พ่อเฝ้าถึงเกาหลี เผยน้องมินดีขึ้น-ตาขอปาฏิหาริย์ เตือนคนไทยไปต่างประเทศ

แพทย์ระบุอาการน้องมิน ดีขึ้น แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยอยู่ ระบุขอให้ฟื้นได้สติก่อนจึงจะส่งตัวกลับมารักษาที่ไทย พ่อน้องมินเฝ้าไข้ลูกสาวถึงข้างเตียงที่เกาหลี กระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลือเต็มที่ เตือนคนไทยไปต่างประเทศควรซื้อประกันสุขภาพ ศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์เผยเงินบริจาคได้แล้ว 7.3 หมื่น แม่ระบุลูกน่าจะแพ้อากาศ

จากกรณี “น้องมิน”น.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน อายุ 25 ปี บัณฑิตหอการค้าไทย คนกาฬสินธุ์ บินเที่ยวเกาหลีใต้กับเพื่อน แต่จู่ๆ ขากลับร่างกายอ่อนแรงกะทันหันจนเกิดช็อกหมดสติกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประเทศเกาหลีใต้ เบื้องต้นพ่อบินไปรับตัว และกระทรวงการต่างประเทศจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ก่อน แต่ครอบครัวต้องเซ็นรับสภาพหนี้ ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้นั้น

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่บ้านเลขที่ 85 หมู่ที่ 15 บ.โนนชาด ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ นายทองอ่อน หนองโสดา ตาของน้องมินและญาติๆ โทรศัพท์ไปสอบถามอาการหลังจากที่นายธีรพงษ์ นาสะอ้าน พ่อของน้องมิน เดินทางไปดูอาการที่ประเทศเกาหลีใต้ ทราบว่าอาการดีขึ้น ตอบสนองในทางรักษา ครอบครัวจึงร่วมกันจัดแต่งขันธ์ห้าเพื่อประกอบพิธีสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งอธิษฐานส่งกำลังใจเพื่อคุ้มครองรักษาน้องมินให้หายจากอาการป่วยที่ประเทศเกาหลี

นายทองอ่อนกล่าวว่า ครอบครัวที่กาฬสินธุ์ ทำได้แค่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยจัดหาดอกไม้ธูปเทียนสวดมนต์ไหว้พระทุกวันทุกคืนเพื่อปกปักรักษาน้องมิน โดยล่าสุดได้รับโทรศัพท์จากพ่อของน้องมินที่เดินทางไปดูอาการที่เกาหลีก็ทราบว่าขณะนี้อาการของน้องมินเริ่มดีขึ้น ทางแพทย์ถอดสายต่างๆ ออกแต่ยังไม่สามารถขยับตัวได้ แต่เริ่มหายใจเองได้แล้ว ทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจ อย่างไรก็ตาม ก็จะพาญาติพี่น้องลูกหลานสวดมนต์เพื่อให้อาการน้องมินดีขึ้นและเดินทางกลับมารักษาต่อที่ประเทศไทยด้วยความปลอดภัย

ด้านนางบังอร นาสะอ้าน แม่น้องมิน กล่าวว่า พ่อของน้องมินเดินทางไปถึง โรงพยาบาลที่ประเทศเกาหลีใต้ประมาณ 07.30 น. มีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยดูแลอย่างใกล้ชิด อาการของลูกสาวเริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถขยับตัวได้ ซึ่งแพทย์เกาหลีใต้บอกว่า จะต้องดูอาการก่อน จากนั้นก็จะสแกนสมอง หากพ้นขีดอันตราย ก็จะขอนำตัวกลับมารักษาที่ไทย ส่วนของค่ารักษาพยาบาล เบื้องต้นมีค่าใช้จ่ายต่อวันประมาณวันละ 18,000 บาท ส่วนจะมีอะไรเพิ่มเติมทางโรงพยาบาลจะแจ้งอีกครั้ง สำหรับอาการเจ็บป่วยครั้งนี้เชื่อว่าอาจจะเป็นเรื่องของการแพ้อากาศเพราะที่ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็กนั้น น้องมินป่วยเป็นโรคไทรอยด์ แต่ก็รักษาจนหาย จึงเชื่อว่าอาจจะพักผ่อนน้อยจนทำให้เกิดล้มป่วย

น.ส.ชุลีพร ภูสมศรี ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดได้เปิดรับบริจาคเงินไปทั้ง 18 อำเภอ เบื้องต้นขณะนี้มียอดบริจาคมาแล้ว 73,200 บาท ซึ่งเงินทั้งหมด ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล และจะได้ทยอยส่งไปยังครอบครัวนาสะอ้าน

น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเกาหลีใต้ พาพ่อน้องมิน เข้าเยี่ยมลูกสาวที่ โรงพยาบาลเซอเวอเร่น กรุงโซล เมื่อเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยน้องมินยังไม่ฟื้น ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยแพทย์แนะนำให้น้องมินตื่นก่อนที่จะพากลับมารักษาต่อที่ประเทศ ไทย ขณะนี้แพทย์รอดูอาการ ส่วนเรื่องที่พักของพ่อน้องมิน ทางโรงแรมที่น้องมินเคยฝึกงานทำหน้าที่ดูแลเรื่องที่พักให้

ด้านเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งกระทรวงต่างประเทศสำรองจ่ายไปก่อนนั้นเป็นไปตามแนวทางของกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ซึ่งพ่อน้องมินเซ็นรับสภาพหนี้ โดยพอกลับถึงไทยต้องใช้คืน ซึ่งทราบจากข่าวว่าทางครอบครัวและทางจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รวบรวมเงินค่ารักษา ทั้งนี้ ในกรณีเจ็บป่วยร้ายแรงในส่วนความช่วยเหลือจากภาครัฐนั้น จากที่เคยเกิดกรณีนักเรียนไทยไม่สบายหนักที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว เข้าใจว่าในการสำรองจ่ายค่ารักษาไม่มีการกำหนดวงเงินเพดานขั้นสูงไว้

“ฝากถึงคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศให้ซื้อประกันสุขภาพไว้ อย่างน้อยจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายมากมาย ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา อย่างประเทศตะวันตกบังคับให้พลเมืองที่เดินทางไปต่างประเทศต้องซื้อประกันสุขภาพไว้” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าว