไม่มีอาการขาดยา ต่างจากการที่ไปรับการผ่าตัดที่มีอาการติดมอร์ฟีน โดยส่วนตัวคาดหวังกับกฎหมายที่จะอนุญาตให้สามารถนำกัญชามาผลิตเป็นยารักษาโรคอย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากใช้แล้วผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นจริงอย่างที่ครอบครัวของตนได้ทดลองใช้
