ปรเมศวร์ สวนกลับ มจ.จุลเจิม ยันจงรักภักดีเต็มร้อย แต่อย่านำสถาบันมาเล่นการเมือง
ปรเมศวร์ สวนกลับ มจ.จุลเจิม / เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด กล่าวถึง ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือท่านใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึง “รองอธิบดีอัยการ” ปรเมศวร์ มีใจความว่า “ทำไมไม่สำนึกตัวเองว่าเป็นใคร เป็นถึงรองอธิบดี ข้าราชการระดับสูง เช่นนี้สมควรโดนยึดเครื่องราชฯ และไล่ออกจากสำนักอัยการสูงสุด ไปอยู่กับ แม่ช่อซะเลยจะดีกว่า”
- อ่านข่าว ม.จ.จุลเจิม ซัดแรง!! อัยการปรเมศวร์ ไม่สำนึก ควรโดนยึดเครื่องราชฯ ไล่ไปอยู่กับช่อ
- อ่านข่าว เพื่ออะไร? ‘ปรเมศวร์’ ถามทำไมต้องขุดเล่นงาน ‘ช่อ’ ไม่อยากให้ทำลายล้างแบบนี้!
- อ่านข่าว : ตร.เด้งรับ สอบ ช่อ พรรณิการ์ และแก๊งเพื่อน ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ กระทบความมั่นคงหรือไม่
โดยนายปรเมศวร์กล่าวว่า ก็มีบางคนที่ไม่เข้าใจที่ตนพูดหรือไปสื่อความหมายผิด เรื่องนี้ตนไม่ได้บอกกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ว่าผิดหรือไม่ผิด ตนแค่ถามว่าเราจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร นำสถาบันลงมาเล่นกันเพื่อให้เกิดความแตกแยกกันอีกแล้วหรือ เรื่องนี้อย่าทำคดีด้วยความโกรธ ถ้าเขาผิดก็ทำคดีไป เรื่องนี้ตำรวจเขาก็ดำเนินการอยู่ ตนไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยอยู่แล้ว
“ลองไปอ่านที่ผมเขียนดูดีๆ เรื่องนี้ผมเพียงให้ความเห็นว่า เป็นการทำเพื่ออะไร เพราะบ้านเมืองเรากำลังเป็นอยู่แบบนี้ จะไปนำเรื่องขึ้นมาให้เกิดความแตกแยก เรื่องของสถาบันหรือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่านำมาเล่นกันในทางการเมือง จะดำเนินคดีก็ดำเนินคดีไป ผมเเค่มองไปว่าเขาทำตอนที่เขายังเป็นเด็ก กับตอนปัจจุบันนี้ คุณคิดอย่างไรกันก็เท่านั้น อย่าเอาความรู้สึกมาตอบ คนบางคนมีความเห็นโดยเอาแค่ความรู้สึกเท่านั้น”นายปรเมศวร์กล่าว
นายปรเมศวร์กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้เป็นคนที่มีความเห็นโดยเอาเเต่ความรู้สึก อย่างบางคนที่ไม่เห็นด้วยในประเด็นที่มองว่าน.ส.พรรณิการ์ขณะนั้นอายุ 21 ปี บรรลุนิติภาวะแล้ว ก็วิจารณ์กันมา ตรงนี้ก็เป็นเหตุผลที่ตนรับฟังอยู่ แต่ในส่วนที่ด่ากันโดยไม่ได้ดูเหตุผลของความเห็น มันไม่สร้างสรรค์ ระบอบประชาธิปไตยคือการมีส่วนร่วม การใช้ความเห็น ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญก็ให้แสดงความเห็นได้
“ประการแรก ผมไม่ได้บอกสักคำว่าใครผิดไม่ผิด ประการที่ 2 คือผมไม่ได้พูดอะไรถึงสถาบันหรือพระเจ้าอยู่หัวเลย เราทำงานอยู่ในหน้าที่ไปดูได้ตามโพสต์เก่าๆของผม ยกพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ แต่ที่นี้กลับมามองผมมุมเดียว คนไทยเรายังมีข้อเสียตรงนี้ วันนี้เราอยากได้คนที่มองเห็นทุกมุมทุกมิติ ถ้าถามถึงความจงรักภักดีถึงผมไม่แสดงออก แต่ผมมีเต็มร้อย”
“การใส่เสื้อสีไม่ใช่การแสดงความจงรักภักดี แต่การปฏิบัติตามแนวทางพระเจ้าอยู่หัวนั่นคือการเชิดชูความจงรักภักดีที่สูงสุด ผมเชื่ออย่างนั้น ผมเลยอยากเตือนสังคมว่าอย่าเอาเรื่องพวกนี้มาเล่น ผมไม่รู้จักใครทั้งนั้น ไม่ว่าคุณช่อ หรือคุณธนาธร ผมยังเคยไปออกทีวีและพูดถึงพรรคการเมืองนี้ว่ายังไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ เพราะยังมีประสบการณ์น้อยเเละห้าวเกินไป เนื่องจากนายกฯ ต้องมีความสุขุมลุ่มลึก”นายปรเมศวร์กล่าวและว่า
“ส่วนท่านใหม่จะคิดยังไง มันก็เป็นเรื่องของท่าน จะว่าอะไรก็ว่าไป แต่ท่านใหม่ต้องเข้าใจว่าการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย เขาแสดงกันอย่างไร อันนั้นคือหลัก ผมไม่ได้โกรธใครทั้งนั้น”