อาจารย์เอก เปิดใจ! ฝ่ามือ พลังจิต รักษาโรค เคลื่อนย้ายกระดูก ตาบอดยังหายได้?

โหนกระแสวันที่ 21 พ.ค โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 – 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ อาจารย์เอก ฝ่ามือ พลังจิต ” หรือ “นายกีรติ สมคิด” ซึ่งใช้พลังจิตบำบัดรักษาคนป่วย มีชาวบ้านแห่รักษาเป็นจำนวนมาก โดยอีกฝ่ายมาพร้อม “นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาส” หรือ “หมอท็อป” โฆษกกรมสุขภาพจิต

อ.เอก ฝ่ามือพลังจิตคืออะไร?
อ.เอก : “เหมือนกับอวัยวะส่วนไหนที่เราจะใช้งาน จริงๆ พลังจิตอยู่ในจิตเราอยู่แล้ว ถ้าจะใช้เท้าก็น่าเกลียด เลยใช้พลังจิตผ่านฝ่ามือ ไม่ใช่แสงออกมา แต่สามารถสัมผัสได้”

เหมือนพลังจักรวาลหรือเปล่า ?
อ. เอก : “ส่วนมากเน้นเรื่องสัมผัส เพราะใช้จิตสื่อสัมผัสว่าเขาปวดตรงไหนก็ใช้จิตเคลื่อนย้าย สมมติกระดูกทับเส้น ก็ใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายกระดูก และเคลื่อนย้ายเส้นออกมา”

อีกมุมมองว่าไร้สาระ ?
อ. เอก : “คือเรื่องพวกนี้ไม่มีใครทำได้ ทุกอย่างต้องมีเกิดขึ้น อย่างพระพุทธเจ้าก็ไม่มีใครว่าจะมี สุดท้ายก็มีเกิดขึ้น เหมือนเราก็เหมือนกันไม่ใช่ว่าจะรักษาได้ทุกโรค อย่างปวดหัวไมเกรน ปวดข้อมือ ปวดเข่า เราสามารถทำให้หายและเดินได้เลย”

ภายในกี่วัน?
อ.เอก : “ภายใน 1-2-3 นาที”

เอาวิชามาจากไหน?
อ.เอก ย้อนหลังคือผมปฏิบัติธรรม เป็นพระ 1 พรรษา เสร็จจากพระขึ้นเขาไปอยู่กับหลวงปู่ ท่านก็บวชฤาษีให้จนปัจจุบันนี้ ท่านสอนเบื้องต้นการทำสมาธิ วิชาอาคมอะไรเกิดจากการปฏิบัติ จิตเราจะบอกว่าเราพร้อมหรือยัง เราจะทำยังไง ด้วยกระแสจิตไปได้เร็วเหนือเสียงเหนือแสง เอาตรงนี้มาเป็นพลังช่วยคน”

ภาพข้างหน้าคืออะไร?
อ.เอก : “ผู้ป่วยที่เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น เขาจะปวด ร้าวลงขา หลัง เราก็ใช้ฝ่ามือเปิดพลัง เคลื่อนย้ายให้เขา เขาก็หายปวด เรื่องนี้เราไม่ได้มโน เพราะคนป่วยที่มาบอกเองว่าดี บางเคสก็หายร้อยเปอร์เซ็นต์ บางเคสก็มีบ้างนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับระยะเวลา”

เคยมีไม่หายมั้ย?
อ. เอก : “มีบ้าง แต่ไม่มีกลับมาด่า เราไม่ได้บังคับให้เขามา ทุกคนรู้เองว่าอาจารย์อยู่ไหน ไปไหน หรือทุกคนเชิญไป เราไม่ได้บอกว่ามาหาเรานะ แล้วมีค่ารักษาเท่านี้ๆ”

คิดเงินมั้ย?
อ.เอก : “ไม่ได้คิดเงิน แต่เมื่อก่อนไม่เคยมีค่าครู หลังๆ เริ่มมีค่าครูเกิดขึ้น เอาไปช่วยเหลือคนยากจน”

แพงมั้ย?
อ.เอก : “ไม่แพง 1 พันบาท ถ้ามาที่บ้านนะ ค่านำค่าไฟนิดหน่อยจบ ที่เหลือเอาสร้างวัด ตอนนี้อาจารย์สร้างวัดอยู่ปักธงชัย ส่วนหนึ่งถ้าใครยากจนเดินทางมา ยืมเงินมาจากเชียงใหม่ถึงบ้านอาจารย์ อาจารย์จ่ายเงินค่ารถมาและกลับให้เขา เงิน 1 พันไม่ได้มาใช้ส่วนตัวเลย”

ถึงมือมีมั้ย?
อ. เอก : “ไม่เคยเอามาใช้ อ.มีอยู่ 4 บริษัท ตรวจสอบได้ ใครมายากจนเราไม่รับ”

วิชานี้มีชื่อมั้ย?
อ. เอก : “ไม่มี”

มีคนอื่นทำได้มั้ย?
อ.เอก : “ที่รู้ๆ ตอนนี้ยังไม่มี แม้กระทั่งผ่านโทรศัพท์ก็ทำได้”

มาถึงยุค 4G ใช้วิดีโอคอลเหรอ?
อ.เอก : “วิดีโอก็ได้ หรือโทรไปก็ได้ เราใช้จิตสื่อถึงเขา ให้เขาทำสมาธิ ไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า ถ้าได้คุย ใช้เสียงสื่อสัมผัสกัน จิตเราเชื่อมโยงกับเขา เหมือนคุณหนุ่มมองไปบนฟ้าไม่กระทบอะไรกลับมา แต่จิตเรากระทบแล้วมันกลับมาที่ตัวเรา นั่นคือการฝึกพลังจิต ฝึกจิตเดินทางไปแล้วย้อนกลับมา มันก็จะรู้ว่าควรทำอะไรให้กับเขา รักษาแบบไหนกับเขา”

ทำมากี่ปี?
อ.เอก : “7-8 ปี”

หายกี่เปอรเซ็นต์?
อ.เอก : “สัก 90 เปอร์เซ็นต์ บางคนตาบอดก็หายได้ มีคลิปนะ มีพยานหลายร้อย เขาบอดมาปีกว่า อาจารย์ทำไม่ถึงสิบนาทีก็มองเห็นเลย”

อ.ยืนยันว่าเขาบอดมาแล้ว?
อ.เอก : “บอดข้างนึง อีกข้างนึงมัว ข้างนึงบอดร้อยเปอร์เซ็นต์ ตาพล่า ตามัว บางคนมารักษาสั้น 1500”

เรื่องนี้ไม่มีการพิสูจน์เลย?
อ.เอก : “ท้าพิสูจน์ได้”

ไม่กลัวเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเล่นงานเหรอ?
อ.เอก : “เล่นเรื่องอะไรล่ะ พิสูจน์มาสิครับ ผมไม่ได้บอกว่ารักษาหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ใครที่มีวาสนาต่อกัน ก็จะเห็นผลในทันที”

สายตาสั้น สายตาเอียงได้มั้ย?
อ.เอก : “มันมีโอกาสที่จะได้ ผมตอบไมได้ว่าทำวันนี้แล้วจะได้ผลเลยมั้ย คนรักษาเขาจะบอกเอง ส่วนมาก 95 เปอร์เซ็นต์เลยล่ะที่ดีขึ้น”

ร่างกายเขาจะรู้สึกยังไง?
อ.เอก : “แล้วแต่ บางคนร้อน บางคนเย็นหรือเส้นเลือดตีบในสมอง วันนี้ถือไม้เท้ามา วันนี้อาจารย์ให้โยนไม้เท้าทิ้งเลย มีหลายเคสมาก”

ฟังแล้วเชื่อมั้ย?
หมอท็อป : “จริงๆ เรื่องการแพทย์ เวลาเราบอกว่ารักษาสิ่งต่างๆ ทางการแพทย์เราจะมีกระบวนการศึกษาวิจัย วิเคราะห์ ผ่านกระบวนการที่เรามั่นใจว่ามันสามาถรักษาคนไข้ได้ ซึ่งต้องมีคนไข้ที่อยู่ในการผ่านกระบวนการทั้งหมดทั้งปวง ก็ดูกันหลายหมื่นหลายแสนคน ในการที่เราจะมั่นใจว่านั่นคือการรักษาที่ปลอดภัย”

ใช้พลังจิตในการบำบัด อย่าใช้คำว่ารักษา ?
อ.เอก : “แล้วแต่จะเรียกครับ”

ในการบำบัด มีเรื่องกระดูก ปวดเส้น ไปถึงตาเลย เส้นเลือดในสมองตีบตัน เดินไม่ค่อยจะได้ ใช้เวลานานมั้ย?
อ.เอก : “แล้วแต่เคสครับ แล้วแต่ผู้ป่วยที่มา ทำหนึ่งสองสามนาทีก็ถามว่าเป็นไงติดขัดตรงไหนมั้ย ตัวเขาต้องเป็นคนบอกเราเอง ว่าดีหรือไม่ดี หายหรือไม่หาย”

วันนี้คุณมาออกรายการเป็นประเด็นข่าวออกไป กลายเป็นว่าสังคมจับตามอง ถ้ามีการพิสูจน์ก็ยินดี?
อ.เอก : “พิสูจน์ได้ครับ ไปลองดูก่อน ถ้าไม่จริงคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ อ.แม่เสรียงคงไม่แห่มาเป็นพันคนถ้าไม่หาย คนตาบอดเอาเขามายืนยันก็ได้ มันพิสูจน์ได้”

รักษาเป็นพันเลยเหรอ?
อ.เอก : “วันแรกมาร้อยกว่าคน วันที่สองสี่ร้อยกว่าคน วันที่สามร้อยกว่าคน รอบสองเขาเชิญผมไปอีก 3 วัน มาเท่าไหร่ผมก็เอาเต็มที่ เฉลี่ยวันละร้อยคนได้”

เท่ากับได้เงินวันละแสน?
อ.เอก : “ไม่ๆ ผมไปแม่เสรียงไม่มีค่าครูอะไรเลย ผมไปช่วยคนแค่คนเดียว แต่พอไปแล้ว ใครอยากให้ช่วยรักษาก็มา พอรักษาเสร็จเขาหายก็ไปบอกปากต่อปาก”

เก็บค่าครูมั้ย?
อ.เอก : “ไม่ได้เก็บ อย่างที่ไปนี่เขาเชิญ บางคนก็รวมตัวกัน เพราะเรามีค่ารถค่าน้ำมัน แต่ที่ไปต่างจังหวัด ผมจะมีสัก 490 บาท ถ้าอยู่ที่วัดผมก็ถวายวัด”

ในมุมแพทย์แผนปัจจุบัน มีการพิสูจน์มาแล้วการใช้พลังจิต?
หมอท็อป : “ต้องบอกว่าในการแพทย์แผนปัจจุบันเราไม่มีการศึกษาวิจัยว่ามีการใช้พลังจิตใจการรักษา ไม่ได้มีหลักฐานการแพทย์ว่าใช้ได้ แต่ต้องเล่าประวัติก่อนว่า ก่อนจะมาเป็นแพทย์แผนปัจจุบันที่เรารักษากันทั่วโลก มันมีประวัติการแพทย์รักษากันมายาวนานหลายพันปี

ทั่วโลกเขาก็มีวิธีรักษาหลากหลาย จะมีความเชื่อหลายอย่างเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการรักษา แต่ปัจจุบันมันค่อยๆ น้อยลงและหายไปเยอะแล้ว เพราะเรารู้ว่าการรักษาโดยวิธีอื่นมันไม่ค่อยได้ผล ถ้าได้ผลก็จะดีขึ้นในช่วงแรก แล้วหนักลงและแย่ บางคนก็อาจจะตายได้ ในกรณีเหล่านั้นทำไมบางคนดีขึ้นได้ วิธีการรักษาบางอย่างในระยะยาวอาจไม่ได้ผล มันมีเรื่องความรู้สึกทางใจ เป็นการเยียวยาทางความรู้สึก”

เหมือนจิตบำบัด?
หมอท็อป : “อาจเป็นความรู้สึกสบายใจ ทำให้เขาเข้าใจว่าดีขึ้น เหมือนการใช้ยา การทดลองเรื่องการรักษา บางคนใช้ยาแก้ปวดในปัจจุบัน แต่การวิจัยอาจมีทดลองถ้าคนใช้ยาหลอกจะดีขึ้นมั้ย เราเจอว่าส่วนหนึ่งแม้แต่ยาหลอกก็ดีขึ้น เพราะเป็นความรู้สึกทางใจว่เขาได้ยาแล้ว อันนี้เป็นกระบวนการวิจัย จริงๆ มีได้

แต่ถามว่าที่ผ่านมาตลอด เราเจอว่ามีหลายๆ วิธี ใช้เป็นตัวเสริมประกอบการแพทย์ปัจจุบัน อาจทำให้คนสบายใจขึ้น บางคนอาจสวดมนต์ ไปไหว้พระ ที่พึ่งทางใจ แต่ทั้งหมดทั้งปวงถ้าทิ้งการรักษาหลัก แพทย์ปัจจุบันปุ๊บ บางทีโรคบางอย่างเหมือนดีขึ้นช่วงนึงแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ ประเทศเราอาจมีหลายกรณีใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจแต่ทุกๆ หลวงพ่อก็จะบอกว่าอย่าทิ้งการรักษาหลัก เป็นการรักษาด้วยแพทย์ปัจจุบัน แต่บางคนถามว่านอกเหนือจากแพทย์หลัก ๆ มีแพทย์ทางเลือกมั้ย ก็คือปัจจุบันมีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ซึ่งเขาจะเลือกว่าการรักษาแบบไหนได้ผลปลอดภัย ทีนี้เราก็ได้ดูว่ามีวิธีไหน ก็ดูจากกรมการแพทย์แผนไทยได้”

พลังจิตมีมั้ย?
หมอท็อป : “เท่าที่ทราบนี่ไม่เห็นนะครับ จริงๆ คงจะมีแพทย์ทางเลือกอยู่แต่ปัจจุบันยังไม่มีการบรรจุ เรื่องพลังจิตใจการรักษาแต่ประการใด”

เป็นไปได้มั้ย เราถ่ายทอดพลังฝ่ามือ จะเป็นอย่างที่หมอท็อปบอก เหมือนที่พึ่งทางใจ?
อ.เอก : “เอาง่ายๆ ยกตัวอย่างเคสที่ตาบอด แค่ใจคิดว่าตัวเองตามองเห็นจะหายได้มั้ย กระดูกทับเส้นอยู่ หมอเอ็กซเรย์นัดผ่าตัดแล้ว จะใช้ใจอย่างเดียว จะหายได้มั้ย”

ทำให้คนมีความหวัง ถ้าไปหาแล้วทำไม่ได้จะเสียสุขภาพจิตไปอีกหรือเปล่า?
อ.เอก : “เมื่อมีช่องทาง เมื่อมีโอกาส ผมไม่ได้บอกว่าอย่าไปรพ. เพราะทุกอย่างการรักษาเกิดจากรพ. แต่ส่วนมากที่มาหาผมคือมันนอกเหนือจากรพ.

มันสุดเส้นทางของเขาแล้ว บางคนจะไปผ่าตัดใช้เงินสูงเขาก็ไม่มีเงิน ผ่าตัดหมอนรองกระดูกเขาก็กลัว เพราะไม่ใช่จะหายทุกราย ทุกเคสแม้กระทั่งรพ.ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะหาย แม้แต่หมอเป็นมะเร็งยังตายเพระมะเร็งเลย กินยาแก้ปวดหัวแต่กลายเป็นเรื่องตับ กินยาไมเกรนมาก บอกว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็ง ไม่มีสูตรสำเร็จ แต่รักษาไปตามสถานการ์ที่เป็น

คนมาก็ต้องการโอกาสสำหรับตัวเขา อย่างคุณหนุ่มเป็นมะเร็ง ทุกคนพอรู้ว่าเป็นมะเร็งใจวูบแล้ว ฉันจะตายแล้ว ทั้งที่มะเร็งไม่ใช่จะต้องตาย รักษาสุขภาพทุกอย่างก็หายได้หมด ผมแค่คนเดียวรักษาคนเป็นพันเป็นหมื่นได้ แค่นี้ผมตายก็ไม่เสียดายชีวิต ผมไม่ได้มานั่งคัดค้านทางด้านวิทยาศาสตร์ ผมทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ เดี๋ยวจะมีอะไรออกมาให้ทุกคนเห็นชัดเจน แต่ด้วยพลังจิตที่ผมได้ ได้จากที่เราปฎิบัติธรรม ได้มาเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช้ประโยชน์ต่อคน”

เคยหาหมอแผนปัจจุบัน?
อ.เอก : “ไปเหมือนกัน ผมเป็นมะเร็งปอด มีก้อนเนื้อที่ขั้วปอด แต่ไม่ได้ไปรักษาที่รพ. แค่ตรวจรู้ว่ามีก้อนเนื้อก็จบ คือจะมีหรือไม่มีก็ช่าง ถึงมีเราก็รักษาของเรา เรามีวิธีการของเรา ในตัวผม ผมอยู่กับเรื่องสมุนไพรมาตลอดชีวิต 29 ปีที่อยู่กับหลวงปู่ เอาง่ายๆ การเลือกเส้นทางของแต่ละคน เลือกเดินเองได้ โรคที่เกี่ยวกับเลือดผมรักษาไม่ได้ เบาหวานรักษาไม่ได้ ไตผมรักษาไม่ได้ มะเร็งรักษาไม่ได้ ถ้าเป็นกระดูกผมรักษาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ตาบอดไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ บางคนเห็นเป็นแสงเงา บางทีเห็นเป็นหน้าแล้วแต่เคสอายุการเจ็บป่วย ต้องมานั่งดูว่เราจะช่วยไดัแค่ไหน”

วิธีการต้องทำยังไง?
อ.เอก : “ถ้าเป็นที่ตาเราก็เอามือวางที่ตา แล้วใช้จิตเราเดินผ่านในเส้นสายเส้นประสาทตาของเขา เคยได้ยินคำว่าปั่นธาตุมั้ย เราใช้จิตของเราปั่นหมุนวน แต่ถ้าพูดเวลาไม่พอแน่”

อันนี้คืออะไร?
อ.เอก : “เราเรียกคฑาประจำตัว ไม่ใช่เสก บางคนที่เป็นมะเร็ง เขาป่วย เวลาเราจะรักษาเราจะไม่สัมผัสตัวเขา ถ้าเรารู้นะ เราก็ใช้อันนี้ไป หรือใช้เป่าลงไป บางคนไม่ได้ป่วยด้วยโรคปัจจุบัน โดนคุณไสยก็ใช้ตัวนี้่ช่วย บางคนหนักเนื้อหนักตัวไปหาหมอไม่รู้สาเหตุ เราก็ใช้วิชาอาคมช่วย”

กลัวคนไปหามีความหวัง ทิ้งแพทย์แนปัจจุบัน แล้วไม่หาย ?
อ.เอก : “ส่วนมากที่ไปหาเขาหมดหนทางจากการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว เป็นทางเลือกที่เขาแสวงหา ว่าทำยังไงถึงจะหายปวด ผมไม่ได้ให้ทิ้งแผนปัจจุบัน ทุกย่างไม่เคยบอกว่าไม่ต้องไปหาหมอนะ ลูกสาวผมป่วยผมก็ให้ไปหาหมอ เพราะถ้าทางไหนรพ.เขารักษาได้ เขาก็เต็มที่ แต่ทางไหนไม่มีโอกาสแล้ว ทุกคนย่อมหาหนทาง อย่างผมเป็นมะเร็ง ทางไหนที่บอกว่าจะรักษาหาย อย่างมีคนบอกว่ากินขี้หมาแล้วหายผมก็ต้องลอง”

เหนื่อยมั้ยในการรักษา?
อ.เอก : “บางทีเหนื่อย ใช้พลังเยอะ ต้องทำให้เห็นผล”

กรณีนี้เป็นห่วงอะไรมั้ย?
หมอท็อป : “ที่สำคัญที่สุดเลยต้องเรียนฝากประชาชนว่า ถ้ามีโรคภัยไข้เจ็บ ต้องเอาแพทย์ปัจจุบันเป็นหลัก ต้องมีการสื่อสารกับคุณหมอเยอะๆ ถ้ามีอะไรไม่ดีขึ้นต้องรีบบอกคุณหมอ บางคนกังวลมาก ๆ อาจเข้าใจว่าตัวเองไม่หายแล้ว ไม่มีทางรักษา แต่จริงๆ มีการรักษาอยู่ ก็ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง มีคนจำนวนมากทิ้งการรักษาหลัก แล้วใช้วิธีอื่นทำให้อาการแย่ลงและเสียชีวิตได้ ดีที่สุด้องปรึกษาคุณหมอที่ดูแลให้ดี ที่สำคัญคือต้องแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลัก”

เห็นด้วยมั้ย?
อ.เอก : “เห็นด้วยครับ อย่างที่บอกผมเป็นทางเลือก ไม่ได้บังคับว่าอย่าไปนะ”

อยู่ที่ไหน?
อ.เอก : “นิมิตใหม่คลอง 19 เขตคลองสามวา”

มีอะไรอยากพูด?
อ.เออ : “ฝากนิดนึงว่าคนจะมาหาอาจารย์ อาจารย์ไม่ได้เปิดบ้านทุกวัน อาจารยฺมีคิวเดินทางต่างจังหวัดและเดินทางต่างประเทศหลายประเทศ ถ้ามีโอกาสมาเจอก็ลองดู แต่ไม่ใช่รักษาแล้วทุกคนต้องหายเลย ไม่ได้บอกว่าหายทุกคน แต่อาการที่เป็นอยู่อาจดีขึ้นมากน้อยตามลำดับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน