ผลดีเอ็นเอชี้น่าจะเป็น ชาว “ฮังการี” ที่ถูกฆ่าหั่นท่อนยัดตู้เย็น นิติเวช จุฬาฯ แถลงผลชันสูตร ระบุ ตรงกับฐานข้อมูลของฮังการี 2 ชุด ส่วนสาเหตุการตาย เกิดจากขาดอากาศ-ถูกวางยาพิษ ขณะที่ตร.คุมตัว”ปีเตอร์” จากร.พ.ตำรวจ มาสอบสวนที่โรงพักพระโขนง โดยผบช.น.-ผบก.น.5 ร่วมเค้นด้วยตนเองนาน 3 ช.ม. สุดท้ายยอมคายความจริง ร่วมกับพวก ซ้อมเพื่อนจนตาย ก่อนหั่นศพยัดตู้แช่ ปมเคลียร์หนี้สินไม่ลงตัว
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นอาคารพาณิชย์ย่านพระโขนง จับกุมแก๊งปลอมพาสปอร์ตมีนายแอรอน โทมัส กาเบียล อายุ 33 ปี สัญชาติอเมริกัน นายเจมส์ ดักลาส เอ็กเกอร์ อายุ 66 ปี สัญชาติอเมริกัน และนายปีเตอร์ แอนดริว โคลเตอร์ อายุ 58 ปี ชาวไอร์แลนด์เหนือ หรือนายวิลเลียม ปีเตอร์ จอห์นสัน อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน โดยระหว่างจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดการปะทะกับคนร้าย ทำให้จ.ส.ต.กัญจนพงษ์ เชเดช ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และจากการตรวจค้นยังพบศพชายชาวต่างชาติ ผมสีทอง ถูกฆ่าหั่นแยกชิ้นส่วนใส่ถุงดำยัดอยู่ในตู้เย็น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยตำรวจนำชิ้นส่วนศพส่งตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดที่แผนกนิติเวช ร.พ.จุฬาฯ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่สน.พระโขนง พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน คุมตัวนายวิลเลี่ยม ปีเตอร์ จอห์นสัน อายุ 66 ปี มาจากห้องพักรักษาตัว ร.พ.ตำรวจ เพื่อนำมาสอบปากคำ โดยนายวิลเลี่ยมมีสภาพอิดโรยและสีหน้าที่เรียบเฉย
ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และพ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.พระโขนง เข้าร่วมสอบปากคำนายวิลเลี่ยมด้วยตนเอง โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สมประสงค์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากเอฟบีไอพบว่า นาย วิลเลี่ยม ปีเตอร์ จอห์นสัน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้นั้น มีชื่อจริงว่า นายเฮอร์เบิร์ต เครก ลา ฟอง สัญชาติอเมริกัน มีประวัติคดีฉ้อโกงและปลอมบัตรเครดิตติดตัวจากสหรัฐอเมริกาอยู่ด้วย
ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยภายหลัง สอบปากคำนายวิลเลี่ยม หรือชื่อจริงคือนาย เฮอร์เบิร์ตว่าขณะนี้ตนได้รับรายงานการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงจากถุงสีดำที่ใช้ในการห่อศพแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ขอเวลาเจ้าหน้าที่สอบปากคำเพิ่มเติมอีกหน่อย เนื่องจากข้อมูลที่นายเฮอร์เบิร์ตให้การนั้นยังไม่ตรงกับข้อมูลที่ตำรวจมี แต่คำให้การเป็นประโยชน์และให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้พูดคุยกับทนายความส่วนตัว ทั้งนี้อาจจะต้องสอบสวนนายเฮอร์เบิร์ตหลายครั้ง เนื่องจากมีอีกหลายประเด็นยังไม่ชัดเจน โดยขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแต่อย่างใด เชื่อว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ส่วนอาวุธปืนของ ผู้ต้องหานั้น เบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้วอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวเจ้าของ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนนายเฮอร์เบิร์ต ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่า รู้จักกับผู้ตายมาก่อนจริง วันเกิดเหตุนัดผู้ตายมาหาเพื่อเคลียร์เรื่องหนี้สิน โดยมีตนกับเพื่อนที่ป่วยเป็นมะเร็งซึ่งเสียชีวิตไปแล้วกับพวกรวม 4 คน จากนั้นได้รุมซ้อมผู้ตายจนสลบก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปซื้อตู้เย็นมาซึ่งตอนแรกจะนำศพผู้ตายยัดใส่ทั้งตัว แต่ผู้ตายตัวใหญ่ นายเฮอร์เบิร์ตจึงเป็นคนนำเลื่อยมาหั่นศพผู้ตายเป็นชิ้นๆ ก่อนยัดใส่ตู้เย็น
วันเดียวกัน เวลา 16.40 น. ที่ห้องประชุมมงคลนาวิน ชั้น 10 ตึกสก. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผอ.ร.พ.จุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วย ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ ร่วมแถลงความคืบหน้าการชันสูตรชิ้นส่วนศพถูกฆ่ายัดตู้เย็น
ผศ.นพ.อุดมศักดิ์เปิดเผยว่า จากการชันสูตรและวิเคราะห์ชิ้นส่วนมนุษย์แช่แข็ง 11 ชิ้น เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สาเหตุและพฤติการณ์การตาย ผลการชันสูตรเบื้องต้นสามารถระบุได้ว่า ผู้ตายเป็นเพศชาย อายุประมาณ 40-50 ปี ส่วนสูงประมาณ 179.5 ซ.ม. โดยบวกลบส่วนสูงไม่เกิน 5 ซ.ม. เชื้อชาติยุโรปตะวันออกทางตอนใต้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเชื้อชาติฮังการี โดยเจ้าหน้าที่นำดีเอ็นเอศพไปเทียบกับพันธุกรรมที่มีในฐานข้อมูล พบว่าตรงกับฐานข้อมูลของฮังการี 2 ชุด จึงคาดว่าศพน่าจะเป็นเชื้อชาติฮังการี อย่างไรก็ดีเรื่องสัญชาตินั้นก็ต้องไปตรวจสอบอีกที เช่น พลเมืองประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีเชื้อชาติต่างๆ เป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทางสหรัฐอเมริกาได้นำข้อมูลส่วนนี้ไปสืบค้นว่าศพเป็นใคร โดยดูจากประวัติรักษาทางฟันเพื่อเทียบว่าเป็นผู้ใด เนื่องจากในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกามีประวัติการทำฟันค่อนข้างสมบูรณ์จนสามารถสืบค้นได้ว่าเป็นใคร
ผศ.นพ.อุดมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับเวลาตายนั้นไม่สามารถระบุได้เนื่องจากศพถูกแช่แข็งมานาน ทั้งนี้ข่าวอาจจะนำเสนอคลาดเคลื่อนว่ามีการแช่มาแล้ว 7-8 ปี ที่จริงนั้นเป็นตู้เย็นแช่แข็งที่ซื้อมาตั้งแต่ปีค.ศ.2007-2008 มากกว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุเวลาตายได้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีการแช่แข็ง ทำได้เพียงการอนุมานว่าศพอยู่ในท่าทางงอคุดคู้ทั้งงอเข่าและงอคอยัดในตู้เย็นแช่แข็ง ก่อนจะนำมาหั่นด้วยเลื่อยไฟฟ้าเป็น 11 ท่อน อย่างไรก็ดีแต่ละท่อนสามารถเชื่อมโยงกันได้
“สาเหตุการตายเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการขาดอากาศ และหรือการใช้ยาหรือสารพิษร่วมด้วย เนื่องจากว่าสภาพศพไม่พบบาดแผลภายนอก ไม่นับการเอาเลื่อยหั่นศพ ส่วนภายในก็ไม่พบบาดแผลใดมีแต่อวัยวะที่เน่าลงไป แต่ก็เป็นการเน่าแบบแช่แข็ง เจ้าหน้าที่พบหลอดเลือดหัวใจตีบตันน่าจะเป็นโรคประจำตัวของผู้ตาย แต่ไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอผลตรวจจากทางนิติพิษวิทยาอีกครั้งว่าการเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด โดยจะตรวจสอบเนื้อเยื่อ เส้นผม อาทิตย์หน้าน่าจะได้รับคำตอบว่าหากมีสารพิษนั้นเป็นสารพิษแบบใด ส่วนปริมาณสารพิษนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะต้องไปตรวจสอบเลือดซึ่งถูกแช่แข็งทำให้หาปริมาณไม่ได้ ส่วนสาเหตุที่ต้องลงมือก่อเหตุนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนต่อไป” ผศ.นพ.อุดมศักดิ์กล่าว
