พระราม 4 น้ำท่วมขังช่องจราจร จนท.เร่งระบายน้ำ กรมอุตุฯเผยฝนยังหนัก 4-8 ต.ค.ภาคกลาง ตะวันออก ใต้ตอนบน ยังตกต่อเนื่อง ขณะที่อ่างทองกองทัพกิ้งกือหนีน้ำท่วม โผล่เข้าบ้านประชาชน ส่วนสุพรรณบุรียังหนัก ชาวบ้านต้องหนีน้ำนอนบนถนน ส่วนที่ชัยภูมิสลด สังเวยน้ำป่าศพที่ 5 ในรอบสัปดาห์ ขณะที่แม่น้ำสะป๊วด จ.ลำพูน หลากท่วมกลางดึก ชาวบ้านขนของหนีจ้าละหวั่น ส่วนพิจิตรยังอ่วม น้ำทะลักท่วมโรงเรียน นาข้าวเสียหายกว่า 2 พันไร่

เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 2 ต.ค. นายโยธิน ประสงค์ความดี นายอำเภอแม่ทา จ.ลำพูน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านแม่สะป๊วด หมู่ 2 ต.ทาสบเส้าว่า ได้เกิดเหตุน้ำแม่สะป๊วดไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเสียหาย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบน้ำกำลังหลากเข้าท่วมหมู่บ้านมีสัตว์เลี้ยงและข้าวของเครื่องใช้ไหลไปตามความแรงของน้ำ เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้และสัตว์เลี้ยงไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย

ส่วนกลางดึกวันเดียวกันที่ จ.แพร่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยผาคำและอ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น ล้นสันอ่างไหลเข้าท่วมในหมู่บ้าน 3 หมู่บ้าน คือหมู่ 4 หมู่ 11 และ หมู่ 8 ทำให้ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น

ขณะที่ จ.พิจิตร จากสถานการณ์ฝนตกติดต่อกันในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้จังหวัดพิจิตร 10 อำเภอ 26 ตำบล 141 หมู่บ้าน ต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม นายเกรียงไกร ตั้งวิถีชีวิต นายกเทศบาลวังบงค์ ต.สำนักขุนเณร อ.ดงเจริญ กล่าวว่าขณะนี้ในเขตเทศบาลวังบงค์ ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากมาจาก ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำในลำคลองบุษบง คลองห้วยหลัว ล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชน 5 หมู่บ้าน คือหมู่ 1, 4, 6, 7, 9 จำนวน 150 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังไหลเข้าท่วมวัดสำนักขุนเณร โรงเรียน และนาข้าวของเกษตรกรชาวนาที่กำลังออกรวงข้าวเกือบ 2 พันไร่

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจหมู่บ้านลำเชิงไกร หมู่ 9 ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่ถูกน้ำจากห้วยลำเชียงไกร เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านมานานกว่า 5 วันแล้ว พบว่ามีร้านขายของชำจมอยู่ระดับน้ำลึกกว่า 80 ซ.ม. ส่วนในพื้นที่ อ.พิมาย น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหลัง โดยเฉพาะบ้านวังกุ่ม หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย ได้รับความเดือดร้อนหลายหลังคาเรือน นายมา ต่อมิตร อายุ 70 ปี ชาวบ้านวังกุ่ม หมู่ 14 กล่าวว่า น้ำได้เอ่อขึ้นมาจากลำน้ำมูลรวดเร็วมาก และไหลเข้าท่วมบ้านของตนเองภายในระยะเวลาเพียงแค่ 30 นาที ก่อนที่จะไหลเข้าท่วมกระชังปลานิลที่เลี้ยงไว้กว่า 100,000 ตัว ปลาหลุดไปทั้งหมด นอกจากนี้ยังท่วมไร่นาสวนผสม ได้รับความเสียหายทั้งหมดอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ต้องใช้เรือในการเข้าออกบ้าน ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ทางด้าน จ.ชัยภูมิ นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผวจ.ชัยภูมิ มอบหมายให้นายธนพล จันทรนิมิ ปลัดจังหวัดชัยภูมิ และนายสุวิทย์ ถนอมสัตย์ นายอำเภอเนินสง่า นายครรชิต คงสมของ ปภ.จังหวัดชัยภูมิ ผู้แทนเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ นายกอบต.กะฮาด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพร้อมทั้งนำถุงยังชีพและยาสามัญประจำบ้านมอบให้แก่ราษฎรที่เดือดร้อนจากภัยลำน้ำชีเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมไร่นากว่า 10,000 ไร่ และบ้านเรือนประชาชนอีก 3 หมู่บ้าน คือบ้านท่าหว้า หมู่ 8 บ้านท่าพุทรา หมู่ 2 และบ้านไร่ลำชี หมู่ 3 ต.กะฮาด อ.เนินสง่า ล่าสุดที่บึงละหาน อ.จัตุรัส และเขตพื้นที่น้ำท่วมขังใน 6 อำเภอ ระดับน้ำยังคงทรงตัว

ขณะที่ลำน้ำชียังดุเพิ่มคร่าชีวิตเป็นรายที่ 5 แล้วใน 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ล่าสุดอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยภูมิ จุดสภ.คอน สวรรค์ ได้รับแจ้งจาก สภ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ว่ามีเหตุผู้จมน้ำเสียชีวิตและมีผู้พบศพติดอยู่ใต้ต้นผักตบชวา จึงรุดไปตรวจสอบบริเวณลำห้วยสาขาของลำน้ำชีพบว่ามีน้ำไหลหลากแรงมาก จึงได้ประสานรถแบ๊กโฮ เพื่อมาขุดลอกเอาผักตบชวาออกและนำศพ ผู้เสียชีวิตขึ้นมาชันสูตร คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน ทราบชื่อต่อมาคือนายบุญเยี่ยม เจียมชัยภูมิ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 13 ต.คอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งรวมภายใน 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ช่วงขณะที่มีน้ำหลากในลำน้ำชีมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุถูกน้ำหลากพัดและจมน้ำเสียชีวิตแล้วจำนวน 5 ราย ก่อนหน้านี้เพียงช่วงกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนจมน้ำเสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย ในเขตอ.เมืองชัยภูมิ 1 ราย ในเขต อ.จัตุรัส 3 ราย และรายล่าสุดลุงวัย 61 ปี รายนี้ที่ เขต อ.คอนสวรรค์เพิ่มอีก 1 ราย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.อ่างทอง ขณะนี้ประชาชนในหลายพื้นที่ยังคงได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะชาวบ้านใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ที่น้ำท่วมมาแล้วกว่า 1 อาทิตย์ ยังต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม บางจุดในตำบลโผงเผงโดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 4 ต.โผงเผง น้ำยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นไหลเข้าท่วมถนน บ้านเรือนเกือบเต็มพื้นที่การสัญจรเริ่มตัดขาด ที่สำคัญกิ้งกือที่หนีน้ำขึ้นที่สูงกำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน นอกจากนั้นการสัญจร, การออกไปหาอาหารค่อนข้างลำบาก โดยขณะนี้พื้นที่จังหวัดอ่างทองมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม จำนวน 3 อำเภอ 11 ตำบล 36 หมู่บ้าน 905 หลังคาเรือน

ส่วนที่บ้านเลนสระกระจับ หมู่ที่ 9 ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านเคลื่อนศพลุยน้ำขึ้นเมรุวัดบ้านเลนสระกระจับ เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ ด้วยความยากลำบาก

ที่ จ.สุพรรณฯ ชุมชนวัดมเหยงค์ ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ขณะนี้สถานการณ์แม่น้ำท่าจีนยังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ โดยปริมาณน้ำเริ่มทรงตัว ลดลง 5-10 ซ.ม. แต่บางจุดยังท่วมสูง บริเวณหมู่ 1 โดยมีชาวบ้านบางครอบครัว ที่บ้านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน และอยู่ท้ายซอยชุมชนวัดเมหยงค์ได้รับผลกระทบ ต้องมาอาศัยนอนที่ศาลาพักร้อนริมถนนบริเวณหมู่ 1 ต.ท่าระหัด มีประมาณ 2-3 ครอบครัว

ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกันเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อ.เมือง จ.ตราด และมีพายุรุนแรงส่งผลให้สวนยางพาราของเกษตรกรในพื้นที่ต.ท่ากุ่ม อ.เมือง จ.ตราด กว่า 500 ต้นล้มได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันสายไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายรวมทั้งเกิดไฟฟ้าดับด้วย

ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เกิดฝนตกหนักติดต่อกันกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้ถนนหลายสายเกิดน้ำท่วมขังรถไม่สามารถสัญจรได้ โดยเฉพาะในตัวเมืองภูเก็ต บริเวณถนนเทพกระษัตรีบริเวณห้างสรรพสินค้าซุปเปอร์ชีพ มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 50-70 ซ.ม.ทำให้การจราจรติดขัดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทั้งนี้ได้มีรถยนต์ที่จอดไว้บริเวณทางออกของห้างสรรพสินค้าถูกน้ำท่วมเกือบครึ่งคัน ขณะที่รถจยย.ที่พยายามขับฝ่าน้ำท่วมถูกน้ำซัดดับไปหลายคันด้วย

ใกล้กันอีก 1 จุดที่บริเวณซอยลักกงษี- สามกอง ด้านหลังห้างซุปเปอร์ชีพ พบว่าระดับน้ำท่วมสูง 30 -50 ซ.ม. ทำให้รถสัญจรไปมาด้วยความลำบาก ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าต้องเก็บข้าวของหน้าร้านป้องกันการเสียหาย ต่อเนื่องไปที่บริเวณหน้าศาลเจ้าสามกอง ถนนสามกอง-กะทู้ มีน้ำท่วมผิวจราจรและท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าขายอาหารเจหน้าศาลเจ้า ส่วนที่ถนนพระภูเก็ตแก้ว ทางไปอ.กะทู้ น้ำจากภูเขาและชุมชนไหลลงท่วมผิวจราจรสูงประมาณ 50 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ต้องให้รถที่จะเดินทางไปอ.กะทู้และหาดป่าตองไปใช้เส้นทางแยกห้างเซ็นทรัล-เก็ตโฮ่แทน

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีรายงานสภาพการจราจรบริเวณต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานครพบว่า บริเวณถนนอโศกมนตรีถึงแยกอโศกมนตรีมีการจราจรติดขัดเพียงเล็กน้อยช่วงระหว่างที่ฝนตกเวลาประมาณ 13.30 น. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้สามารถแก้ไขปัญหาบริเวณดังกล่าวได้แล้ว บริเวณห้าแยก ณ ระนอง และแยกเกษมราษฎร์ พระราม 4 ทั้งขาเข้าและขาออกมีน้ำท่วมขังช่องทางจราจร 1 ช่องทาง ความสูงเสมอฟุตปาธ ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ค่อนข้างช้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งประสานกรุงเทพมหานครช่วยเร่งระบายน้ำออกบริเวณดังกล่าว โดยภาพรวมการจราจรทั่วกรุงเทพมหานครยังคงคล่องตัว เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์จึงมีการจราจรค่อนข้างน้อย ทำให้การจราจรยังสามารถเคลื่อนได้ดี

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศในช่วงวันที่ 2- 3 ต.ค. ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนโดยทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 ต.ค. ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ส่วนในบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงฝนตกต่อเนื่อง

ทะลักท่วม - จนท.รุดให้ความช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ และสัตว์เลี้ยง หลังน้ำป่าจากลำห้วยไหลหลากเข้าท่วมกลางดึก เนื่องจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ที่บ้านแม่สะป๊วด ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

ทะลักท่วม – จนท.รุดให้ความช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ และสัตว์เลี้ยง หลังน้ำป่าจากลำห้วยไหลหลากเข้าท่วมกลางดึก เนื่องจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ที่บ้านแม่สะป๊วด ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

ลุยน้ำกรุง - ชาวกรุงเทพฯ ต้องลุยน้ำขึ้นรถเมล์บริเวณห้าแยก ณ ระนอง เขตคลองเตย หลังฝนตกกระหน่ำทั่วกรุง จนเกิดน้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย ทำให้การจราจรแทบเป็นอัมพาต เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

ลุยน้ำกรุง – ชาวกรุงเทพฯ ต้องลุยน้ำขึ้นรถเมล์บริเวณห้าแยก ณ ระนอง เขตคลองเตย หลังฝนตกกระหน่ำทั่วกรุง จนเกิดน้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย ทำให้การจราจรแทบเป็นอัมพาต เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน