กระบะขับย้อนศรบนมอเตอร์เวย์ ตร.จับได้ผงะ ร้องไห้ไม่หยุด กลายเป็นหนังชีวิต!
กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับการแชร์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ชุลมุนเหมือนหนังบู๊ แต่ที่จบลงด้วยความสะเทือนใจและมีน้ำตากลายเป็นหนังดราม่าชีวิตรันทด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกับ เหตุกระบะขับย้อนศรบนทางหลวงมอเตอร์เวย์ กลายเป็นเหตุระทึก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ ก็ไม่มีท่าทางขัดขืนและเอาแต่ร้องไห้
โดยเรื่องราวดังกล่าวระบุว่า “ตอนแรกคิดว่าคิวบู๊ตอนจบสุดท้ายหนังชีวิต ทางที่ต้องเลือกระหว่าง หน้าที่ตามกฎหมายกับคำว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์สุดท้ายจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง รถสายตรวจตำรวจทางหลวงมอเตอร์เวย์ได้รับแจ้ง มีรถกระบะขับย้อนศร กม.ที่89 ขาเข้ากรุงเทพ จึงรีบไปตรวจสอบในใจคิด คนขับไม่เมาเหล้าก็เมายา
คนดีๆ ไม่กล้าขับรถย้อนศรบนมอเตอร์เวย์แน่ๆงานนี้ต้องใช้กำลังเข้าจับกุมแน่นอน จนสกัดได้ที่ด่านบางพระ2 ในรถมาด้วยกัน 2 คน คนขับไม่มีทีท่าขัดขืนเห็นตำรวจเอาแต่ร้องไห้ ผมจึงได้สอบถามว่าทำไมถึงขับรถย้อนศรตั้งหลายกิโล คนขับตอบทั้งน้ำตาว่าจะไปหาญาติเเถวภูธรภาค2 จะเอาทะเบียนรถไปจำนำ เพื่อจะนำเงินมาซ่อมรถซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายแล้วจะขาย
หมดหนทางแล้วพี่เก็บของเก่าก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ผมหลงเข้าด่านขึ้นมาขับไปน้ำมันก็จะหมดขับต่อไปน้ำมันหมดผมได้เข็นกันแน่ๆ เงินก็ไม่มีติดตัวกันสักบาทหาทางออกก็ไม่เจอ เลยตัดสินใจกลับรถย้อนศรกลับทางเดิม จนมาโดนพี่จับนี่แหละ จะจับจะขังผมก็จับเถอะพี่ผมหมดหนทางแล้วจริงๆ
ผมเลยบอกว่าน้องต้องไปกับพี่ที่โรงพักก่อนนะ การกระทำของน้องทำให้โกลาหลกันไปทั่วเลย ยังไงๆพี่ต้องทำตามหน้าที่ก่อนนะ ผมจึงนำตัวทั้ง 2 คนมาที่หน่วยสอบสวน เพื่อพบร้อยเวรฯ ตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ตรวจวัดเเอลกอฮอลล์ก็ไม่พบแต่อย่างใด แต่ข้อหาขับรถย้อนศรยังไงก็ทำการเปรียบเทียบปรับ
เพราะอย่างไรแล้วอาจมีภาพที่ผู้ใช้เส้นทางนำไปโพสต์จะกลายเป็นว่า ตร.ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ กลายเป็นหอกมาทิ่มแทง ตร.ในภายหลังอีก จึงได้เรี่ยไรกันออกค่าปรับให้ และ ให้ค่าน้ำมันและค่าข้าวไปอีก
นี่คือตำรวจ หน้าที่ตามกฎหมายบีบบังคับให้ต้องจับ แต่หน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็อยู่ในหัวใจ จึงต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อุดมคติตำรวจ ที่ว่า “กรุณาปราณีต่อประชาชน” อยู่ในหัวใจของตำรวจทุกคน สิ่งที่เราทำไม่ใช่แค่หน้าที่แต่สิ่งที่เราทำเราทำด้วยหัวใจ”
