ล่าจับ “ธัมมชโย” ถึงภาคเหนือ “ดีเอสไอ” เล็งค้นสำนักสงฆ์สาขาธรรมกาย บ้านลูกศิษย์ในเชียงใหม่ ล่าสุดการข่าวยังไม่พบหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมออก หมายจับอีกข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ขณะที่ “บิ๊กป้อม” ระบุยังไม่ยุติการค้นวัด จะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าได้ตัวธัมมชโย ยืนยันยังคงม.44 ควบคุมพื้นที่วัด แต่จะผ่อนปรนให้ลูกศิษย์เข้า-ออกได้ ถ้าสถานการณ์ปกติก็ยกเลิก ส่วนคสช.ยังคงกำลังทหารรอบวัดเช่นกัน

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ บก.ตชด.ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์วัดพระธรรมกาย และติดตามหาตัว พระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระธัมมชโย โดยใช้เวลากว่าชั่วโมงในการหารือ

พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า ขณะนี้เป็นที่ปรากฏชัดเจนแล้วว่าพระธัมมชโยไม่ได้อาพาธอย่างที่ลูกศิษย์อ้าง เพราะจากการเข้าไปตรวจค้น ในวัดพระธรรมกาย พระธัมมชโยสามารถเคลื่อนย้ายได้ ไม่ได้พำนักอยู่ที่ตำแหน่งเดิม และหากได้รับข้อมูลว่าพระธัมมชโยหนีออกนอกประเทศแล้วก็จะใช้กฎหมายฉบับใหม่ คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อขอให้ประเทศปลายทางส่งพระธัมมชโยกลับไทย แต่ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลว่าพระ ธัมมชโยออกนอกประเทศ ไม่ว่าเส้นทางปกติ หรือเส้นทางธรรมชาติ

รองโฆษกดีเอสไอกล่าวว่า การทำงาน หลังจากนี้จะเป็นเรื่องปฏิบัติงานด้านการข่าวเป็นหลัก เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ฝ่ายสืบสวนจะทำงานอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะติดตามตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีตามหมายจับของศาลได้ และยังมีความจำเป็นต้องคงประกาศมาตรา 44 ไว้ เนื่องจากภายในวัดและบริเวณโดยรอบยังเป็นพื้นที่อ่อนไหว ที่อาจมีกลุ่ม ผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ แต่อธิบดีดีเอสไอมีอำนาจผ่อนปรนให้ลูกศิษย์เข้าไปปฏิบัติศาสนกิจภายในวัดได้ตามปกติ และล่าสุดออกหมายจับพระธัมมชโยเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากไม่มารายงานตัวตามหมายเรียก

พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายนำเพลงจากศิลปินหลายค่ายมาดัดแปลงเนื้อหานั้น ให้ฝ่ายกฎหมายไปดูว่าเข้าข่ายปลุกระดมหรือไม่ หากเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องการเอาผิดก็แจ้งความดำเนินคดีได้ สำหรับ บุคคลที่ออกหมายเรียกไปแล้วนั้น คำสั่งที่ออกไปแม้ยุติการเข้าค้นวัดแล้วแต่ยังคงมีผลทางกฎหมายอยู่ ขณะนี้ก็มีมารายงานตัวส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังคงเหลืออีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้ามารายงานตัว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ยังมีตำรวจประจำอยู่ ทุกอย่างเดินไปตามขั้นตอน ส่วนพื้นที่ไหนที่ดีเอสไอสงสัยก็ออกหมายค้นอีก ไม่ใช่หยุดแค่นี้ จะต้องตรวจค้นไปเรื่อยๆ เพื่อหาตัวพระธัมมชโย ที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี หากเจ้าหน้าที่พบเมื่อไหร่ก็จับกุมทันที ถ้าศาลไม่ให้ประกันก็จับสึก

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนการใช้มาตรา 44 ไม่ได้ใช้ทั้งหมด ใช้เป็นบางส่วนเท่านั้น ที่เหลือก็ค่อยๆ ยกเลิกไป กำลังพิจารณาอยู่ ถ้ามั่นใจว่าภายในวัดไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประชาชนปลอดภัย และสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก็ยกเลิกทั้งหมด การคงมาตรา 44 ไว้ไม่ได้เดือดร้อนใคร เพียงแต่ให้ตำรวจเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนมือที่สาม ก็คงต้องมีอยู่แล้ว ทุกคนก็รู้

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลพอใจการปฏิบัติงานของดีเอสไอหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็น่าจะพอใจ เพราะทำได้ตลอด ทำได้เรื่อยๆ แต่ต้องใช้เวลา ถ้าจะไปใช้กำลังให้เกิดความเสียหาย ภาพรวมจะเสียทั้งประเทศ เสียต่างประเทศด้วย ส่วนพระธัมมชโยยังอยู่ในประเทศ หรือไม่นั้นยังไม่รู้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. ประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดย จะยังคงกำลังทหารดูแลประชาชนในพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกายต่อไป

ส่วน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า การที่ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติให้นำกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 มาพิจารณา กรณีพระธัมมชโย ไม่ได้มาจากตน แต่มาจากดีเอสไอ ตำรวจ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ที่ยื่นหนังสือผ่านตน เพื่อขอให้รายงานมหาเถรฯ และมหาเถรฯ ก็รับทราบและมอบหมายให้เจ้าคณะ ผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการแล้ว แม้การดำเนินการเรื่องนี้จะไม่มีเวลากำหนดไว้ แต่เชื่อว่าคณะสงฆ์จะดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้เรื่องคลี่ คลาย และเกิดผลดีกับทุกฝ่าย

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ดีเอสไอเตรียมรายงานผลการปฏิบัติงานตามคำสั่งที่ 5/2560 ตามมาตรา 44 ประกาศพื้นที่ควบคุมวัดพระธรรมกาย เพื่อตรวจค้นและ จับกุมพระธัมมชโยในช่วง 23 วันที่ผ่านมา และยุติการตรวจค้นวัดเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ต่อที่ประชุมคสช. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมในวันที่ 14 มี.ค.นี้

ข่าวแจ้งว่ารัฐบาลและคสช.อาจจะยังคง ไว้อีกระยะหนึ่ง เพื่อควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย เพราะยังไม่มั่นใจสถานการณ์ เกรงว่ามือที่สามฉกฉวยสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายได้ แต่อาจปรับลดคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 บางส่วนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ และดีเอสไอ เห็นว่าการทำงานลุล่วงไประดับหนึ่งแล้ว จึงอยากให้จุดปฏิบัติการ จุดตรวจ และจุดสกัดในพื้นที่ควบคุมทุกจุดผ่อนปรนการปฏิบัติ ทั้งจุดประตูเข้าออกวัด เปิดทางให้พระและประชาชนเข้าออกได้ตามปกติ ไม่ต้องทำประวัติ และคัดกรอง แต่ให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุด่วนเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากดีเอสไอประจำภาคเหนือแจ้งว่า ได้ร่วมประชุมเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และดีเอสไอ เพื่อเตรียมเข้าตรวจสอบสาขาวัดพระธรรมกายในภาคเหนือ โดยเฉพาะจ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามหาตัวพระธัมมชโยว่าหลบซ่อนอยู่ที่ไหน รวมทั้งบ้านพักของลูกศิษย์ด้วย จากการตรวจสอบพบว่าสาขาวัดมีอยู่ที่ อ.แม่อาย อ.สันทราย อ.จอมทอง อ.ฮอด โดยเฉพาะที่ อ.ฮอด มีอยู่ 3-4 แห่ง ทางเจ้าหน้าที่มีรายชื่ออยู่แล้ว ส่วนบ้านพักของลูกศิษย์นั้นเบื้องต้นทราบว่าอยู่ย่าน ถนนห้วยแก้ว ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน