ถ่ายรูปโชว์นาฬิกาหรู กลางร้านไฮโซ อ้างทำอาชีพนี้เลยซื้อได้ ก่อนโดนร้านแหกยับ

เป็นโพสต์ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์สนั่น เมื่อเจ้าของร้านนาฬิกายี่ห้อหรู ได้ออกมาเตือนบุคคลที่ถ่ายรูปกับนาฬิกายี่ห้อหรู แล้วนำไปอ้างว่า เป็นเพราะทำอาชีพนี้จึงสามารถซื้อนาฬิกาหรูขนาดนี้ได้ แต่ทางร้านดังกล่าวได้ยืนยันว่า ทั้งสองคนไม่ได้เข้ามาซื้อนาฬิกาแต่อย่างใด

โดยพบว่าผู้ที่ถูกระบุว่า ไม่ได้ซื้อนาฬิกานั้น ระบุในเฟซบุ๊กของตนเองว่า “ไม่ใช่อาชีพนี้แล้วจะได้มั้ย ไม่เคยคิดว่าเราจะได้สัมผัส เพราะมันเป็นของที่มูลค่าสูงมาก เลยคิดว่าเอื้อมไม่ถึง แต่เราก็ทำได้ Rolex มูลค้า 560,000 รู้สึกภูมิใจมากๆ เลย ขอจิบชาฝรั่งเศสให้ชื่นใจหน่อย ขอขอบคุณผู้หญิงคนนี้ รองติ๊ก MMS04 ที่คอยผลักดันและเป็นต้นแบบให้เดินตามจนมีวันนี้”

โดยทางร้านที่โพสต์ภาพดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ว่า “เนื่องจากมีการแชร์เรื่องราวที่มีบุคคลมาถ่ายรูปการซื้อขายนาฬิกากันในร้านของผม และต่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกันอย่างแพร่หลาย ผมขออธิบายเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง สำหรับท่านที่ไม่ได้เห็นโพสต์ของผมทั้งหมด เพื่อจะไม่เข้าใจผิด และเผื่อจะช่วยยุติการประนาม ด่าทอ เสียดสี ต่อบุคคลทั้งสามที่เกี่ยวข้องลงเพียงเท่านี้

ข้อเท็จจริง คือดังนี้

1. สองท่านในภาพ เข้ามาในร้านพร้อมกับผู้ขายสุภาพสตรีอีกท่าน เพื่อนำนาฬิกามาถอดข้อ

2. ทางร้านยินดีบริการ แต่ขอดูใบรับประกันและใบเสร็จรับเงิน เนื่องจากมักมีพ่อค้าแม่ค้าของหนีภาษี ของหิ้ว ชอบมาซื้อขายกันในร้านและใช้ทางร้านเป็นตรายางสร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้าที่ไม่ได้ซื้อจากทางร้าน

3. ทั้งสามท่านแจ้งว่า ไม่มีใบรับประกันหรือใบเสร็จมา ทางร้านจึงแจ้งว่าให้นำมาด้วยครั้งหน้า ทางร้านจะบริการให้ (นโยบายของทางร้าน ยินดีให้บริการนาฬิกา Rolex ทุกเรือน ไม่ว่าจะซื้อสินค้ามาจากประเทศใดก็ตาม ขอเพียงมิได้ซื้อจากร้านหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่หลบเลี่ยงภาษี)

4. หลังจากได้รับทราบนโยบายของทางร้านแล้ว ทั้งสามท่าน ได้ย้ายไปนั่งที่โซฟา เอากล่องและนาฬิกาออกมาวางบนโต๊ะรับแขก และท่านหนึ่งเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปให้ ทำทีท่าเหมือนซื้อนาฬิกาเรือนในภาพจากทางร้าน หลังจากนั้น ผู้ถ่ายภาพ (เข้าใจว่าเป็นผู้ขายนาฬิกาให้) ยังได้นำบัตรเครดิตของตนเอง ออกมาจากกระเป๋า และวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆกับนาฬิกา และถ่ายภาพต่ออีก

5. พนักงานของทางร้าน ไม่กล้าห้าม เพราะกลัวเป็นการไม่สุภาพ

6. ทางร้านไม่ทราบเจตนา จึงต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะเกรงว่าจะมีการนำภาพเหล่านี้ไปหลอกขายสินค้าให้กับผู้อื่น ซึ่งอาจทำให้ทางร้านเสียหายได้

7. ทั้งสามท่าน ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอโทษเรียบร้อยแล้ว และสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรลักษณะนี้อีก ที่ทำไปเพียงต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกทีมคนอื่นๆ

8. ทางร้านยินดีรับคำขอโทษ และไม่ติดใจอะไร ยินดีให้บริการกับลูกค้าทุกท่านเสมอ ไม่ว่าจะซื้อสินค้ามาจากที่ไหน (กรุณานำใบรับประกันและใบเสร็จมาด้วย)

9. ผมขอสรุปว่า คนเราทุกคน สามารถทำผิดพลาดได้ ผมได้ตักเตือนไปว่า การสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทีม มิใช่ความผิดอะไร สามารถทำได้ หากสิ่งที่แสดงออกไป ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง

ผมขอสรุปว่า เรื่องนี้มิใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ทั้งสามท่านทำไปเพียงเพราะคิดน้อยไปนิด มิได้กระทำความผิดเลวร้ายอะไร ผู้ซื้อก็มีเงินซื้อนาฬิกา จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เพียงแต่มิได้ซื้อจากทางร้าน แค่มาแอบอ้างด้วยภาพ เพราะร้านมีชื่อเสียง

ผมจึงอยากจะขอความกรุณา อย่าด่าทออะไรกันรุนแรงอีกต่อไปเลยครับ ขอจบเรื่องเพียงเท่านี้ครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ ที่ให้ความสนใจ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน