กองปราบฯ ออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย อดีตส.ส.สาวศิษย์ธรรมกาย”ลีลาวดี วัชโรบล” ข้อหายุยงปลุกปั่น ขณะที่พระสงฆ์ 10 รูปที่ฝ่าฝืนหมายเรียกรายงานตัวเข้าพบอัยการแล้ว ด้านผบ.ทบ.ระบุยังต้องคงมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัด-ตรึงกำลังทหารต่อไปจนกว่าจะพบตัวพระธัมมชโย อ้างต้องใช้สกรีนผู้เข้าออกและการตรวจค้นในพื้นที่ แต่จะปรับลดกำลังลงและผ่อนคลายความเข้มงวดเรื่อยๆ ถ้าหากได้รับความร่วมมือจากทางวัด ด้านบิ๊กป้อมเตรียมสั่งการถอนกำลังทหารออกใช้ตำรวจดูแลแทน ส่วนบิ๊กตู่ระบุมาตรา 44 ยืดหยุ่นได้ เผยใช้กฎหมายปกติควบคู่กับ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ด้านผอ.พศ.เผยเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีได้เรียกประชุมจัดระเบียบวัดพระธรรมกายในระดับหนึ่งแล้ว สิ้นเดือนนี้เรียกประชุมอีกครั้ง

เมื่อเวลา 13.40 น.วันที่ 14 มี.ค. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.ท.อุทัย แววไทสงค์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า ได้นำพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย นำตัวส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี หลังจากจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 14 รูปว่าขัดคำสั่งคสช.ไม่มารายตัว โดยวันเดียวกันนี้พระสงฆ์ทั้ง 10 รูปได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งเอาไว้ คงเหลือเพียงพระไชยบูลย์ ธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และพระเผด็จ ทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว ที่อ้างว่าอาพาธไม่สามารถมารับทราบข้อกล่าวหาได้ และอีก 2 รูปที่ไม่ได้เดินทางมาด้วยคือพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ และพระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิส สโก ซึ่งทั้ง 2 รูปติดภารกิจทางสงฆ์ โดยจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง

สำหรับพระสงฆ์ทั้ง 10 รูป ประกอบด้วย 1.พระวิเทศภาวนาจารย์ 2.พระถวัลศักดิ์ ยติสโก 3.พระครูสังฆรักษ์อนุรักษ์ โสตถิโก 4.พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส 5.พระมหานพพร ปุญญชโย 6.พระภาสุระ ทันตมโน 7.พระนพดล สิริวังโส 8.พระมหาบุญชัย จารุทัตโต 9.พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโก และ10.พระแสนพล เทพเทพา มีนายปัญญา ถาวรอัครนิล ทนายความเดินทางมาดูแลด้านคดี หลังจากการรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พระสงฆ์ทั้งหมดได้เดินทางกลับในทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ด้านนายปัญญา เปิดเผยว่า ดีเอสไอมีหมายเรียกให้พระทั้ง 14 รูป ไม่ทราบว่ามีหมาย จึงไม่ได้มารายงานตัว ซึ่งพอเมื่อไม่มารายงานตัว ทางดีเอสไอก็ไปแจ้งความที่ สภ.คลองห้า ให้ดำเนินคดีในข้อหาขัดคำสั่งไม่มารายงานตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องแล้วก็ดำเนินการสอบสวนและส่งสำนวนมาที่อัยการจังหวัดธัญบุรีแล้วอัยการก็รับเรื่องไว้ และวันนี้พระทั้ง 10 รูปที่เดินทางมารับทราบ และได้ร้องขอความเป็นธรรมให้สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นของการส่งหมายให้พระทั้ง 14 รูป

นายปัญญากล่าวว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติต่อพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั้งหลายผิดแผกแตกต่างจากคดีอื่นมันก็เหมือนเป็นการกดดัน เพราะฉะนั้นทำอะไรทำให้เหมือนกันทุกอย่าง คนอื่นทำอย่างไรได้ท่านก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ในเมื่อเรามารายงานตัวตามที่มีหมายก็ต้องปล่อยตัว เพราะไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี พระทุกรูปยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ซึ่งต่อจากนี้ทางพนักงานอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องเมื่อไหร่ คงต้องสอบสวนและมีการสรุปสำนวนอีกครั้ง

“ในส่วนของหลวงพ่อธัมมชโย นั้นท่านก็ต้องการมอบตัวแต่ก็ด้วยติดเหตุอะไรบางอย่างจึงไม่สามารถมอบตัวได้ในเวลานี้ ซึ่งจะมอบตัวเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นสิทธิของท่านเนื่องจากคดีมีอายุความตั้ง 15 ปี” นายปัญญากล่าว

ที่บก.ตชด.ภ.1. ต.คลองห้า พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จ.ว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง.ผบ.ก.ภจว.ปทุมธานี รักษาการ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.อ.อำนวยพันธ์ นิลน้อย ผกก.สภ.คลองห้า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ภ.1.เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีวัดพระธรรมกายและการติดตามตัวพระธัมมชโย

พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติงานในพื้นที่เรื่องการปฏิบัติงาน จากการตั้งด่านสกัดเป็นการเฝ้าระวัง แต่ในทางการข่าวเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติงานตามปกติ โดยฝ้าระวังตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนทั้งจากผู้ที่ต้องการเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายและเพื่อดูแลความเรียบร้อยให้กับประชาชนโดยรอบ เนื่องจากวัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบยังเป็นพื้นที่ควบคุมตามมาตรา 44 จึงต้องดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดต่อไป

พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่าขณะเดียวกันวันนี้ ได้ทยอยส่งหนังสือเรียกให้บุคคลมารายงานตัวจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าของที่ดินที่ปลูกสร้างอาคารบุญรักษา และผู้ที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หลังจากที่มีการออกประกาศมาตรา 44 เช่น เจ้าของพื้นที่ บุคคลที่นำรถมาจอดกีดขวาง ผู้ที่ชุมนุมอยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง และบริเวณถนนเลียบคลองแอล ทางที่จะเข้าสู่ประตู 5 สำหรับบุคคลที่ได้ออกหมายเรียกให้มารายงานตัวขนาดนี้มีทั้งสิ้น 317 คน มารายแล้วประมาณ 100 คน

หลังการประชุมประเมินสถานการณ์วัดพระธรรมกาย พ.ต.ต.วรณันเปิดเผยว่า พระเทพรัตนสุธีได้ออกหนังสือนิมนต์รักษาการเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และไวยาวัจกรวัดพระธรรมกาย เข้าประชุมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ต่างๆ ที่กีดขวาง และได้อนุญาตให้วัดสามารถจัดกิจกรรมทางศาสนาได้ แต่อย่าทำให้เกิดการชุมนุมที่ส่อลักษณะการปลุกระดมมวลชน

พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นำอากาศยานไร้คนขับบินสำรวจพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย เพื่อดูแลรักษาความเรียบร้อย ซึ่งที่ประตู 4 พบว่ายังไม่ได้รื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากพื้นที่ และยังพบประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น 50 คน ขณะนี้ได้มอบหมายให้ผู้ประสานงานประสานไปยังวัดแล้วให้วัดรื้อถอนออกโดยเร็ว รวมทั้งเร่งถมคูน้ำที่อยู่บริเวณใกล้กับอาคารบุญรักษาด้วย ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาน.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการปราบปรามเพิ่มอีก 1 คดี ในความผิดตามมาตรา 116 ในส่วนของยอดการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องมีทั้งหมด 46 คดี เป็นคดีในความรับผิดชอบของกองปราบฯ 4 คดี สภ.คลองหลวง 28 คดี และ สภ.คลองห้า อีก 14 คดี

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม คสช.ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีจะยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 ในการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายหรือไม่ แต่นายกฯปฏิเสธจะตอบคำถามกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ตอบไปแล้ว จะให้ตอบอะไรอีก”

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวกรณียังคงกำลัง เจ้าหน้าที่ทหารบริเวณภายนอกวัดพระธรรมกาย แม้ว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปแล้ว ว่า ยืนยันว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารยังคงกำลังอยู่ภายนอกวัดพระธรรมกายเหมือนเดิม

เมื่อเวลา 09.45 น. พล.อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคสช. กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เสนอให้พิจารณาผ่อนปรนการใช้มาตรา 44 ในการดูแลความเรียบร้อยวัดพระธรรมกาย ว่า มาตรา 44 ยังคงไว้อยู่และจำเป็นต้องใช้ รวมทั้งการตรวจค้นภายในวัดก็ยังมีตามปกติ แต่พิจารณาเรื่องของการปรับกำลัง โดยแต่ละหน่วยจะค่อยๆ ลดกำลังลงจนเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนรายละเอียดจะต้องไปดูเรื่องการสกรีนบุคคลที่จะผ่านเข้าออก รวมทั้งเรื่องความร่วมมือในการไปดูสถานที่ต่างๆ ภายในวัด

“สื่อไปพาดหัวว่าผมสั่งตรึงกำลัง เป็นการค่อยๆ ลดกำลังลงเท่านั้น ไม่มีอะไร เพราะสถานการณ์คลี่คลายแล้ว แต่ยังต้องดูแลพี่น้องประชาชน เพราะยังมีบางส่วนที่เข้ามาอยู่และอาจมีผลกระทบต่อประชาชน” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ในขณะนี้ยังต้องใช้มาตรา 44 ดูแลวัดพระธรรมกาย ไปอีกนานเท่าใด พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงต่อไป เวลานี้ยังใช้ในรูปแบบเดิมอยู่หากได้รับความร่ววมมือจากบุคคลบางส่วนที่เข้ามาก็จะค่อยๆ ลดระดับความเข้มงวดลง แต่เวลานี้ยังจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพราะยังมีความกังวลอยู่ ตราบใดที่ยังไม่พบตัวพระไชยบูลย์ สุทธิผล เรื่องนี้จึงถือว่ายังสำคัญอยู่ ต่อข้อถามว่าการคงกำลังทหารดูและจะขยายไปถึงสาขาของวัดพระธรรมกายหรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า ให้ทีมงานที่ผิดชอบคิด ตนดูในภาพรวมเท่านั้น

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวหาว่าพระทัตตชีโว เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่นำเช็ตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้นว่า ข้อเท็จจริงเดี่ยวให้เขาพิสูจน์ทราบมา ตอนนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังเข้าดำเนินการในทุกกรณี โดยเฉพาะการสอบทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการฟื้นฟู เพราะยังมีความเดือดร้อนอยู่ นั่นคือเหตุผลที่ต้องตามหาหลักฐานต่างๆ ดังนั้นขอให้อดทนหน่อย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีผ่อนปรนการบังคับใช้ม. 44 จริงๆ แล้วเขียนคลุมไว้เฉยๆ แม้จะเขียนทำโน่นนี่ได้ แต่ใช่ว่าจะทำได้ทั้งหมด ที่ผ่านมาผ่อนสั่นผ่อนยาวมาตลอด มีอำนาจเยอะแยะยังไม่ทำเลย ขอให้เข้าใจว่า ม.44 รัฐกุมครอบคลุมไม่ต้องใช้หลายกฎหมาย แต่ท้ายที่สุดนำไปสู่การใช้กฎหมายปกติ

นายกฯ กล่าวต่อว่าอย่างวันนี้ ม.44 มีไว้เพื่อรักษาพื้นที่ ดูแลพื้นที่ต่างๆ ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น แต่เรื่องคดีก็ต้องนำไปสู่กระบวนการยุติธรรม ฟ้องกันไปมาก็ว่ากันไป เข้าสู่กระบวนการฟ้องร้อง หากเกี่ยวกับเรื่องสงฆ์ก็เป็นเรื่องพระธรรมวินัย พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ซึ่งมีกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 อยู่ ก็ต้องไปดู ตนได้ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประสานมหาเถรสมาคมเกี่ยวกับการปกครองสงฆ์ อยากให้สื่อได้ลองอ่านพ.ร.บ.คณะสงฆ์ดู ตนได้อ่านจบแล้ว จึงได้ปฏิบัติตามขั้นตอน ตนเกาะกฎหมาย พ.ร.บ.สงฆ์มาโดยตลอด ตั้งแต่เรื่องสมณศักดิ์ก็อ่านจากพ.ร.บ.คณะสงฆ์ อย่าทำงานโดยคิดเอาเอง จะวิพากษ์วิจารณ์แล้วคิดเองมันไม่ได้

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ประกาศขยายพื้นที่ควบคุมไปยังสาขาวัดพระธรรมกายในต่างจังหวัดด้วยหรือไม่ว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ส่วนมาตรการผ่อนปรนการใช้มาตรา 44 ดูแลความเรียบร้อยรอบวัดนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะพิจารณาและค่อยๆ ถอนกำลังทหารออกจนหมด แต่ตำรวจยังต้องอยู่เพื่อดูแลป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย

ด้านพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2560 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง สั่งการให้พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จัดประชุมรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายทุกรูป ไวยาวัจกร และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปดังนี้ ขอความร่วมมือพระสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ งดให้ข่าว และเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีวัดพระธรรมกาย และให้วัดแจ้งพระภิกษุสามเณรที่อยู่นอกเขตวัด กลับเข้าปฏิบัติศาสนกิจในวัดให้หมด วัดพระธรรม กายจะจัดส่งรายงานรายชื่อพระสงฆ์ สามเณร และศิษย์วัดที่อาศัยอยู่ในวัด ต่อเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ พระสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย ที่ได้รับหมายเรียกกรณีขัดคำสั่ง คสช.ที่5/2560 จำนวน 14 รูป ได้เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 13 รูป ให้วัดจัดทำรายงานการดำเนินการตามภารกิจ 6 ด้านของคณะสงฆ์ คือ การปกครอง การศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ 5.ให้วัดพระธรรมกายจัดทำบัญชีรายงานรายรับรายจ่ายของวัด ส่งไปที่เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ตามมติมหาเถรฯ ด้วย

ผอ.พศ. กล่าวต่อว่าการดูแลความสงบเรียบร้อยในวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ พระสงฆ์ และหน่วยรักษาความปลอดภัยของวัดจะทำหน้าที่ดูแล ตลอดจนคัดกรองพระสงฆ์และบุคคลที่จะเข้าไปในวัด สำหรับประตู 7 จะมีพระวินยาธิการ พระสงฆ์ของวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ทำหน้าที่คัดกรอง การจัดกิจกรรม งานบุญ มีตามปกติ ไม่ให้มีการระดมคนเข้าวัด ซึ่งพระวินยาธิการของ จ.ปทุมธานี จะได้ร่วมในกิจกรรมของวัดด้วย เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กำหนดจัดประชุมรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายทุกรูป ไวยา วัจกร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ครั้งต่อไป ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 15.00 น. เพื่อปรึกษาหารือและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการ ดังกล่าว โดยจะมีผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน