เปิดใจ‘บิลลี่’ เขียน แบงก์ร้อยบอกรัก เผยชีวิตน้องมายด์ ฝากถึงคนเก็บธนบัตรได้
แบงก์ร้อยบอกรัก / จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Saruda Chotipanang โพสต์ข้อความ “ตามหาคุณบิลลี่กับมาย ตอนนี้เงินอยู่กับเรา เราอยากรู้ว่าคุณแต่งงานกันยัง เราจะได้เอาเงินไปซื้อข้าวให้ลูกกิน” พร้อมรูปภาพธนบัตร 100 บาท ที่เขียนข้อความว่า “บิลลี่รักมายด์ ต้องเก็บให้ถึงวันแต่งงานนะ^-^ ธนพลรักลลิตรา” จนเป็นที่สนใจของโลกออนไลน์
จนกระทั่งผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thanapon Pansuwan ซึ่งก็คือ บิลลี่ ที่เป็นอดีตเจ้าของและเป็นผู้เขียนข้อความในธนบัตรดังกล่าว โพสต์ข้อความว่า “เลิกละครับ ผมทิ้งเขาไปเขาจะเก็บไว้ทำไม เรื่องนี้ผมให้น้องเขาไปนานแล้วตั้งแต่ปี 57 รักในวัยเด็ก แค่แบงค์ร้อยก็มีค่า”
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายบิลลี่ หรือนายธนพล แป้นสุวรรณ อายุ 20 ปี ชาวต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เจ้าของแบงก์ร้อยบอกรัก
โดยนายธนพล เปิดเผยว่า เนื่องจากพ่อแม่ของตนมีลูกหลายคน ทำให้มีค่าใช้จ่ายมาก ตนและพี่น้องทุกคนจึงต้องช่วยกันทำงาน โดยในช่วงปี 2557 ขณะที่กำลังช่วยแม่ขายข้าวมันไก่อยู่ในตลาดนัดแถวบ้าน ก็ได้พบกับน้องมายด์ที่กำลังช่วยพ่อขายไก่ย่าง ด้วยความขยันและความน่ารักของน้องมายด์ ทำให้ตนพยายามติดต่อพูดคุยและสานสัมพันธ์ จนตกลงใจคบกันเป็นแฟน
“ในการคบหากันก็เป็นไปด้วยดี ต่างคนต่างทำหน้าที่ของลูกและนักเรียนไปพร้อมๆ กัน ต่อมาหลังจากที่คบกันมาได้ 4 เดือน จึงนำธนบัตร 100 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรง เขียนข้อความบอกรักและความฝันว่าอยากจะแต่งงานกับคนที่เป็นรักแรกพบลงไป เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแทนใจ”
“แต่ทว่าความฝันที่วาดเอาไว้ ก็ต้องจบลงด้วยสาเหตุที่เกิดจากภาระหน้าที่และเวลาที่ไม่ตรงกัน อีกทั้งยังมีความรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอที่จะสามารถดูแลคนรักได้ จึงตัดสินใจบอกเลิกน้องมายด์ผ่านทางเฟซบุ๊ก หันมามุ่งมั่นตั้งใจเรียนด้านอาหารและโภชนาการจนจบ”
นายธนพล เปิดเผยอีกว่า จนกระทั่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กนำธนบัตรดังกล่าวมาโพสต์และแชร์ส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก โดยครั้งแรกที่เห็นภาพธนบัตร ก็รู้สึกดีใจที่ของขวัญชิ้นนี้ยังคงอยู่ และยังทำให้ตนมีโอกาสได้กลับมาพบเจอและพูดคุยกับน้องมายด์อีกครั้ง ด้วยสถานะเปลี่ยนจากคนเคยรักมาเป็นพี่เป็นน้องที่ดีต่อกัน นอกจากนั้นทำให้รู้ว่าปัจจุบัน น้องเขามีแฟนแล้ว ส่วนธนบัตรที่พบในเฟซบุ๊ก เนื่องจากน้องได้ทำหายไปหลังเลิกรากัน
“สำหรับความห่วงใยที่ถามกันมาว่า ผมจะมีเงินซื้อข้าวหรือกำลังลำบากอยู่หรือเปล่านั้น ปัจจุบันผมทำงานเป็นเชฟในร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.บ้านโป่ง สำหรับเมนูที่ลูกค้าชื่อชอบฝีมือ ก็จะเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้นและข้าวผัดปู รวมทั้งยังมีสถานะโสดอยู่ พร้อมอยากฝากไปถึงเจ้าของเฟซบุ๊ก “Saruda Chotipanang” ด้วยว่า เอาเงินไปซื้อข้าวให้ลูกกินได้อย่างสบายใจเลยครับ”
