ยายพา หลานชายนักเรียนชั้นม.2 ร้องตำรวจ ถูก ครูพลศึกษาวิชาเทควันโดทำร้าย เผยจับใส่กุญแจมือก่อนจะเตะเข้าที่เอวหลายครั้งในห้องเรียน ท่าม กลางเพื่อนนักเรียนทั้งชั้น สาเหตุเนื่องจากก่อนหน้านี้มีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนน.ร.หญิงกรณีขว้างทำลายโทรศัพท์มือถือ สุดท้ายได้ชดใช้เคลียร์ค่าเสียหายกันเรียบร้อยแล้ว แต่ ครูยังจะตามมาสอบสวนทำโทษอีก ด้านยายรู้ข่าวรุดไปสอบถามแต่ทุกคนบ่ายเบี่ยง แม้แต่ผอ.ก็ไม่ยอมให้ความเป็นธรรมซ้ำต่อว่าถ้าไม่พอใจก็ให้หลานลาออกไป
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ก.ย. นาง วัชรีนา ชินศรี อายุ 57 ปี ได้พาด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่าน อ.เมือง จ.สมุทร ปราการ เข้าแจ้งความ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ เมฆษา สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ หลังหลานชายถูกครูหนุ่มชื่อเปิ้ล อาจารย์พลศึกษา สอนวิชาเทควันโดของโรงเรียนดังกล่าว ลง โทษโดยการเตะเข้าที่เอวหลายครั้ง เหตุเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายในห้องเรียนของโรงเรียนดังกล่าว
ด.ช.บอยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนหญิงสองคน ซึ่งเรียนอยู่ห้องเดียวกัน สาเหตุมาจากเพื่อนหญิงทั้งสองกลั่นแกล้งเอาหนังสือไปซ่อนไว้ใต้โต๊ะของเพื่อนคนอื่น ด้วยความโมโห จึงแย่งเอาโทรศัพท์เพื่อนหญิงทั้งสองไปโยนทิ้งออกไปทางหน้า ต่าง จนเครื่องได้รับความเสียหาย
ด.ช.บอยกล่าวว่า ต่อมายายของตนได้ชดใช้ค่าเสียหายให้เพื่อนทั้งสองคนแล้ว รวมเป็นเงิน 5,500 บาท ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นยุติลง ต่อจากนั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่เกิดเหตุ ระหว่างเรียนหนังสืออยู่กับครูเปิ้ล แต่มีเพื่อนบางคนที่ไม่มีหนังสือเรียน ครูเปิ้ลจึงได้ใช้ให้ตนเดินไปซื้อหนังสือให้เพื่อน เมื่อกลับมาถึงห้อง ได้นั่งลงกับพื้น เนื่องจากในห้องเรียนไม่มีเก้าอี้สำหรับนั่งเรียน ครูเปิ้ลถามว่าเมื่อวันก่อนทะเลาะกับเพื่อนแล้วเอามือถือเพื่อนไปทิ้ง ใช่ไหม ตนจึงได้ตอบว่า ใช่ และได้ชดใช้เงินคืนเพื่อนไปเรียบร้อยแล้ว แต่จู่ๆครูเปิ้ลก็เอากุญแจมือมาล็อกมือของตนไว้ พร้อมกับสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งก็ได้พยายามอธิบายว่าเรื่องจบไปแล้วจะเอาอะไรอีก ครูเปิ้ลจึงยอมถอดกุญแจมือออกก่อนจะใช้เท้าเตะที่ข้างเอวตนหลายครั้ง ท่ามกลางสายตาเพื่อนที่อยู่ในห้องจำนวนมาก จากนั้นหมดเวลาเรียนพอดี จึงได้ปล่อยให้ตนไปเรียนวิชาอื่น
ทางด้านนางวัชรีนากล่าวว่า หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ตนได้เดินทางไปสอบถาม แต่ครูเปิ้ลไม่สนใจและไม่แสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้เดินทางเข้าพบ ผู้อำนวยการโรงเรียน เนื่องจากด.ช.บอยยังหวาดกลัวและไม่อยากไปโรงเรียน แต่เมื่อพูดคุยขอความเป็นธรรม ผอ.กลับพูดว่าโรงเรียนได้เคลียร์กับคุณครูเปิ้ลเรียบร้อยแล้ว พร้อม ทั้งบอกว่า สาเหตุที่เด็กไม่อยากมาเรียนเป็น เพราะเด็กนักเรียนไม่อยากมาเอง ถ้าเด็กนักเรียนไม่อยากเรียน ก็ให้ลาออกไปเลย ตนจึงเกิดความไม่พอใจกับคำพูดของผอ.ที่ไม่แสดงความรับผิดชอบ และไม่ให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนดำเนินคดีกับครูพลศึกษาต่อไป
เบื้องต้นหลังสอบปากคำ พนักงานสอบ สวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับจะได้เชิญครูที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักเรียนมาสอบสวนข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียน ดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนว่าผู้อำนวยการออกไปทำธุระข้างนอก และไม่สะดวกที่พูดหรือให้ข้อมูลใดๆ
