ชาวพิษณุโลก เร่งทำความสะอาดศาลาวัด รับ "บิ๊กตู่" เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำหลากท่วม 4 อำเภอพิษณุโลก เริ่มคลี่คลายเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ เหลือน้ำหลากท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ทางการเกษตร ขณะที่ชาวบ้านอ. วังทอง เตรียมสถานที่รับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาตรวจสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดพิษณุโลก ในวันพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดดงพลวงวนาราม บ้านดงพลวง หมู่ 7 ตำบลวังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นายเสน่ห์ จิตรจรัส กำนันตำบลวังพิกุล ได้นำชาวบ้านเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับประชาชน 2,300 คน ที่จะเดินทางมาต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะ ที่จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและนำถุงยังชีพ มาแจกให้กับประชาชนผู้เดือดร้อน ในวันที่ 4 ก.ย.นี้

นายเสน่ห์ จิตรจรัส กำนันตำบลวังพิกุล กล่าวว่า พื้นที่ตำบลวังพิกุลเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมีจำนวน 15 หมู่บ้าน ขณะนี้ถูกน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน จำนวน10 หมู่บ้าน และกำลังขยายเป็นวงกว้างท่วมขังตามทุ่งนา คาดว่าจะท่วมทั้งตำบลวันนี้ สิ่งที่ได้รับผลกระทบมาก คือ นาข้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าวอายุเพียง 2 เดือนเศษ และบางส่วนเริ่มเหลืองใกล้เก็บเกี่ยวได้หลังจากถูกน้ำท่วมจึงได้รับความเสียหาย

ด้านนายอำนวย อยู่รอด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลวังพิกุล กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมจะเป็นกำลังใจให้กับชาวบ้านได้อย่างมาก โดยตำบลวังพิกุลเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา สิ่งที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมวลน้ำจากแม่น้ำวังทองมีระดับสูงเวลาน้ำมากจะมาเร็วกว่าปกติทำให้พื้นที่ได้รับผลกระทบ

โดยเฉพาะถนนสองฝั่งแม่น้ำวังทองถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่นา โดยเฉพาะพนังกั้นน้ำหลายจุดไม่แข็งแรง เมื่อน้ำมากจึงพังเสียหายชาวบ้านต้องระดมช่วยกันกั้นคันคลองทุกปี จึงอยากฝากขอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือทำพนังกั้นน้ำให้แข็งแรงป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ในส่วนพื้นที่หมู่ 9 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ทางนายสุเทพ แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลดินทองได้นำชาวบ้านจำนวนหนึ่ง พร้อมรถแม็คโฮ ช่วยกัน ทำพนังกั้นน้ำบริเวณถูกน้ำกัดเซาะริมแม่น้ำวังทอง ความยาวกว่า 4 เมตร ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ทำให้น้ำจากแม่น้ำวังทอง ได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาหลายพันไร่แล้ว

จากการสรุปความเสียหายของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก พบว่ามีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวมทั้งสิ้น 4 อำเภอ 31 ตำบล 224 หมู่บ้าน 15,036ครัวเรือน 2 ผู้เสียชีวิต ผลกระทบด้านการเกษตร 171,732 ไร่ โดย อ.เนินมะปราง 7ตำบล 64 หมู่บ้าน 2,500 ครอบครัวหนึ่งผู้เสียชีวิตผลกระทบด้านการเกษตร 139,323 ไร่

อำเภอวังทอง 10 ตำบล 66 หมู่บ้าน 9,692 ครอบครัว ผลกระทบด้านการเกษตร36,098 ไร่ ,อำเภอนครไทย 7 ตำบล 61 หมู่บ้าน 972 ครอบครัวผลกระทบด้านการเกษตร 2,157 ไร่ และอำเภอชาติตระการ 7 ตำบล 41 หมู่บ้าน 1,872 ครอบครัวผลกระทบด้านการเกษตร 16,268 ไร่

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.10 น.วันที่ 3 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการรับมือพายุดีเปรสชั่น ที่พัฒนาเป็นพายุโซนร้อน”คาจิกิ”ว่า รัฐบาลมีประสบการณ์อยู่แล้วในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ ตนได้สั่งการย้ำเตือนหน่วยงาน เตรียมการแก้ปัญหาตั้งแต่วันนี้

ไม่พลาดข่าว ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาก็ได้ออกประกาศเตือน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กองทัพ กรมชลประทาน กระทรวงสาธารณสุข ให้ติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือพายุ ให้มีการแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะ รวมถึงการปรับแผนการระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะไม่เข้าโดยตรงที่ประเทศไทยก็ตาม แต่อิทธิพลจะส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 4 ก.ย.ตนและทีมงาน จะลงพื้นที่ จ.พิษณุโลกและสุโขทัย เพื่อตรวจความเสียหายและให้กำลังใจผู้ประสบภัย ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมเยียวยาผู้ที่เดือดร้อนในทุกมิติ ตรงนี้เป็นส่ิงที่เราเผชิญมาโดยตลอด อย่างที่ตนเคยกล่าวเรียนไปแล้ว ประเทศไทยจะมีปัญหาสำคัญๆคือภัยแล้ง น้ำท่วม

ซึ่งตนเป็นห่วงโดยเฉพาะที่ผลกระทบต่อเกษตรกรที่มีรายได้น้อย รวมถึงย่านธุรกิจ โรงพยาบาล สถานที่ราชการ และเส้นทางคมนาคมขั้นพื้นฐาน ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ให้จัดกำลัง เครื่องไม้เครื่องมือเร่งคลี่คลายเส้นทางให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยร่วมทำงานกับกระทรวงคมนาคม