ปรับแผนค้นหาสาวรัสเซีย ทีมดำน้ำเน้นค้นหาตามถ้ำใต้น้ำ เกาะเต่า คาดอาจเข้าไปดำน้ำแล้วออกมาไม่ได้ พร้อมดำลึกลงไปกว่า 20 เมตร ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาอุปกรณ์ดำน้ำหรือของใช้ติดตัวของผู้สูญหาย ด้านสวญ. สภ.เกาะเต่า เผยจากการตรวจสอบเส้นทางชีวิตประจำวันช่วง 9-11 ก.พ. พบปรากฏตัวแถวหาดทรายนวลและอ่าวโฉลกบ้านเก่า ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นตัวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ปรากฏภาพบันทึกสาวรัสเซียเดินเท้าห่างจากที่พัก 30 เมตรก่อนหายตัวไป เร่งจัดชุดเดินหาบนเขา ริมทะเลและในทะเลอย่างละเอียด พร้อมตรวจดูสิ่งผิดปกติทั้งในถ้ำ หุบเหว ซอกหิน ดิน กลิ่น ยังให้ความสำคัญทุกประเด็น ทั้งอาชญากรรม อุบัติเหตุและสูญหาย

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทีมนักดำน้ำจากกู้ภัยเกาะเต่าและ ครูสอนดำน้ำจากเกาะเต่ารีสอร์ท 5 คน ออก ดำน้ำค้นหาน.ส.วาเลนติน่า โนวาจีโอโนว่า อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย บริเวณอ่าวโฉลกบ้านเก่าและแหลมวิวพอยท์ ม.3 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน ทางชุดดำน้ำปรับแผนค้นหาใหม่โดยกำหนดจุดค้นหาไปที่ภายในถ้ำใต้น้ำและจุดที่ดำน้ำลึกกว่า 20 เมตร

นายวิเรน บัวชุม หัวหน้าชุดค้นหาและครูสอนดำน้ำเกาะเต่ารีสอร์ท เปิดเผยว่าในช่วงเช้าออกดำน้ำค้นหาจุดที่เป็นถ้ำใต้น้ำบริเวณอ่าวโฉลกบ้านเก่าและแหลมวิวพอยท์ ม.3 ต.เกาะเต่า รวม 2 รอบ รอบละ 40 นาที เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้สูญหายอาจดำน้ำเข้าไปในถ้ำใต้น้ำและเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถออกมาได้ ส่วนในช่วงบ่ายทีมนักดำน้ำกู้ภัยเกาะเต่าออกค้นหาในจุดดำน้ำที่มีระดับความลึกกว่า 20 เมตร ถัดออกไปจากถ้ำใต้น้ำออกไปในทะเลเพื่อหาอุปกรณ์ดำน้ำหรือของใช้ติดตัวของผู้สูญหาย

ด้านพ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ. สภ.เกาะเต่า กล่าวว่าจากการตรวจสอบเส้นทางการเดินทางทราบความเคลื่อนไหวว่าเมื่อวันที่ 9-11 ก.พ. นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียปรากฏตัวอยู่แถวหาดทรายนวลและอ่าวโฉลกบ้านเก่า ต.เกาะเต่า ชีวิตประจำวันจะไปกลับอยู่แถวนี้ และนักท่องเที่ยวสาวรัสเซียก็มาพักที่เกาะเต่าโฮสเทล โดยเดินไปเดินมาระหว่างที่พักกับอ่าวโฉลกบ้านเก่า ระยะทางไม่ถึง 100 เมตร และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 06.35 น. กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกการเดินเท้าห่างจากที่พักประมาณ 30 เมตรก่อนหายตัวไปและไม่มีใครพบตัวอีกเลย ตอนนี้ยังให้ความสำคัญทุกเรื่องทุกประเด็นทั้งอาชญากรรม อุบัติเหตุ หรือการสูญหาย โดยจัดชุดเดินหาทางเขา ริมทะเล และในทะเลอย่างละเอียด พร้อมดูสิ่งที่ผิดปกติเช่น ถ้ำ หุบเหว ซอกหิน ดิน กลิ่น เป็นต้น

เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เรียกประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสั่งการให้สถานีตำรวจทุกแห่งของ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันหาเบาะแส โดย พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ.สภ. เกาะเต่า รายงานต่อที่ประชุมว่า นางวาวาร่า นาเมสนิโคว่า สัญชาติรัสเซีย แม่พร้อมกับญาติของ น.ส.วาเลนติน่า เดินทางมายังเกาะเต่าแล้ว เจ้าหน้าที่พาไปพักที่โรงแรมแบนไดวิ่ง และสอบปากคำแม่ของน.ส.วาเลนติน่า เบื้องต้นได้ความว่า น.ส.วาเลนติน่า เพิ่งเรียนจบระดับปริญญาตรี และเคยเรียนดำน้ำที่ประเทศรัสเซียมา 4 ปี แต่จะเรียนดำน้ำในสระว่ายน้ำเท่านั้น ยังไม่เคยออกไปดำน้ำในทะเลจริงๆ นอกจากนี้น.ส.วาเลนติน่าเป็นคนที่รักธรรมชาติ ชอบดำน้ำ เดินป่า แม่ของน.ส.วาเลนติน่ายังเชื่อว่าลูกสาวอาจสูญหายจากการดำน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากนางวาวาร่าไว้แล้ว รวมทั้งนำสิ่งของที่เก็บได้ในห้องพักทั้งหมดมอบให้นางวาวาร่าซึ่งจะยังพักอยู่ในเกาะเต่าเพื่อรอผลการค้นหา โดยนางวาวาร่าพอใจการทำงานของตำรวจที่พยายามออกติดตามค้นหาอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะนำสิ่งของที่พบในทะเลทั้งหมดมาให้แม่ของสาวรัสเซียตรวจสอบว่าเป็นของใช้ของลูกสาวหรือไม่

ทั้งนี้ พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ. สภ.เกาะเต่า เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของผู้สูญหายอีกครั้งหลังจากการค้นหาที่ผ่านมาทั้งทางบกและทางทะเลยังไร้เบาะแส และการสืบสวนทราบว่าน.ส.วาเลนติน่ามีโรคประจำตัวที่ขัดกับกฎข้อห้ามของนักดำน้ำถึง 4 โรคประกอบด้วย เป็นโรคหอบหืด โรคลมชัก โรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวล ต้องใช้ยาประจำ ซึ่งน.ส.วาเลนติน่า โพสต์ใน VK หรือเฟซบุ๊กรัสเซีย และบรรยายในไดอารี่ส่วนตัวว่าตัวยาที่กินอยู่กำลังจะหมดต้องเดินทางไปซื้อที่กรุงเทพฯ อาจเป็นชนวนประสบอุบัติเหตุขณะดำน้ำได้ แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน