ดีเอสไอบุกค้น “อารามหรู” ย่านคลองสาม ปทุมธานี ห่าง วัดธรรมกาย 2 ก.ม. เนื้อที่กว่า 10 ไร่ ปลูกลักษณะคล้ายรีสอร์ต มีสระน้ำกล้องวงจรปิดตรวจตราบุคคลเข้า-ออก พบเสื้อยืดแขนยาวสีเหลือง 2 ตัว คล้ายกับที่ “พระธัมมชโย” เคยสวมใส่ พร้อมเอกสารสำคัญบางอย่าง คาดเป็นสถานที่ประชุมวางแผน สอบคนดูแลยอมรับเคยเห็นพระวัดธรรมกายมาสวดมนต์ จำวัด แต่ไม่เคยเห็นธัมมชโย

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 12 มี.ค. พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย พร้อมหมายค้นจากศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นอารามปริสุทโธ ตั้งอยู่ภายในอาคารเลขที่ 12/19 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อยู่ห่างจากบริเวณประตู 1 และ 4 วัดพระธรรมกาย ประมาณ 2 ก.ม. เป็นอาคารส่วนบุคคลรั้วรอบขอบชิด มองจากภายนอกเหมือนบ้านคนมีฐานะทั่วไป ก่อสร้าง ลักษณะคล้ายรีสอร์ต ด้านในมีสระน้ำ และสถานที่แห่งนี้อยู่นอกพื้นที่ควบคุมตามประกาศ ม.44 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากการตรวจค้นนาน 2 ชั่วโมง พบสิ่งของและเอกสารสำคัญหลายประการ แต่ไม่พบตัวพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย แต่อย่างใด

นายธนเดช คนงานดูแลความปลอดภัยภายในอารามปริสุทโธ เปิดเผยว่าอาศัยที่อาราม ปริสุทโธกว่า 3 ปีแล้ว เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมสวดมนต์ ไม่เคยเห็นพระธัมมชโยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เคยเห็นพระสงฆ์วัดพระธรรมกายเดินทางมาสวดมนต์ที่นี่บ่อยครั้ง บางรูปก็มาจำวัดที่นี่ และตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. จนถึงขณะนี้ ไม่พบเห็นพระสงฆ์และศิษย์ฆราวาสเดินทางเข้ามาที่อารามปริสุทโธแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ต.สุริยากล่าวว่า จากการตรวจค้นไม่พบพระธัมมชโย แต่เจ้าหน้าที่พบเอกสารสำคัญบางประการ เช่น เอกสารเกี่ยวกับตำรวจให้ข่าวต่อสื่อมวลชน เอกสารเกี่ยวกับการถวายฎีกา คำขอคุ้มครองชั่วคราว คำให้การของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ และเอกสารอื่นๆ ส่วนที่ห้องนอนของตึก 2 ชั้น น่าเชื่อว่าเป็นสถานที่ประชุมวางแผน นอกจากนี้ยังพบเสื้อยืดแขนยาวสีเหลือง 2 ตัว คล้ายกับที่พระธัมมชโยเคยสวมใส่ อยู่ในห้องดังกล่าวด้วย

รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า ภายในอารามปริสุทโธมีเนื้อที่กว่า 10 ไร่ มีอาคาร 8 หลัง อาคารแต่ละหลังมีเตียงนอน หมอน ผ้าห่ม ราวตากผ้า รวมทั้งมีห้องน้ำในตัวอาคาร แทบทุกหลัง รอบอารามมีกล้องวงจรปิด 7 ตัว ตรวจตราบุคคลเข้าออก และรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดอายัดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปตรวจสอบอีกครั้ง แต่จากการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกคาดว่าอารามปริสุทโธเป็นสถานที่วางแผนของเครือข่ายวัดพระธรรมกาย

ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่กองอำนวยการร่วม ภายใน บก.ตชด.1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง มีการประชุมประเมินสถานการณ์ โดย พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวภายหลังการประชุมว่าฝ่ายสืบสวนดีเอสไอและตำรวจจัดชุดสืบสวนหาตัวพระธัมมชโยแล้ว โดยเบื้องต้นมีผู้แจ้งเบาะแสมาที่ดีเอสไอ ถึงสถานที่ในเครือข่ายวัดพระธรรมกายในประเทศไทย ที่คาดว่าพระธัมมชโยจะไปหลบซ่อนตัวอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นเป็นสถานที่ที่เคยมีผู้แจ้งเบาะแสมานานแล้ว และอยู่นอกพื้นที่ควบคุมตามประกาศ ม.44 ดีเอสไออยู่ระหว่างขยายผลพิสูจน์ทราบ

ส่วนสถานการณ์ที่วัดพระธรรมกายนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณประตู 7 ทางเข้าวัดด้านถนนบางขัน-หนองเสือ ยังมีประชาชนขับรถเข้าออกวัดเหมือนอย่างเช่นทุกวัน มีตำรวจชุดควบคุมฝูงชนตั้งด่านตรวจตราป้อง กันเหตุแทรกซ้อน ส่วนถนนเลียบคลองแอล 2-3 บริเวณประตู 6 เจ้าหน้าที่ให้รถสัญจรเข้าออกเพียงด้านเดียวเท่านั้น ส่วนประตู 5 บุคคลที่เข้าออกบริเวณนี้ เจ้าหน้าที่วัดจะตรวจค้น เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนอยู่เช่นกัน และทางวัดแจ้งสื่อมวลชนว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วัดจะไม่แถลงข่าวแต่อย่างใด

ขณะที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง ตรงข้ามประตู 5-6 เจ้าหน้าที่เก็บเต็นท์ออกจากตลาดหมดแล้ว เหลือเพียงแต่เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ดูแลรักษาความสงบและป้องกันเหตุแทรกซ้อนอยู่ เช่นเดียวกับหลายจุดรอบวัดพระธรรมกาย ก็ยังมีตำรวจและทหารตั้งด่านตรวจตรา

วันเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่าดีเอสไอภาคเหนือได้รับคำสั่งจากส่วนกลาง ให้ตรวจสอบสาขาวัดพระธรรมกายในพื้นที่ จ.เชียง ใหม่ ว่ามีกี่จุด และที่ไหนบ้าง เพื่อตรวจสอบและติดตามตัวพระธัมมชโย โดยดีเอสไอภาคเหนือจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 13 มี.ค. จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีสาขาวัดพระธรรมกายอยู่ใน อ.แม่อาย อ.จอมทอง อ.ฮอด ดีเอสไอภาคเหนือมีรายชื่อเบื้องต้นอยู่แล้ว ส่วนบ้านพักของลูกศิษย์ฆราวาสใน จ.เชียงใหม่ นั้น พบจุดต้องสงสัยย่านถนนห้วยแก้ว ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน