ออกหมายจับแล้ว คนขับรถสกสค. ที่ก่อเหตุยิงสาวซี 4 ดับคาสนามหญ้า ในกระทรวงศึกษาฯ เผยสุดแสบใช้ชื่อ-นามสกุล น้องชายที่บวชเป็นพระมาสมัครงานตั้งแต่ปี 2537 เผยปมฆ่ามาจากเรื่องหึงหวงที่ฝ่ายหญิงตีตัวออกห่าง เพื่อจะไปแต่งงานเพราะฝ่ายชายเองก็มีครอบ ครัวอยู่แล้ว ขณะที่เพื่อนที่ทำงานร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศล พร้อมเชิญวิญญาณกลับบ้านที่บุรีรัมย์ พ่อสุดเศร้า เผยก่อนเกิดเหตุลูกสาวโทรศัพท์ไปขอให้มาช่วยเคลียร์ แต่เจรจาไม่เป็นผล เผยมือปืนชอบกินเหล้าแล้วพูดคุยไม่รู้เรื่อง ด้านรองปลัดศธ.เตรียมยกเครื่องรื้อประวัติ ลูกจ้างทั้งหมด ไม่อยากให้ซ้ำรอย

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่บช.น. พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 (ดูแลงานสืบสวน) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสน.ดุสิต กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับนายจำลอง พุ่มมาลัย มือปืนที่ก่อเหตุยิงน.ส.วาสนา บุระคร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) บริเวณสนามหญ้า ภายในกระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ตำรวจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องชื่อ ผู้ต้องหา แต่จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อนร่วมงาน ญาติ และคนรู้จักทั้งมือปืนและผู้เสียชีวิต จนทราบว่ามือปืนชื่อ นายจำลอง พุ่มมาลัย เป็นพนักงานขับรถประจำคุรุสภา แต่ใช้ชื่อ นายจรัญ คูนา น้องชาย ซึ่งบวชเป็นพระสงฆ์อยู่ที่วัดบางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มาสมัครงานในตำแหน่งพนักงานขับรถที่คุรุสภา

รองผบก.น.1 กล่าวอีกว่า ขณะนี้สั่งการชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและประกบ ตามบ้านพักญาติ และคนสนิท รวมถึงเรียกตัวคนขับรถเบนซ์ที่ขับมารับผู้ต้องหาออกไปจากที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำ ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และคาดว่าผู้ต้องหายังหลบ หนีอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ส่วนชนวนการก่อเหตุ ตำรวจให้น้ำหนักไปที่ประเด็นส่วนตัว

รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจมุ่งประเด็นความขัดแย้งของนายจำลองและผู้ตาย เกิดจากสาเหตุ ความหึงหวง เนื่องจากผู้ตายไม่เคยมีความ ขัดแย้งกับใคร และมีความสนิทสนมกับผู้ก่อเหตุมานานกว่า 2-3 ปี โดยฝ่ายหญิงจะเริ่มตีตัวออกห่างเพื่อไปแต่งงาน เพราะทราบว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มแน่ชัดและเร่งติดตามตัวคนร้ายก่อเหตุต่อไป

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สนามหญ้าสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาการ (ศธ.) ถนนนครราชสีมา แขวงและเขตดุสิต กทม. สำนักงานสกสค. นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปจากวัดเบญจมบพิตรฯ มาสวดมาติกาบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้กับ น.ส.วาสนา ที่ถูกยิงเสียชีวิต และเชิญดวงวิญญาณกลับภูมิลำเนา โดยมีนายสุพรม บุระคร อายุ 68 ปี บิดาน.ส.วาสนาผู้เสียชีวิต ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับญาติ ผู้บริหารสำนักงาน สกสค.และเพื่อนเจ้าหน้าที่ สกสค.ร่วมพิธีโดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษา ธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติการสมัครงานที่องค์การค้าของ สกสค.พบว่า คนร้าย ใช้เอกสารของนายจรัญ คูนา ซึ่งเป็นน้องชายมาสมัครงานที่องค์การค้าฯ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในกำกับของคุรุสภา ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.2537 โดยการกรอกใบสมัครงานเป็นไปตามระเบียบ ทุกขั้นตอน หลักฐานการสมัครเป็นของนายจรัญ แต่รูปถ่ายเป็นของคนร้าย ที่หน้าตาคล้ายนายจรัญ และส่วนสูงเท่ากับนายจรัญ ทางองค์การค้าฯ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแล้วไม่พบประวัติในทางเสียหายจึงรับเข้าทำงาน ต่อมาสำนักงาน สกสค.ขาดแคลนพนักงานขับรถ จึงโอนย้ายนายจำลองมาเป็นพนักงานขับรถของ สกสค.ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2555

“เมื่อตรวจสอบพบว่าใช้เอกสารเท็จสมัครงาน ผมจะสอบสวนว่าช่วงที่นายจำลองสมัครงานที่องค์การค้าฯ นั้นมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นหรือบกพร่องในการรับสมัครงานหรือไม่ แต่ผมคิดว่าคงตรวจสอบได้ยาก เพราะผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ สำนักงาน สกสค.เริ่มทำทะเบียนประวัติพนักงานเจ้าหน้าที่ใหม่ไปแล้วระยะหนึ่ง ดังนั้น เราจะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสในการตรวจสอบ ทะเบียนประวัติบุคลากรของ สกสค.และองค์การค้าฯใหม่ทั้งหมด เพื่อดูว่ายังมีใครใช้เอกสาร ปลอมมาสมัครงานอีกหรือไม่ แม้จะดูเหมือนวัวหายล้อมคอก แต่ก็ถือเป็นการแก้ไขป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้” รองปลัด ศธ. กล่าว

เลขาธิการ สกสค.กล่าวต่อว่า สำหรับความ ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น สำนักงาน สกสค.ได้มอบเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพ ช.พ.ค.จำนวน 200,000 บาท นอกจากนี้สิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับรวมเป็นเงินประมาณ 1,600,000 กว่าบาท โดยเงินจำนวนนี้เมื่อหักหนี้สินที่ผู้ตายกู้ไปประกอบ ธุรกิจค้าขายกับครอบครัวแล้ว ทางครอบครัวจะได้รับเงินช่วยเหลือจริงประมาณ 1,000,000 กว่าบาท ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ผู้เสียชีวิตด้วย เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว และเป็นคนขยันทำงาน จนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ส่วนนายสมชาย ศรจิ้น พนักงานขับรถของ สกสค.ที่ได้พาคนร้ายหลบหนีไปนั้น ทราบว่าขณะนี้อยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว จากนี้คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย หากชี้มูลความผิดว่าร่วมรู้เห็นการก่อเหตุ สำนักงาน สกสค.ก็จะดำเนินการทางวินัยต่อไป

“จะยกระดับระบบรักษาความปลอดภัย เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ เข้ามาช่วยเป็นวิทยากรฝึกอบรม รปภ. หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น จะได้รู้จักวิธีการช่วยเหลืออย่างถูกหลัก ขณะเดียวกันจะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณจุดอับสายตาด้วย” นายพิษณุกล่าว

นายสุพรม พ่อผู้ตาย กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกสาวโทรศัพท์มาหา ขอร้องให้มาจากบุรีรัมย์ เพื่อช่วยเจรจาปัญหาระหว่างลูกสาวกับคนร้าย ซึ่งตนรีบเดินทางมาด้วยความเป็นห่วง และ ก็เจรจากันกว่า 2 ชั่วโมงที่สำนักงาน สกสค. จึงทราบรายละเอียดว่าคนร้ายโกรธที่ลูกสาวขนของออกจากหอพักย้ายไปอยู่กับน้า และขอถอยความสัมพันธ์ออกจากกันคนละก้าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นตนไม่ทราบเพราะลูกสาวไม่เคยพูดกับตน ซึ่งระหว่างพูดคุยกันนั้นลูกสาวขอร้องไม่ให้คนร้ายกินเหล้า เพราะ เวลาดื่มเหล้าแล้วคุยกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งทางคนร้าย ได้รับปากว่าจะปรับปรุงตัว สำหรับการบำเพ็ญ กุศลลูกสาวนั้น ทางบ้านได้กำหนดสวด 2 คืนในวันที่ 30-31 มี.ค. ที่วัดบ้านขามน้อย ต.เย้ยปราสาท อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนฌาปนกิจในวันที่ 1 เม.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน