ที่แท้เป็นเจ้าอาวาส คลิปพระกอดหนุ่มพนักงานขาย ปัดไม่ได้ลวนลาม แค่เอ็นดู-เมตตา
จากรณีที่มีการแชร์คลิปวงจรปิดจับภาพ พฤติกรรมของพระสงฆ์รูปหนึ่ง โอบกอดลวนลาม ใช้มืบลูบคลำเป้ากางเกง พนักงานขายชายรายหนึ่ง ภายในร้านขายสินค้าของใช้ภายในบ้าน ในเขตตัวเมืองเพชรบูรณ์ ต่อมา พนักงานชายผู้เสียหาย ออมาเปิดเผยว่า ยังมีอีกหลายคนที่ถูกพระรูปดังกล่าว กระทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้วตามที่เสนอไปก่อนหน้า
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 27 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแร่ออกไปบนโลกโซเชียล มีผู้คนออกมาระบุว่า พระรูปดังกล่าวที่ปรากฏคามคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่ง ในพื้นที่ ต.น้ำร้อน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จากกรลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่วัดดังกล่าว พบว่า เจ้าอาวาสนั้นเดินทางไปต่างจังหวัด
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
พระลูกวัดรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ภาพในคลิปเป็นเจ้าอาวาสวัดจริง ซึ่งมีพฤติกรรมดังกล่าว เป็นมานานแล้ว เมื่อครั้งที่ตนเองยังเป็นฆารวาส ตนยังเคยถูกเจ้าอาวาสใช้มือลูบคลำที่เป้ากางเกง แต่ตนก็ไม่ได้บอกใคร กระทั่งมาบวชอยู่ในวัด ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสได้แยกตัวไปอยู่กุฏิใกล้กับเมรุ และแทบไม่ได้ทำกิจของสงฆ์ ไม่ว่าเป็นการลงอุโบสถหรือการออกบิณฑบาต
ด้านนายวิรัตน์ หมุ่ยพรม อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.น้ำร้อน อ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในช่วงเย็นและค่ำมักจะมีเด็กวัยรุ่นมาจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่กุฏิของเจ้าอาวาสเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่ามีการมั่วสุมอะไรกันบ้าง แต่ทั้งนี้ชาวบ้านแทบจะไม่มีใครศรัทธาหรือร่วมทำกิจกรรมกับเจ้าอาวาสรูปนี้เลย ที่ผ่านมาชาวบ้าน เคยรวมตัวกันไปร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว ต่อเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ เช่นมั่วสุมกับเด็กวัยรุ่น ไม่ประกอบศาสนกิจ
นำเงินที่ได้จากการทอดกฐิน ผ้าป่า ไปใช้ส่วนตัว ไม่มีการตั้งคณะกรรมการวัด และขอให้จังหวัดได้ย้ายพระรูปนี้ออกไปจากพื้นที่ โดยคณะสงฆ์ได้แจ้งว่า ได้ทำการตักเตือนแล้วหากมีพฤติกรรมดังกล่าวก็จะดำเนินการทันที แต่ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม และคณะสงฆ์ก็ไม่ดำเนินการใดๆ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว โดยได้เปิดเผยว่า ที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไปไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ภาพในคลิปที่ตนโอบกอบพนักงานขายนั้น ทำไปด้วยความเมตตา เอ็นดู ไม่มีเจตนาอื่นใด ส่วนกิจการภายในวัด ตนก็ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้ชาวบ้านบางคนที่เสียประโยชน์ไม่พอใจจึงใส่ร้ายตนเอง เมื่อข่าวออกไปตนเครียดมากถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว และถ้าชาวบ้านไม่อยากให้ตนเองอยู่ที่วัดตนก็จะไป แต่ขอทำงานใหญ่อีกสัก 1 งานเสียก่อน
