“ซินแสโชกุน” โดนอีกข้อหา “อั้งยี่ ซ่องโจร” กองปราบฯแจ้งข้อหาเพิ่ม ปปง.ลุยยึดทรัพย์แล้วกว่า 10 ล้านบาท ทั้งเงินสด คอนโดฯ และรถยนต์หรู ขณะที่ศาลออกหมายจับแล้วบุคคลใกล้ชิดโชกุน 8 คนที่ถูกคุมขังอยู่ มทบ.11 ทหารเตรียมส่งตัวให้พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ด้านดาราช่อง7 “อุ๊ น.ส.มิณทร์ลดา” อดีตนางเอกละครยอพระกลิ่น พร้อม ติ๊ก ฉัตรบำเพ็ญ” โร่แจงตำรวจ หลังมีรูปนั่งเครื่องบินเจ็ตคู่โชกุน

จากกรณี “ซินแสโชกุน” หรือ น.ส. พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ กรรมการบริหารบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนภายหลังอ้างจัดทัวร์ญี่ปุ่นแบบ ขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำแล้วกลับลอยแพ ผู้เสียหายนับพันคนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้ถูกคุมขัง ไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขอออกหมายจับผู้ต้องหากลุ่ม ผู้ต้องหาที่ยังเหลืออีกตามที่เสนอข่าวไป แล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ. พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท. พร้อมด้วยตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และเจ้าหน้าที่จากกรมบังคับคดี ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีของน.ส. พสิษฐ์

พล.ต.ท.ฐิติราชเปิดเผยว่า วันนี้มาร่วมตรวจสอบเพื่อพิจารณาความคืบหน้าของคดี รวมทั้งเรื่องติดตามทรัพย์สิน แนวทางเยียวยาผู้เสียหาย และการออกหมายจับบุคคลเกี่ยว ข้องที่เหลือ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความแล้วกว่า 300 ราย ขั้นตอนที่เหลือ อยู่ระหว่างตรวจสอบการโอนย้ายทรัพย์สินไปให้บุคคลอื่น ซึ่งพบว่าถูกโอนย้ายไปบางส่วนแล้ว หากบุคคลใดที่รับโอนทรัพย์สินจากผู้ต้องหาไปแล้วก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วยในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาขอศาลการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือญาติ แม่ข่าย และบุคคลใกล้ชิดกับน.ส.พสิษฐ์ แต่ยังไม่ เปิดเผยจำนวนและอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ขอออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือในคดีร่วมกันฉ้อโกงและอั้งยี่ซ่องโจรทั้ง 8 ราย ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ มทบ.11 ประกอบด้วย น.ส.ทัศย์ดาว สมัคร กสิกรรณ์ อายุ 35 ปี แฟนสาวของซินแส โชกุน นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 55 ปี นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี นางประนอม พลา นุสนธิ์ อายุ 40 ปี นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 25 ปี และนายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวนในวันที่ 18 เม.ย.นี้

นอกจากนั้น ก่อนการประชุมวันนี้ นายฉัตรมงคล บำเพ็ญ หรือ ติ๊ก ดารานักแสดง และผู้เสียหายอีกกว่า 30 คน เดินทางเข้า ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน พร้อมนำ หลักฐานซึ่งประกอบไปด้วยรายชื่อแม่ข่าย กว่า 10 คน และสมาชิกบางส่วนที่รู้เห็นเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงของน.ส.พสิษฐ์ มอบให้เป็นหลักฐานด้วย

นายฉัตรมงคลกล่าวว่ามีคนแนะนำว่าบริษัทของซินแสโชกุนจัดทัวร์ไปประเทศญี่ปุ่นในราคาถูก ตนจึงซื้อทัวร์ในราคา 9,730 บาท แต่เมื่อถึงวันนัดวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา พวกตนกลับถูกลอยแพ จึงเข้าร้องเรียนต่อสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ฯ ยืนยันว่าตนไม่ได้ชักชวนบุคคลอื่นต่อ ไม่ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจกับซินแสโชกุน เพียงแค่สนใจไปร่วมทัวร์เนื่องจากเห็นว่าราคาถูกเท่านั้น ไม่ได้รู้จักกับซินแสโชกุนเป็นการส่วนตัว ส่วนที่เขาใช้รูปผมหรือมีชื่อผมโยงกับซินแสโชกุนนั้นเมื่อเราไปเที่ยวหรือจะมีรูปกับใครเป็นเรื่องปกติของดาราที่ต้องโดนถ่ายรูป ผมก็ชี้แจงว่าไม่ได้รู้จักส่วนตัวหรือเกี่ยวข้องอะไรกับเขา

ต่อมา พล.ต.ต.สุทิน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาศาลออกหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และอั้งยี่ ซ่องโจร กับญาติและบุคคลใกล้ชิดซินแสโชกุน 8 คน ซึ่งทั้งหมดยังถูกควบคุมตัวที่ มทบ.11 พร้อมกันนี้ก็แจ้งข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร เพิ่มเติมกับซินแสโชกุนด้วย อย่างไรก็ตามจากหลักฐานขณะนี้ยังไม่พบความผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงแต่อย่างใด สำหรับนายฉัตรมงคลที่เข้ามาให้ข้อมูลขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เนื่องจากพบหลักฐานว่านายฉัตรมงคลปรากฏรายชื่อเป็น 1 ใน 7 คน ที่นั่งเครื่องบินเช่า เหมาลำไปยังที่ต่างๆ กับซินแสโชกุนด้วย ส่วนเรื่องการอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา ขณะนี้ทราบว่า ปปง.ได้ยึดทรัพย์สินของซินแสโชกุน ประกอบด้วย เงินฝากในธนาคารกว่า 3 ล้านบาท ห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งและรถยนต์หรูอีก 6 คัน มูลค่ารวมประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินหลายรายการมีชื่อซินแสโชกุนเป็นผู้ครอบครอง บางส่วนเป็นชื่อของบุคคลอื่นๆ ก็ต้องการตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกล่าวว่า ขอแนะนำผู้เสียหายให้เข้าร้องทุกข์ 2 ส่วน คือ 1.แจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม 2.แสดงสิทธิกับปปง.เพื่อให้ครอบคลุมทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งเพื่อแสดงสิทธิของ ผู้เสียหายในการรับเงินเยียวยาด้วย

ต่อมาเวลา 17.00 น. น.ส.มิณทร์ลดา เจริญทวีรัตน์ หรือ อุ๊ พิธีกรชื่อดัง อดีตนางเอกละคร ยอพระกลิ่น และรองมีสทีนไทยแลนด์ 2010 เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและ ให้ปากคำ หลังมีรูปถ่ายคู่กับซินแสโชกุน เมื่อครั้งเดินทางไปท่องเที่ยวที่หัวหิน

โดยน.ส.มิณทร์ลดา กล่าวว่า ตนรู้จักซินแสโชกุนผ่านการว่าจ้างให้เป็นพิธีกรในงานกิจกรรมล่องเรือสำราญของบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ จำกัด ซึ่งมี น.ส.พสิษฐ์ เป็นเจ้าของบริษัท เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นงานสังสรรค์พบปะระหว่างแม่ทีมและลูกข่าย มีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน จากนั้นเมื่อ วันที่ 30 มี.ค.น.ส.พสิษฐ์ ได้ชักชวนตนและดารานักแสดงอีก 3 คน คือนายฉัตรมงคล บำเพ็ญ และดารานักแสดงสาวอีกท่านหนึ่ง ร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวที่หัวหินด้วยเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน แต่ตนไม่เคยร่วมธุรกิจหรือถ่ายรูปโปรโมตผลิตภัณฑ์ หรือชักชวนผู้อื่นร่วมลงทุน และไม่ได้ตกเป็น ผู้เสียหายในกรณีนี้แต่เดินทางเข้าให้ปากคำ ในฐานะพยานและแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ด้านพ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จะสอบปากคำดาราสาวไว้เป็นหลักฐานในฐานะพยาน โดยประเด็นในการสอบปากคำนั้นเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ว่ารู้จักผู้ต้องหาได้อย่างไร และเหตุใดถึงมีภาพไปปรากฏร่วมทริปได้เช่นใด ทั้งนี้ยืนยันว่าการเข้าให้ปากคำของดาราสาวนั้นอยู่ในฐานะพยานเพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุดเพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน