น้องสาว เหยื่อถูกตบจนแท้งตาย เผยปมถูกรุมตบ พยายามห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล! ถูกขู่ซ้ำ “เจอที่ไหนจะตบอีก” ด้านครอบครัว วอนหยุดแชร์คลิป รับสุดสะเทือนใจ ขอให้น้องจากไปอย่างสงบ

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอเหตุการณ์วัยรุ่นหญิงทะเลาะวิวาทกัน บริเวณริมชายทะเลปากน้ำปราณ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุข้อความในลักษณะทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกระบุว่า เป็นหลานสาวของตนเอง ว่าถูกคู่กรณีคนหนึ่งทำร้ายร่างกาย ตบตีจนได้รับบาดเจ็บและน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญ จนทำให้แท้งลูกขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ แต่หลานสาวไม่ได้ไปรักษาตัว จนทำให้ตัวอ่อนเด็กในครรภ์เน่า รุกลามกระทบอวัยวะภายใน และสุดท้ายแพทย์ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 26 เม.ย.ญ ที่วัดรังษีนิมิต หรือวัดไทรงาม บ้านแก่งกระทิง ม.7 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ครอบครัวและญาติของ น.ส.วรรณภา แพงบุตร์ดี หรือ น้องเดย์ อายุ 21 ปี ผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งน้องเดย์เป็นหญิงสาวที่ปรากฏตัวอยู่ในคลิปเหตุการณ์วัยรุ่นหญิงทะเลาะวิวาทตบตีกัน วันนี้ทางครอบครัวได้ร่วมกันทำบุญกระดูกให้กับน้องเดย์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับซึ่งถือเป็นการทำให้กับญาติอันเป็นที่รัก เป็นครั้งสุดท้าย

น.ส.วิภาดา แพงบุตร์ดี น้องสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฏ เปิดเผยกับ ข่าวสด ว่า ในวันเกิดเหตุประมาณเดือน พ.ค. 2561 ตนพร้อมกับพี่สาวนัดกันไปกินหมูกระทะริมทะเลปากน้ำปราณ โดยมีเพื่อนไปกินด้วยอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน กระทั่งช่วงกินอิ่มเพื่อนได้ขอตัวไปซื้อของใช้ส่วนตนและพี่สาวยังนั่งเล่นต่อ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

น.ส.วิภาดา กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นปรากฏว่ามีผู้หญิงชื่อ กานต์ ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพร้อมกับเพื่อน ซึ่งตนเห็นก่อนเพราะนั่งหันหน้าออกถนน จึงบอกพี่สาวว่า เพื่อนที่ชื่อกานต์ ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา เมื่อสังเกตจึงเห็นว่ายังมีกลุ่มเพื่อนชายหญิงของกานต์ติดตามมาอีกหลายคัน ขณะนั้นพี่สาวนั่งหันหลังอยู่ บอกเพียงว่าไม่เป็นไรไม่ได้สนิทมากไม่ต้องสนใจก็ได้ให้กินอาหารต่อ

“แต่ระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงดังมาจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว แต่ไม่รู้ว่าใครพูด บอกว่า “เล่นเลยมั้ย” ซึ่งตนก็ยังไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร แต่พอไม่นานรถของคนชื่อกานต์ได้เลี้ยวมาจอดใกล้ ๆ แล้วลงจากรถมาตบพี่สาวของตน โดยที่ไม่พูดพร่ำทำเพลง ซึ่งพี่สาวไม่ทันตั้งตัว และสู้ไม่ได้ เพราะตัวเล็กกว่ามาก จึงเหมือนถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว ตนพยายามจะเข้าไปห้ามและร้องขอให้ปล่อยตัวพี่สาวแล้ว แต่ไม่เป็นผลถูกผลักออกมาหลายครั้ง เมื่อพี่สาวได้รับบาดเจ็บแล้ว บุคคลดังกล่าวได้จากไป” น.ส.วิภาดา กล่าว

น.ส.วิภาดา กล่าวต่อว่า วันนั้นไม่ได้แจ้งความ แต่กลับมาทำแผลที่บ้าน พี่สาวตาบวมฟกซ้ำดำเขียวตามร่างกาย เบื้องต้นพี่สาวเล่าว่า สาเหตุที่ถูกทำร้ายน่าจะเกิดจากความไม่พอใจ ที่พี่สาวไม่ให้คู่กรณียืมเงิน เพราะนอกจากเรื่องเงินแล้วก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องอื่นกันมาก่อนหน้านี้เลย

น.ส.วิภาดา กล่าวว่า จากนั้นเวลาผ่านไปนานนับเดือน พี่สาวไปอ่านพบข้อความในเฟซบุ๊กของคู่กรณี ได้โพสต์ข้อความในลักษณะว่า เจอที่ไหนจะตบอีก ทำให้พี่สาวเกิดความไม่พอใจที่ถูกทำร้ายแล้วยังไปโพสต์ว่าจะก่อเหตุซ้ำสอง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.ปากน้ำปราณ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวคู่กรณีมาสอบปากคำ ซึ่งมีพ่อมาด้วย แต่พอพี่สาวตนเห็นพ่อของคู่กรณี ก็จำได้ว่ามีอาชีพขายไส้กรอกในพื้นที่ มีรายได้น้อย หากพี่สาวจะเอาเรื่องต่อก็คงต้องเสียเงินทองมาก ทำให้เกิดความสงสาร ไม่เอาเรื่องต่อ

“เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำได้เพียงเปรียบเทียบปรับไปเป็นเงิน 500 บาทเท่านั้น จากเหตุทะเลาะวิวาทกัน ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว พี่สาวไม่เคยเล่าให้พ่อและครอบครัวฟังมาก่อนเลย เพราะเห็นว่าย้ายออกมาอยู่ลำพังกับครอบครัวตัวเองแล้ว จึงไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วง ทำให้ที่บ้านไม่มีใครทราบเรื่อง จนกระทั่งมาเห็นคลิปเหตุการณ์ในวันเผาศพพี่สาวเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา” น.ส.วิภาดา กล่าว

ด้าน นางอุบล มะกง อายุ 45 ปี ป้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ประมาณเดือน พ.ย. 2561 หลานสาวมีอาการป่วย ตัวซีด ซึ่งตอนนั้นหลานสาวเลิกกับสามีแล้ว จึงพากลับมาอยู่ที่บ้านแล้วจึงพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน แพทย์ตรวจพบว่า ป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ระยะ 3B ซึ่งเป็นระยะรุกลาม ทำได้เพียงรักษาตามอาการ ซึ่งหลานสาวยังมีกำลังใจดี พยายามสู้กับอาการป่วย ไม่บ่น ซึ่งพ่อและญาติ ๆ ต่างคอยดูแลตลอดเวลา จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต หลานสาวได้จากไปอย่างสงบ

นางอุบล กล่าวต่อว่า ทางครอบครัวจึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบด้วย ซึ่งญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงไม่ได้แจ้งความเพื่อเอาผิดใคร ทั้งนี้ ได้ทำพิธีทางศาสนา สวดพระอภิธรรมรวม 3 วัน และฌาปณกิจศพ ไป เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ในวันดังกล่าวปรากฏมีการส่งต่อคลิป เหตุการณ์ที่หลานสาวถูกทำร้ายหลุดออกมาในสังคมออนไลน์ ทำให้ครอบครัวได้ทราบเรื่องพร้อมกันในวันดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ญาติของน้องเดย์ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ทนไม่ไหวนำคลิปและข้อความไปโพสต์เพื่อต้องการอยากให้สังคมได้รับรู้

“ทั้งนี้ หลังจากครอบครัวได้พูดคุยปรึกษากันแล้ว ไม่อยากให้รื้อฟื้น ครอบครัวให้อภัยคู่กรณี และไม่อยากให้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวอีก ยอมรับว่าภาพเหตุการณ์ในคลิป สะเทือนใจญาติ ๆ มาก โดยเฉพาะคุณพ่อของน้องเดย์ที่ยังทำใจไม่ได้กับภาพที่เห็น แต่ในเมื่อน้องได้จากไปอย่างสงบแล้ว ก็ขอให้ทุกอย่างยุติลง วันนี้ครอบครัวทำบุญกระดูกให้น้อง ส่งน้องไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคภัยและเรื่องทุกข์ใจอีกต่อไป ครอบครัวจึงอยากวิงวอนให้สังคมออนไลน์ยุติลงเพียงเท่านี้ ต้องขอความเห็นใจจากสื่อทุกสื่อด้วย ขอให้น้องได้ไปอย่างสงบไม่ต้องห่วงอะไรอีก” นางอุบล กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน