สาวพม่าโร่แจ้งความถูกโชเฟอร์แท็กซี่พยายามขืนใจและทำร้ายร่างกายบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร เรียกรถจากบ้านมาหาเพื่อนตอนเช้า เดชะบุญเป็นช่วงวันเบาๆ พอดี จึงรอดมาได้ แต่โชเฟอร์ หื่นไม่พอใจลงมือทำร้ายก่อนทิ้งไว้ข้างทาง เป็นจังหวะที่มีแท็กซี่อีกคันผ่านมาประสบเหตุเข้าช่วยเหลือ โดยเหยื่อสาวใช้มือถือถ่ายภาพบัตรประจำตัวคนขับไว้ได้ ตกเย็นเจ้าของบัตรฯ โผล่พบตร.ยันไม่เกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้ขับมาหลายวันแล้ว โดยอู่แท็กซี่ให้คนอื่นเช่าขับแทน โดยตร.รู้รายละเอียดผู้ต้องสงสัยแล้ว เตรียมเสนอออกหมายจับ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 เม.ย. น.ส.อ้าย (นามสมมติ) อายุ 27 ปี สัญชาติพม่า พาร่าง สะบักสะบอมมีเลือดออกที่ใบหน้า ปากและจมูก เข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ศิริพงษ์ ลาพานิชย์ ร้อยเวร สน.ห้วยขวาง ว่าถูกคนขับรถแท็กซี่พยายามขืนใจและทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนเทียมร่วมมิตร (รฟม.ตัดใหม่) แขวง ห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. แต่ให้รายละเอียด ได้เล็กน้อยก็เกิดอาการเป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลและ รีบนำตัวส่งร.พ.ตำรวจ

พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช รองผบก.อก.บก. น.1 รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง ซึ่งได้รับรายงานและเดินทางมาตรวจสอบ โดยระบุว่า จากข้อมูลเบื้องต้น น.ส.อ้ายเรียกรถแท็กซี่จากซอยอุดมเกียรติ ถ.สุทธิสารวินิจฉัย เดินทางไปหาเพื่อนย่านถนนพัฒนาการ แต่คนขับรถแท็กซี่แวะจอดที่ถนนเทียมร่วมมิตร (รฟม. ตัดใหม่) และพยายามขืนใจผู้เสียหาย แต่เนื่อง จากเหยื่อมีประจำเดือนพอดี ทำให้คนร้ายไม่ได้ ลงมือแต่ก็ไม่พอใจจึงทำร้ายร่างกาย ก่อนทิ้งเหยื่อข้างทางแล้วหลบหนีไป

จังหวะนั้นมีรถแท็กซี่พลเมืองดีอีกคันผ่านมา ประสบเหตุ จึงช่วยเหลือและพยายามขับรถไล่ตามคนร้ายที่หนีไปทางถ.พระราม 9 แต่คลาดกัน จึงขับรถพาเหยื่อมาแจ้งความกับตำรวจ ก่อนที่น.ส.อ้าย ที่ได้รับบาดเจ็บจะหมดสติไป

พ.ต.อ.อาคมกล่าวต่อว่า คดีนี้ผู้เสียหายไหวพริบดี ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพบัตรประจำตัวผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ซึ่งติดอยู่บริเวณ คอนโซลด้านหน้ารถไว้ได้ เจ้าทุกข์ระบุว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ก่อเหตุ มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวนเชิญตัวนายสถาน เรืองชัยแก้ว อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นบุคคลในบัตรผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันเกิดเหตุมาสอบนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยนายสถานปฏิเสธว่าไม่ใช่เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุแต่ยอมรับว่าบัตรดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยให้ข้อมูลว่าเช่ารถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทย 872 กรุงเทพฯ ราคาวันละ 600 บาท จากบริษัทเช่ารถแท็กซี่แห่งหนึ่ง ย่านนาคนิวาส มาขับนาน 3 ปีแล้ว แต่เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา รถเกิดเสียจึงแจ้งอู่แท็กซี่มาลากกลับไปและไม่ได้ไปขับอีกเลยเนื่องจากไม่ค่อยสบาย

จนช่วงบ่ายทางขนส่งทางบกติดต่อมาสอบ ถามถึงคดีที่เกิดขึ้น แจ้งไปว่าไม่ทราบเรื่องใดๆ ก่อนที่ตำรวจจะติดต่อมาอีกครั้งให้ไปพบที่อู่แท็กซี่ จึงเดินทางไปและยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับที่ก่อเหตุก็ไม่รู้จัก โดยช่วงเกิดเหตุนอนอยู่บ้านพักซอยนาคนิวาส 47 โดยมีญาติเป็นพยาน

ด้านพ.ต.อ.อาคม กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายสถาน เชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งทางกรมการขนส่งฯ ลงพื้นที่ตรวจเช็กข้อมูลทราบว่าผู้ที่เช่ารถต่อไม่ใช่นายสถาน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของอู่แท็กซี่เป็นหลักฐานว่าบุคคลอื่นขับรถออกไปก่อเหตุ

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายศาลอาญารัชดาฯ ออกหมายจับ ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นบุคคลเช่ารถต่อจากนายสถาน และเชื่อว่าเป็นคนร้าย โดยเบื้องต้นแจ้งในข้อหา ลักทรัพย์, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับ อาการบาดเจ็บ เนื่องจากขณะก่อเหตุคนร้าย ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย รวมทั้งลักทรัพย์สินประกอบด้วยไอแพด แท็บเล็ต นาฬิกาข้อมือ และเงินสดอีก 15,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน