จับแล้วโจรโรคจิต ขี่ จยย.ประกบบีบนมสาว ก่อนจี้ชิงทรัพย์และพยายามข่มขืนใต้สะพานโคกหม้อ เมืองราชบุรี ผู้ต้องหาจำนนหลักฐาน ทั้งมือถือ ผู้เสียหายและภาพวงจรปิด สารภาพก่อเหตุจริง ด้านเหยื่อขอบคุณ ตร.จับคนร้ายได้โดยเร็ว ขณะที่เทศบาลลุยติดไฟส่องสว่างจุดเกิดเหตุแล้ว

จากกรณีหญิงโพสต์ข้อความเตือนภัยสาว ที่จะผ่านอุโมงค์สะพานโคกหม้อ ถนนเพชรเกษม อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังโดนชายขี่รถ จยย.มาดักจี้ชิงทรัพย์ และพยายามจะข่มขืน โชคดีเหยื่อสาวหลบหนีมาได้ จึงได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองราชบุรี และโพสต์เตือนคนอื่น เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ยังมีผู้เสียหายอีกรายเข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ต.ค. พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.กิตติภพ ชมพูนุช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบัติ โพธิ์งาม รอง ผกก.ป และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ควบคุมตัวนายสุนันท์ โตแทน อายุ 38 ปี เลขที่ 53 ม.2 อ.เมือง จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี จ.358/1/2559 วันที่ 29 ก.ย.2559 ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด

โดยจับกุมได้พร้อมของกลางเสื้อยืดสีส้มแขนสั้น หมวกแก๊ป ซึ่งเป็นชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ พร้อมทั้งรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีดำคาดลายทอง ที่ใช้เป็นยานพาหนะในวันก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง พร้อมซิมโทรศัพท์ และเมมโมรี่การ์ดโทรศัพท์ 2 อัน ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย 2 เครื่อง

ทั้งนี้ ตร.ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดหลายจุด พบว่าคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์รอบเมือง เพื่อหาเหยื่อสาวที่มาตามลำพังกลางดึก และขับขี่รถคนเดียว ต่อมาได้สเกตช์ภาพลักษณะของคนร้ายพร้อมทั้งออกหมายจับ เมื่อพบผู้ต้องสงสัยจึงได้นำภาพถ่ายให้กับผู้เสียหายทั้งสองได้ดู และผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นคนร้ายตัวจริง จึงได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดี

ขณะที่นายสุนันท์ผู้ต้องหาจำนนต่อหลักฐานและภาพวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ทุกขั้นตอน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพในวันที่ 3 ต.ค.

นายสุนันท์รับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างทำงานก่อสร้าง ช่วงกลางดึกจะขี่รถจยย.ออกตระเวนไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นเหยื่อขี่รถมาคนเดียวก็จะเข้าประกบจับนม แล้วขี่หนีไป แต่บริเวณไหนที่เปลี่ยวปลอดคนก็จะลวนลาม จากนั้นก็จะนำทรัพย์สินของผู้เสียหายมาด้วย ทำอย่างนี้เป็นประจำและทำมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยติดคุกอยู่ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ในคดีชิงทรัพย์และอนาจาร เพิ่งจะออกจากคุกมาได้ 3 เดือน และกลับมาอยู่กับญาติที่ จ.ราชบุรี จนกระทั่งถูกจับกุม

พ.ต.ต.วินัย ลายละเอียด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายังปฏิเสธเรื่องก่อเหตุข่มขืน รับสารภาพแค่เรื่องลวนลาม โดยอ้างว่าครั้งล่าสุดที่ก่อเหตุใต้สะพานได้ชิงทรัพย์และจับผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าจะข่มขืน แต่ผู้เสียหายร้องขอ เลยบอกว่าถ้าให้ข่มขืนจะคืนทรัพย์สินให้ทั้งหมด แต่ผู้เสียหายบอกให้ไปเอาทรัพย์สินมาก่อนแล้วฉวยโอกาสหลบหนี คนร้ายจึงขับขี่รถจยย.หนีออกจากที่เกิดเหตุ

ด้านผู้เสียหายทั้งสองรายได้เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ ต้องขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานกันจนเต็มที่ และขอบคุณพลังโซเชี่ยลที่ให้กำลังใจ ซึ่งตอนนี้พวกตนเองก็สบายใจสามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติไม่ต้องมาหวาดระแวง แต่ก็จะไม่ประมาทเวลาเดินทางในพื้นที่เปลี่ยวและมืด

สำหรับคดีนี้เผยแพร่ออกไปตามสื่อต่างๆ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่ปลอดภัยทางสังคมและการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้หลายหน่วยงาน อาทิ ตำรวจ ทหาร เทศบาลตำบลหลักเมือง เจ้าหน้าที่แขวงการทาง และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ประชุมแก้ไขปัญหา และเข้าปรับปรุงพื้นที่บริเวณอุโมงค์ใต้สะพานโคกหม้อที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ โดยติดไฟส่องสว่างเพิ่มเติม ติดกระจกมองทาง และปรับพื้นที่ให้โล่งเตียน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน