ศาลไม่ให้ประกันตัว “ไบรท์” ลูก พ.ต.ท. ที่รับสารภาพใช้ไขควงแทงหัว ม.ศิลปากร เอาผิด 4 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา บุกรุก อั้งยี่ซ่องโจร พร้อมคัดค้านประกันตัว ชี้การกระทำของผู้ต้องหาไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง เกรงจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ข่มขู่พยาน สอบสวนให้การภาคเสธ ไม่มีเจตนาฆ่า เป็นการต่อสู้ป้องกันตัว หนึ่งในผู้ต้องหายอมรับเป็นคนใช้ไขควงแทงจริง เผยเป็นลูกรอง ผกก.นายหนึ่งที่กาฬสินธุ์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นำกลุ่มผู้ต้องหา 16 คน เป็นผู้ชาย 14 คน และผู้หญิง 2 คน คดีร่วมกันรุมทำร้ายและใช้ไขควงแทงศีรษะฆ่านายธีรพงศ์ หรือปอนด์ ฐิติฐาน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี มาส่งให้ พล.ต.ต. สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 ป.

จากนั้น พล.ต.ต.สุทิน สั่งการให้ตำรวจคอมมานโดตรวจค้นกระเป๋าผู้ต้องหาทั้งหมด ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนทันที โดยมีกลุ่มญาติพี่น้องของผู้ต้องหา และทนายความเดินทางติดตามมาด้วย พร้อมเตรียมหลักทรัพย์มาคนละ 500,000 บาท สำหรับยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน

พล.ต.ต.สุทินกล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังสอบไม่ครบ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วอาจจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง และจากการสอบสวนพบอีกว่าคดีนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องอีก 3 คน ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี โดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นหลานนักการเมืองท้องถิ่น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์นำกำลังลงพื้นที่เกิดเหตุไปรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบในเชิงลึก

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมฟังการสอบสวน และกล่าวว่าพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีอั้งยี่ซ่องโจร นอกเหนือไปจากข้อหาร่วมกันฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา จากการสอบปากคำทราบด้วยว่าหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหายอมรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนใช้ไขควงแทงศีรษะนายธีรพงศ์

มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายธีรพงศ์ เป็นลูกชาย พ.ต.ท. ตำแหน่ง รอง ผกก.รับราชการอยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีสาเหตุความขัดแย้งเรื่องชู้สาวระหว่างกลุ่มผู้ต้องหากับเพื่อนผู้ตาย

เวลา 16.30 น. พนักงานสอบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหา 15 คน ไปฝากขังที่ศาลอาญา และอีกคนเป็นเยาวชนไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 16 คนยังให้การภาคเสธ ยอมรับว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง เป็นเรื่องทะเลาะวิวาท และไม่มีเจตนาฆ่า เป็นการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากผู้ตายมีรูปร่างใหญ่โตกว่า โดยหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นผู้ใช้ไขควงที่หยิบจากในห้องผู้ตายมาใช้เป็นอาวุธแทงจริง

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่าแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันบุกรุกในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และอั้งยี่ซ่องโจร ส่วนจะแจ้งข้อหาร่วมกัน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องเจตนาอีกครั้ง และจะยังไม่นำตัวไปทำแผนฯ ประกอบคำรับสารภาพ เพราะฝ่ายผู้ต้องหาเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย แต่ให้ขอหมายค้นเพื่อเก็บหลักฐานที่บ้านพักผู้ต้องหาในกรุงเทพฯ ด้วย และในกลุ่มผู้ต้องหามีลูกตำรวจมากกว่า 1 คนด้วย

สำหรับผู้ต้องหา 16 คน ประกอบด้วย นาย กรกนก หรือ อาท วรัญญสาธิต อายุ 23 ปี, นายเดชาธร หรือ ไบร์ท มูลมณี อายุ 21 ปี, ส.ต.ชรินทร หรือบิ๊ก แก่นสาร อายุ 20 ปี, นายญาณวัฒน์ หรือ ปาล์ม ทิพย์เที่ยงแท้ อายุ 20 ปี, นายเรวัติ หรือ เต้ย วงศ์ขยาย อายุ 21 ปี, นายกฤตนันท์ หรือ ปาล์ม เนียมเงิน อายุ 19 ปี, นายเศรษฐา หรือ เติ้ล อุปถัมภ์ อายุ 27 ปี,

นายธีราพัฒน์ หรือ อั้ม โพธิ์สิทธิ์ อายุ 20 ปี, นายธีรานนท์ หรือ นนท์ ทัพนาค อายุ 21 ปี นายภาคิน หรือ มิ๊ค เสือนาค อายุ 19 ปี, น.ส.ณชพัฒน์ หรือ ทราย พิกุลทอง อายุ 21 ปี, นายศุภสิทธิ์ หรือ เป้ง ดีท้วม อายุ 21 ปี, นายอธิบดี หรือซีม กุญแจทอง อายุ 21 ปี, นายชินกิตติ์ หรือ กิต อรรถวรรธน อายุ 19 ปี, น.ส.มาริสา หรือ ลูกหมี เงินทอง อายุ 21 ปี และชายวัยรุ่นอายุ 18 ปี

ต่อมาพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ควบคุมตัวผู้ต้องหามายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-25 มี.ค. เนื่องจากต้องสอบสวนปากคำพยานอีก 15 ปาก และคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่อง จากคดีมีอัตราโทษสูง การกระทำของกลุ่ม ผู้ต้องหาไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ แจ้งเหตุว่ามีกลุ่มบุคคลไปข่มขู่พยานทางคดีด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน