ธรรมกายระดมศิษยา นุศิษย์สวดมนต์วันพระ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 มี.ค. ปัดไม่เกี่ยวระดมคนปกป้องวัดตามกำหนด5 วันที่ดีเอสไอจะจบเรื่อง รองอธิบดีพลิ้วอีก อ้างไม่เคยพูด ขณะที่สำนักพุทธฯรับทราบคดีธัมมชโย เตรียมนำเสนอที่ประชุมมหาเถรฯเป็นวาระจร ให้จับสึกฐานรับของโจร เผยจะเรียกคืนพัดยศพระทัตชีโว หลังมีโปรดเกล้าฯ ถอดสมณศักดิ์ ดีเอสไอฮึ่มถอนประกันพระเสกสรรค์ หลังไปให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ ชี้ขัดเงื่อนไขประกันตัวศาล พระสนิทวงศ์เข้ามอบตัวกองปราบปราม ศาลให้ประกันตัวตีราคา 4 แสน ขณะที่ตำรวจสภ.คลองห้า เข้าอายัดตัวต่อข้อหาขัดคำสั่งคสช. “ตชด.-ทหาร”บุกเข้าประตู 4 แต่เจอกำแพงมนุษย์ต้องถอยกลับ
“บิ๊กตู่”โต้เข้าตีธรรมกาย
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่พล.ม.2 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ขอชี้แจงถึงกระแสข่าวว่าอีก 5 วันจะมีการเผด็จศึกวัดพระธรรมกายนั้น นายกฯตรวจสอบแล้วว่าดีเอสไอไม่ได้พูด จึงขอร้องสื่อว่าคงไม่ใช่ว่า 5 วัน ที่จะจบประเด็น ขอร้องอย่าไปตีความแบบนั้น
“ที่พูดว่า 5 วันนั้น ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปเผด็จศึกหรือเข้าตี ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้เกิดปมประเด็นทำให้ฝ่ายต่างๆ นำไปขยายผลในเชิงเสียหายได้ จึงต้องมีความรอบคอบในการดำเนินการและมีความยืดหยุ่นอย่างสูง ฉะนั้นเรื่องเวลา 5 วันที่พูดถึงนั้นหมายความว่าจะมีความคืบหน้าให้เห็นเป็นระยะ” พล.ท.สรรเสริญกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมมหาเถรสมาคม ในวันที่ 10 มี.ค.นี้นายกฯ สั่งการหรือมอบหมายโยบายเกี่ยวกับวัดธรรมกายอย่างไรบ้าง พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า เป็นเรื่องการประสานงานระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องทำอะไร ซึ่งนายกฯ รับทราบและมอบให้รัฐมนตรีทุกคนติดตามข้อมูลโดยตลอด และให้ทุกคนช่วยกันชี้แจงให้สังคมทราบว่าเรื่องวัดธรรมกายไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องของการกระทำผิดกฎหมาย ที่ขออย่างเดียวคือให้เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมส่วนจะถูกจะผิดก็ว่ากันไป
ศิษย์วัดบุกจี้เลิกมาตรา44
ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ตัวแทนมูลนิธิวัดพระธรรมกาย นำโดยน.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน เรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 5/2560 เรื่อง มาตรการให้อํานาจกําหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม และสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ และทหาร ออกจากพื้นที่วัด
น.ส.ลีลาวดีกล่าวว่า คณะศิษย์วัดพระธรรมกาย ขอเรียกร้องให้นายกฯ ยกเลิกการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ประกาศให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม เนื่องจากอำนาจตรวจค้นวัดตามที่ศาลอาญา อนุมัติหมายค้นเพื่อนำไปสู่หมายจับพระไชยบูลย์ สุทธิผล มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 16-28 ก.พ.ที่ผ่านมา และเมื่อเจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการตรวจค้นจนครบกำหนดแล้วยังไม่พบพระไชยบูลย์ ต่อมาศาลไม่อนุมัติออกหมายค้นให้อีก ถือว่าอำนาจในการค้นสิ้นสุดลงแล้ว แต่การที่ยังคงมาตรา 44 ไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร ควบคุมและยึดครองวัดทั้งที่หมายค้นหมดอายุความ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และลิดรอนสิทธิมนุษยชน ทั้งตรวจสอบบุคคลผ่านเข้าออก ตัดสัญญาณโทรศัพท์ฯ ทำให้พระสงฆ์ที่ปฏิบัติศาสนกิจในวัด และประชาชนที่อยู่โดยรอบวัดได้รับความเดือดร้อน จึงขอให้นายกฯ พิจารณาคืนพื้นที่วัดพระธรรมกายให้กับพระสงฆ์และประชาชนโดยเร็ว
ฮึ่มถอนประกันพระเสกสรรค์
ที่บก.ตชด.ภาค 1 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ ร่วมแถลงการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย โดยพ.ต.อ.ทรงศักดิ์ระบุว่าไม่ได้พูดว่าเรื่องธรรมกายจะจบภายใน 5 วัน เพียงแต่บอกว่าขั้นตอนจะต้องเร่งปฏิบัติให้จบโดยเร็ว
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ส่วนที่พระปลัดเสกสรรค์ อัตตทมโม พระลูกวัดพระธรรมกาย และแกนนำพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ที่ตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ หลังจากปล่อยชั่วคราวนั้น ดีเอสไอ ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว เพื่อส่งให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการประกันตัว ซึ่งศาลก็จะใช้ดุลยพินิจว่าการกระทำดังกล่าวผิดเงื่อนไขที่ศาลห้ามหรือไม่ ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับการเข้าพื้นที่ควบคุมพิเศษ และให้งดการสัมภาษณ์ในลักษณะยุยงปลุกปั่นหรือก่อการในลักษณะวุ่นวาย
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอได้มีการสรุปคดีวัดพระธรรมกายให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ว่า เป็นการแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีของพระสงฆ์ที่ทางดีเอสไอดำเนินการอยู่ ซึ่งทางพศ.ก็มาช่วยตรวจสอบเรื่องพระธรรมวินัย ส่วนข้อเท็จจริงดังกล่าวจะเพียงพอให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ดำเนินการสึกพระธัมมชโย ได้หรือไม่ ต้องรอให้ทาง มส. เป็นผู้วินิจฉัย
ส่งคดีธัมชโยให้มหาเถรฯ
พ.ต.ต.วรณันกล่าวถึงกรณีปรากฏภาพผ่านสื่อโซเซี่ยลซึ่งเป็นภาพทหารหมอบคลานเข้าไปในพื้นที่อาคารบุญรักษา วัดพระธรรมกายนั้น เป็นการลงพื้นที่ปฏิบัติการปกติของทหาร เพื่อตรวจสอบกรณีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีน้ำเน่าเสียไหลเข้าพื้นที่เกษตร ขณะลงพื้นที่พบว่ามีการระดมมวลชนและพยายามจะหยิบของภายในกระเป๋าเป้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหมอบลงเพราะเกรงว่าอาจเป็นการหยิบอาวุธเพื่อขัดขวางการทำงาน
รองโฆษกดีเอสไอกล่าวด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าบริเวณเลียบคลองสาม ซึ่งใกล้กับประตู 4 วัดพระธรรมกาย มีวัตถุเป็นของแข็งขว้างเข้าใส่กระจกด้านหน้ารถของทหาร จากการตรวจสอบร่องรอยพบมีขนาดใกล้เคียงกับที่เคยเกิดเหตุกับรถของตำรวจ ตชด. ที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง เบื้องต้นมีการนำรถมาตรวจสอบที่บก.ตชด.ภ.1 ก่อนไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.คลองหลวง
พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 27/2559 คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ให้รายงานข้อเท็จจริงในการดำเนินคดีอาญากับพระธัมมชโย ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ซึ่งผลการสอบสวนพบหลักฐานมีมูลเพียงพอให้น่าเชื่อว่าพระธัมมชโยกระทำความผิดจริง ต่อมาอัยการก็มีความเห็นสั่งฟ้องคดี แต่พระธัมมชโยหลบเลี่ยงไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้เจ้าหน้าที่มีหมายค้นและหมายจับแต่พระธัมมชโยยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมอบตัว ล่าสุดพระธัมมชโยยังฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เรียกให้เข้ารายงานตัวถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้ ดีเอสไอจะนำเรื่องชี้แจงต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ด้วยว่าการกระทำความผิดในข้อหารับของโจรต้องอาบัติปราชิก จึงขอยื่นเรื่องให้พศ.ส่งต่อไปยังมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อพิจารณาตามพระธรรมวินัย
สั่งริบพัดยศ”ทัตตชีโว”
ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑล จ.นครปฐม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวว่า ดีเอสไอ สตช. และปปง. ยื่นหนังสือถึงมหาเถรสมาคม (มส.) ผ่านตนในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม เพื่อขอให้นำเรื่องคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย เข้ากราบทูลสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) และที่ประชุมมหาเถรฯ เพื่อพิจารณาความผิดทางคดีอาญาของพระธัมมชโย ในทางพระธรรมวินัยแล้วถือว่ามีความผิดหรือไม่ มากน้อยเพียงใด โดยจะนำเรื่องทั้งหมดเข้าหารือในที่ประชุมมหาเถรฯ วันที่ 10 มี.ค.นี้ เป็นวาระจร
พ.ต.ท.พงศ์พรกล่าวต่ออีกว่า ส่วนที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการจะใช้กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 และ 21 สั่งการให้พระธัมมชโยสึกหรือไม่นั้น หากมีเรื่องเสนอมายังสำนักพุทธฯ ก็ทำได้แค่เพียงเสนอไปยังเจ้าคณะผู้ปกครอง ส่วนจะใช้กฎมหาเถรฯ ข้อไหน ก็เป็นเรื่องที่เจ้าคณะผู้ปกครองจะพิจารณา ทั้งนี้ สำนักพุทธฯ ทำรายละเอียดตารางเปรียบเทียบของกฎมหาเถรฯ ฉบับที่ 11 และ 21 ไว้แล้ว และมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร
ส่วนการดำเนินการหลังจากพระทัตตชีโวถูกถอดสมณศักดิ์นั้น จะทำเช่นเดียวกับกรณีพระธัมมชโย คือ แจ้งมหาเถรฯ และเจ้าคณะ ผู้ปกครองในพื้นที่ ทั้งส่งหนังสือแจ้งพระ ทัตตชีโว และดำเนินการขอคืนพัดยศจากพระทัตตชีโว
พระสนิทวงศ์เข้ามอบตัว
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 07.30 น. ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังคอมมานโด กก.ปพ.บก.ป.พร้อมด้วย ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) บก.น.2 กว่า 150 นาย จัดเตรียมความพร้อม เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อาคารและบริเวณโดยรอบ กรณีพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส อายุ 45 ปี ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย จะขอเข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว
ต่อมาเวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบก.น.2 พร้อมกำลัง ได้มารอรับตัว พระสนิทวงศ์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พาเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยการมอบตัวครั้งนี้ไม่มีกลุ่มศิษยานุศิษย์ หรือมวลชน เดินทางมาด้วยแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่พาพระสนิทวงศ์ เข้าไปยังห้องประชุมชิวปรีชา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และสอบปากคำตามขั้นตอนการสอบสวน โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เข้าร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย
หลังใช้เวลาสอบปากคำพระสนิทวงศ์ กว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า พระสนิทวงศ์ รับสารภาพในข้อเท็จจริง แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยประเด็นที่ซักถามพระสนิทวงศ์ นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่และตำแหน่ง ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เช่นว่ามีบัญญัติไว้ในพระธรรมวินัยหรือไม่ ซึ่งพระสนิทวงศ์ ระบุว่าไม่มีบัญญัติในพุทธศาสนา แต่เป็นการแต่งตั้งขึ้นมาเอง และประเด็นความชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินของวัดที่ได้รับคำยืนยันจากพระสนิทวงศ์ ว่ามีเพียง 197 ไร่ ส่วนอีกกว่า 2,000 ไร่ อยู่ในความครอบครองของมูลนิธิวัดพระธรรมกาย
ศาลให้ประกันตีราคา4แสน
ต่อมาเวลา 13.00 น. ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่คุมตัวพระสนิทวงศ์ ขึ้นรถตู้ของกองปราบปราม เพื่อ นำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง เนื่องจาก ในชั้นพนักงานสอบสวน ไม่อนุญาตให้ประกันตัว
พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาตามหมายจับคือ หมิ่นประมาท, ยุยงปลุกปั่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งพระสนิทวงศ์นั้น ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา หากศาลฯไม่อนุญาตให้ประกัน พระสนิทวงศ์ต้องสละสมณเพศทันที เพื่อนำไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำ หากศาลอนุญาตให้ประกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองห้า จะมาขออายัดตัวพระสนิทวงศ์เพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งทราบว่ายังมีหมายจับอีกคดีคือฝ่าฝืนคำสั่งของคสช.
เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ภิเษก ร.ต.อ.วิชิต ผังดี พนักงานสอบสวน กก.2 ป.พร้อมกำลัง นำตัวพระสนิทวงศ์ มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 9-20 มี.ค. เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและอื่นๆ โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ ต่อต้านการบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลมาโดยตลอด ขอให้ยกเลิกมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญ ยุยง ปลุกปั่นก่อให้ศิษยานุศิษย์ และประชาชน กระด้างกระเดื่อง จนเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
เวลา 15.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกัน พระสนิทวงศ์ โดยตีราคาประกัน 400,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขการประกันตัว ห้ามพระสนิทวงศ์ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ห้ามยุยงปลุกปั่นประชาชน อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบและล่วงละเมิดกฎหมายของ แผ่นดิน และห้ามมิให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองห้า ได้นำตัวพระสนิทวงศ์มายังสภ.คลองห้า เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งที่ 5/2560 ตามมาตรา 44 ของ คสช. โดยพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัวและนัดหมายพระสนิทวงศ์ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 10 มี.ค. เวลา 09.00 น. เพื่อนำตัวไปยังศาลจังหวัดธัญบุรีต่อไป
ป้าเช็งแจงตักบาตรที่ตลาด
อีกด้านหนึ่งที่บก.ตชด.ภาค 1 น.ส. ศรวรรณ ศิริสุทรินทร์ หรือ ป้าเช็ง เจ้าของตลาดป้าเช็ง คลองหลวง เดินทางเข้าพบพ.ต.ท. ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ตามคำสั่งเรียกรายงานตัว
จากนั้นเวลา 11.00 น. น.ส.ศรวรรณ หรือป้าเช็ง ให้สัมภาษณ์หลังพบดีเอสไอว่า เจ้าหน้าที่สอบถามถึงการเช่าพื้นที่ตลาด ซึ่งลูกศิษย์วัดมาติดต่อเพื่อตักบาตรพระสงฆ์วันที่ 5 มี.ค.เพียงวันเดียว ในพิธีถวายข้าวพระสงฆ์ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน ตนเห็นว่าเป็นการทำบุญจึงไม่คิดค่าเช่า ยืนยันไม่ได้สนับสนุนม็อบ และจะไม่ให้เช่าพื้นที่อีก
“ส่วนตัวทำบุญทุกวัดไม่เฉพาะกับธรรมกาย มีมากทำมาก มีน้อยทำน้อย ไม่มีใครบังคับให้ทำ และทำทุกศาสนา อีกทั้งจะมาห้ามไม่ให้ทำบุญไม่ได้ เพราะการทำบุญมันเป็นสิทธิ แต่เมื่อรู้ว่ามีการเช่าตลาดเพื่อจะทำม็อบ ป้าก็สั่งห้ามทันที ป้าเกลียดทุกม็อบ และพร้อมให้ความมือกับดีเอสไอทุกเรื่อง” น.ส.ศรวรรณกล่าว
ด้านพ.ต.ท.ประวุธ กล่าวว่า น.ส.ศรวรรณให้การยืนยันไม่ทราบว่าจะมีการใช้พื้นที่ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงแจ้งห้ามให้ใช้พื้นที่ และหากจะปล่อยให้เช่าก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน ซึ่งน.ส.ศรวรรณพร้อมให้ความร่วมมือและให้เข้าตรวจค้นพื้นที่ได้ตลอดเวลา โดยขณะนี้ยังไม่ถือเป็นความผิด
นัดสวดมนต์ใหญ่ 12 มี.ค.
สำหรับความเคลื่อนไหวที่วัดพระธรรมกาย ที่ประตู 7 ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอยังคงมีการตรวจใบสุทธิและบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมถ่ายรูปเพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูล พื้นที่โดยรอบๆ ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตรึงกำลังดูแล บริเวณโดยรอบตลาดและวัดเพื่อไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านในได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจค้นกระเป๋า สิ่งของและสัมภาระต่างๆ ที่จะนำเข้ามาภายในบริเวณตลาดเพื่อความปลอดภัย
ต่อมาเวลา 08.15 น. พระมหาทศพร ปุญยังกฺโร แถลงว่า กรณีเชิญชวนสาธุคนทั่วโลก สวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรเริ่มต้นตั้งแต่ วันอาสาฬหบูชา พ.ศ.2559 เพื่อปลูกฝังให้ประชาชนทุกเพศทุกวัย เข้าใกล้พระพุทธศาสนา ด้วยการสวดมนต์ที่ถือว่าเป็นแม่บททางพระพุทธศาสนาโดยมีการนับยอดสวดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ระลึกนึกถึงบุญจากการสวดตามวันสำคัญต่างๆ เช่นครบรอบสวดวันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา หรือวันพระแต่ละเดือน โดยล่าสุดสวดธัมมจักครบ 10 ล้านจบในวันพระขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 มี.ค.2560 ที่จะถึง โดยกิจกรรมนี้สามารถสวดได้ที่บ้านและศูนย์ปฏิบัติธรรมใกล้บ้าน หากแต่ท่านใดสะดวกในการเดินทางก็สามารถร่วมกันที่วิหารคด วัดพระธรรมกายอย่างเช่นที่ผ่านมาก็มีนักเรียนนักศึกษาหลายโรงเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมและส่งยอดสวดมาที่วัดพระธรรมกายมากกว่า 1 ล้านจบ กิจกรรมนี้ไม่มีเจตนาในการปลุกระดมประชาชนเพื่อหวังกำลังมวลชนปกป้องวัดพระธรรมกายตามสถานการณ์พิเศษตามที่เป็นข่าวแต่ประการใด
จนท.บุก-เจอยันกลับ
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณประตู 4 ริมคลอง 3 เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. ตรึงกำลังอยู่กว่า 300 นาย พยายามนำกำลังปีนขึ้นไปบริเวณสะพานข้ามฝั่งเข้าภายใน
วัดพระธรรมกาย ระหว่างนั้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเข้ามาผลักดันเจ้าหน้าที่ออกจากสะพาน และปิดสะพานดังกล่าวทันที ซึ่งระหว่างชุลมุนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย บางคนก็ตกน้ำ ก่อนที่ทางกลุ่มเจ้าหน้าที่จะถอยกำลัง ออกจากบริเวณสะพานข้ามคลอง 3 ประมาณ 100 เมตร
ต่อมาทางกลุ่มผู้ชุมนุมรวมกลุ่มกันยืนสวดมนต์กันบริเวณปากทางเข้า เพื่อที่จะปิดกันสะพานไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ได้ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะส่งตัวแทนเข้าเจรจากับทางกลุ่มพระสงฆ์ โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจาไม่นาน เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ทันที
มอบตัว- พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส มอบตัวที่กองปราบปราม คดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และคดีอาญามาตรา 116 ตร.นำส่งศาลอาญาขอฝากขัง และยื่นประกันตัวขอสู้คดี จากนั้น สภ.คลองห้าก็มาอายัดตัวต่อในคดีขัดคำสั่งคสช. เมื่อวันที่ 9 มี.ค.
