“บิ๊กป้อม” นำทีมร่วมนักร้องสาว “ใบเตย-สุธีวัน” พร้อมผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ ของกลางน้ำหนัก 300 ตัน มูลค่าความเสียหาย 1,756 ล้านบาท ที่ลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เผยเป็นการทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มากที่สุด เป็นความร่วมมือทุกหน่วยงาน วอนประชาชน ไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติ ขณะที่ศิลปินดาราขอประชาชนงดซื้อ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้สร้างสรรค์ผลงาน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่ลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต ผู้แทนสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้า ผู้บริหารและศิลปินค่ายหนัง-ค่ายเพลง อาทิ น.ส.สุธีวัน ทวีสิน หรือใบเตย ฟลุค-จิระ ด่านบวรเกียรติ เตชินท์-จิรัฐชัย ชยุติ บิ๊ก-กฤษฎา จันทร์ดี และ ปั้น-เจษฎา ลัดดาชยาพร ศิลปินวงแบชเชอร์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

โดยสิ่งของที่ถูกนำมาทำลายในครั้งนี้ ประกอบด้วย เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ หูฟัง แผ่นซีดี/วีซีดี แว่นตา เครื่องสำอาง หมวก ผ้าห่ม และเครื่องมือช่าง ฯลฯ มีน้ำหนักประมาณ 300 ตัน มูลค่าความเสียหาย 1,756 ล้านบาท
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังหน่วยปราบปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประกอบด้วย กรมทรัพย์สินทางปัญญา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมประชาสัมพันธ์ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องพัฒนาระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ต้องมีระบบการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนเคารพสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือการปราบปราม ทั้งการผลิต จำหน่าย และนำเข้า ส่งออก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อการปราบปรามสินค้าและการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

รวมถึงป้องกันไม่ให้ของกลางที่คดีถึงที่สุดถูกนำกลับมาขายในตลาดอีกครั้ง จึงมีผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต ผู้แทนสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้า ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชนเจ้าของลิขสิทธิ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะเป็นหลักประกันและผลักดันให้ระบบคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยเข้มแข็ง เป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืน
“ขอไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ เพื่อให้ต่างชาติยอมรับว่าเราเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะนี้ส่วนใหญ่ประชาชนไม่ใช้แล้ว หากเราดำเนินการได้ ทำให้ประเทศปลอดภัยจากสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และการดำเนินการครั้งนี้เป็นการทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มากที่สุด เป็นความร่วมมือทุกหน่วยงาน รวมถึงประชาชน” พล.อ.ประวิตรกล่าว
ด้านใบเตย-สุธีวันกล่าวว่า อยากวิงวอนทุกท่านให้หยุดซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็นซีดีเพลง ซีดีละคร อยากให้ทุกคนเห็นใจคนทำงาน เพื่อที่พวกเขาจะได้มีกำลังใจในการสร้างสรรค์งานต่อไป
ขณะที่เตชินท์-จิรัฐชัยเปิดเผยว่า การสนับสนุนสินค้าเหล่านี้ถือว่าเป็นการบั่นทอนกำลังใจของผู้ที่คิดสร้างสรรค์งาน “ผมไม่อยากให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เลยครับ อยากรณรงค์ให้ทุกคนหยุดใช้หยุดสนับสนุนสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้ เพื่อในอนาคตสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจะได้หมดไปจากสังคมไทยครับ” เตชินท์กล่าว
ส่วนบิ๊ก-กฤษฎาเปิดเผยว่า ในฐานะตัวแทนของศิลปินที่ตั้งใจสร้างสรรค์ผลงาน อยากให้ทุกคนเลิกซื้อสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะงานแต่ละชิ้นกว่าจะทำออกมาได้นั้น ต้องใช้ความคิด ต้องทุ่มเท ตั้งใจทำงานเป็นอย่างมาก อีกทั้งการที่เรายังซื้อของที่ละเมิดลิขสิทธิ์ก็เหมือนเป็นการสนับสนุนคนที่ทำผิด “หันมาซื้อของแท้กันเถอะครับ คนที่สร้างสรรค์ผลงานจะได้มีกำลังใจในการทำงานต่อไป” บิ๊กกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน