จากกรณีอบต.สาว โดนยิงโหดเสียชีวิตคารถ จนต่อมาสามารถจับกุมผู้บงการคือนายกหมึก ทวีวงศ์ ทองยืน อดีตสามี พร้อมกับผู้ลงมือยิงได้ โดยอ้างว่า ทำไปเพราะโกรธแค้นที่ตนเองรักและส่งเสียเลี้ยงดูแต่กลับไปมีสามีใหม่

 

โดยเพจอีจัน ได้เผยแพร่คำสัมภาษณ์ของ นางบานเย็น งามวิลัย แม่ของ น.ส.วีรญาภา หรือ เปิ้ลสาวอบต. โดยได้ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกสาวอยู่กินกับนายกหมึกเป็นธรรมดา แต่พอรู้ว่ามีเมียแล้วก็ไม่ยุ่งและตีตัวออกห่าง ระหว่างที่คบกันนั้นก็เคยเจอนายกหมึก พอรู้อยู่ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน มาบ้านก็จะทะเลาะงอนกันบ่อยๆ มีการทะเลาะกันให้เห็นเวลาอยู่ต่อหน้าแม่ก็มีทะเลาะกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกสาวไปสิงห์บุรีด้วยกัน มีการทะเลาะกันในรถ จนลูกสาวเปิดประตูรถวิ่งไปขอความช่วยเหลือในป้อมตำรวจ และโทรหาแม่ร้องไห้ ซึ่งตนก็ปลอบว่า ให้อยู่กับตำรวจก่อน และตอนอยู่บ้านเช่า ที่ จ.ชลบุรี ก็มีการเอาปืนจ่อหัวลูกสาว โดยที่แม่ก็รู้ดีว่านายกหมึก เป็นคนอย่างไร
เมื่อถามว่า นายกหมึก อ้างว่า ส่งเสียเลี้ยงดูลูกสาวนั้น แม่ กล่าวว่า ไม่จริง เช่น ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า นายกหมึก ได้ไลน์เอกสารใบเสร็จปลอมอ้างว่าไปจ่ายค่าบ้านมา แต่จริงๆ โกหกและลูกสาวได้เอาเงินไปจ่ายเองและก็มีการเอาเอกสารมาให้ดูกันอยู่ ซึ่งตอนที่เลิกรากันก็เพราะนายกหมึก มีเมียแล้วและโกหก ก็เลยเลิกรากัน

 

ส่วนที่ให้สัมภาษณ์ว่ารักกันอยู่นั้น แม่กล่าวว่า คนรักกันก็ต้องมีความสงสารกัน ซึ่งสิ่งที่นายกหมึกทำกับลูกสาวอย่างโหดร้าย มันสวนทางกับสิ่งที่กระทำ เขาจะพูดอะไรก็ได้ เพราะลูกสาวแม่ไม่ได้ฟื้นขึ้นมาตอบโต้แล้ว

 

“เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้าวันสองวันลูกสาวก็มาบ้าน มานอนกับแม่คืนหนึ่ง ซึ่งลูกสาวเองก็บอกว่า เลิกกับนายกหมึกนานแล้ว และแม่ก็ไม่เจอตัวนายกหมึกอีกเลย ส่วนความเป็นธรรมนั้น แม่สูญเสียลูกไม่มีวันกลับ ส่วนเขาติดคุกยังมีวันออก แต่สิ่งที่ต้องการอย่างเดียวคือไม่อยากให้มีการประกันตัว แม่กลัวเรื่องเงียบหายไป ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ถูกประหารตกต้องไปตามกัน หรือจำคุกตลอดชีวิต จะได้รู้บ้างว่า บาปกรรมเป็นอย่างไร และตนอยากไปฟังคำตัดสินของศาล ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร อยากไปดูหน้าเขาว่า ทำกับผู้หญิงตัวคนเดียวตัวเล็กๆ ได้อย่างไร อยากให้เจ้าหน้าที่พิจารณาว่า เป็นเรื่องที่โหดร้าย ผู้ชายสองคนมารุมผู้หญิงคนเดียวน่าให้ประกันหรือไม่”

 

นางบานเย็น กล่าวว่า ส่วนสามีใหม่ของลูกสาว แม่เป็นคนห้ามไม่ให้มางานศพเองเพราะเขาเพิ่งมาไม่ได้รู้เรื่อง รู้ราวอะไร ไม่อยากให้มาเกี่ยวข้องเพราะเขายังอยู่กลัวว่าจะเกิดความเสียหาย
“ถ้าใครไม่รู้จริง ก็อย่าโจมตีกันเลย อยากให้ไปถามเพื่อนร่วมงานทุกคน ว่าลูกเป็นคนอย่างไร คนอยู่จะพูดอย่างไรก็พูดได้ แต่คนตายไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ ตั้งแต่ลูกเสียแม่ก็แทบไม่ได้นอน แทบไม่ได้ฝันถึงลูก แต่เพื่อนๆ ก็มีมาเล่าให้ฟังบ้างว่า ฝันเห็นมายืนให้เห็นไม่ได้พูดหรือทำอะไร”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน