กัสจังโต้ไม่ใช่ แม่ข่ายโชกุน รุดพบกองปราบ ไม่เกี่ยวแชร์ทัวร์ ทนายเผยโชกุนขอทำใจในคุก

ดาราสาว “กัสจัง” โร่กองปราบฯ ควงแฟนหนุ่มนายแบบชี้แจงตำรวจยันไม่เกี่ยวขบวนการแชร์ทัวร์ซินแสโชกุน โต้ไม่ได้เป็นแม่ข่าย ชักชวนคนไปร่วม อีกทั้งไม่รู้จักผู้ต้องหาและไม่เคยเห็นหน้า รับมีกลุ่มเพื่อนที่เคยไปเที่ยวด้วยกันตกเป็นเหยื่อกว่า 30 คน สูญเงินร่วม 3 แสน พร้อมโชว์บัญชีที่โอนเงินเข้าเป็นบุคคลอื่น ไม่ใช่ของตน ด้านพนักงานสอบสวนคุมตัวแม่พร้อมพวกรวม 8 คนขออำนาจศาลฝากขังและคัดค้านประกันตัว ทนายเผยซินแสโชกุนขอทำใจในคุก ยังไม่ขอยื่นประกันตัว ชาวหาด ใหญ่กว่า 30 คนรุดให้การตำรวจเพิ่มเติม เผยเหยื่อที่ถูกตุ๋นส่วนใหญ่เป็นพยาบาล

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 เม.ย. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. พ.ต.อ. อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้นำนางมณฑญาณ์ นิรันดร อายุ 55 ปี มารดาของน.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน, นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี, น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี แฟนสาวของซินแสโชกุน, นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี เลขานุการส่วนตัวของซินแสโชกุน, นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี, นางพารินธญ์ หงษ์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี, น.ส.สุดารัตน์ เอนกนวล อายุ 25 ปี และนายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน อั้งยี่ซ่องโจร ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมขอคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลได้อนุญาตตามคำร้อง

พล.ต.ต.สุทินกล่าวว่า วันนี้นำผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ที่ร่วมขบวนการซินแสโชกุน ไปขออำนาจศาลฝากขังเป็นผัดแรก พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายสูง และมีผู้เสียหายจำนวนมาก เกรงว่าหากได้รับการประกันตัว กลุ่มผู้ต้องหาจะหลบหนี นอกจากนี้ยังได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับซินแสโชกุนและพวกอีก 8 ราย ตามความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันกู้ยืมเงินด้วย

พล.ต.ต.สุทินกล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับนักธุรกิจชาวฮ่องกงตามซินแสโชกุนอ้าง ซึ่งไม่ทราบว่านักธุรกิจรายนี้มีตัวตนหรือไม่ หรือเป็นเพียงการกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ทำ ให้ตอนนี้ซินแสโชกุนเป็นหัวหน้าขบวนการดังกล่าวที่ใหญ่ที่สุด โดยวันที่ 21 เม.ย. เวลา 10.00 น. จะประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปปง.จะนำรายละเอียดเส้นทางการเงินของขบวนการนี้ เพื่อสรุปว่ามีใครเชื่อมโยงอีกบ้าง ซึ่งเชื่อว่ายังมี ผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออยู่อีก ในส่วนของ ผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ หรือว่า “แม่ข่าย” ก็กำลังพิจารณาเป็นรายบุคคลว่ามีใครบ้างที่เข้าข่ายในการกระทำความผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับน.ส.พสิษฐ์ ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ฝากขังครั้งแรกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.

นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความน.ส.พสิษฐ์ กล่าวหลังเข้าพบน.ส.พสิษฐ์ ที่ถูกคุมขังว่า น.ส.พสิษฐ์ บอกว่าตอนนี้ขอทำใจอยู่เรือนจำก่อน ยังไม่ขอยื่นประกันตัว ขอรวบรวมข้อเท็จจริงและหลักประกันในการใช้ขอปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนจะยื่นเมื่อไหร่จะต้องดูอีกครั้ง ยังไม่แน่นอน ยืนยันว่ามีความประสงค์ที่จะคืนเงินให้กับผู้เสียหายที่มีการจ่ายเงินแล้ว แต่ยังไม่ได้รับสินค้า เนื่องจากสินค้ามีการสั่งเข้ามาเพื่อให้กับสมาชิกแล้ว แต่ตนถูกจับกุมและตำรวจยึดไว้ทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้สมาชิกจำนวนมากไม่ได้รับสินค้า และมีข้อเท็จจริงบางส่วนที่แม่ทีมไปดำเนินการเองโดยพลการ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัท จะขอเวลารวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการอีกครั้ง

ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน น.ส. จีร่าร์ พิทักษ์พรตระกูล หรือ “กัสจัง” ดารานักแสดง พร้อมด้วยนายภูริวัจน์ หรือท็อป วงศ์วุฒิอิสระ แฟนหนุ่มนายแบบ และนาย พลชย กุลเบญจสิร เดินทางเข้าพบพ.ต.อ. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังเคยเข้าแจ้งความในฐานะเป็น ผู้เสียหาย กรณีถูกน.ส.พสิษฐ์ลวงจัดทัวร์ญี่ปุ่นแบบขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำด้วย

น.ส.จีร่าร์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เคยเข้ามาแจ้งความแล้ว ในกรณีของตนเรื่องเกิดจากได้ไปนั่งทานข้าวกับนายพลชย ซึ่งตนนับถือเป็นอาจารย์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และพบกับลูกศิษย์ของอาจารย์เหมือนกัน ก็คือน.ส.เอมมี่ กับนายแจ๊ค ซึ่งชักชวนว่าช่วงสงกรานต์อยากชวนไปเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน ในราคา 9,370 บาท ตอนแรกก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมราคาถึงถูก หลังจากนั้นก็ได้รับคำอธิบายว่าเป็นเป็นแผนโปรโมตด้านการตลาดของบริษัทที่ต้องการให้สมาชิกได้เดินทางไปเที่ยว และนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปถ่าย รูป แทนการโฆษณาด้วยการจ้างดารา เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทหรือขายผลิตภัณฑ์ เพราะมีธุรกิจขายอาหารเสริมอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าราคาถูกดี จึงตัดสินใจชักชวนบรรดาเพื่อนในกลุ่มที่เคยไปเที่ยวด้วยกันประมาณ 30 คน โดยให้โอนเงินไปเข้าบัญชีของนายสุทิน ไม่ได้ผ่านบัญชีของตนเลย

ตอนนั้นคนที่ชวนบอกเพียงว่า มีเวลาให้ตัดสินใจเพียง 4 ชั่วโมง เนื่องจากยังพอมีที่นั่งเหลือ จึงรีบชวนกลุ่มเพื่อนผ่านทางไลน์ ตามที่หลุดออกไปนั้น เป็นเรื่องจริง และยังมีการพาดพิงไปถึงดาราท่านอื่นๆ ด้วย เรื่องนี้ทำให้ตนรู้สึกเป็นกังวลมากกว่าเรื่องคดีความ จึงขอชี้แจงว่าในบทสนทนาในไลน์ดังกล่าว เป็นข้อ ความที่ตนได้รับมาจากคนอื่น ซึ่งด้วยความรีบที่จะชวนเพื่อนๆ ก็เลยฟอร์เวิร์ดไปตามนั้นเลย

“กัสจัง” กล่าวต่ออีกว่า หลังจากนั้นก็มีคนสอบถามเป็นการส่วนตัวด้วยว่า “กัสจังไปหรือไม่ มีใครไปบ้าง” จึงอธิบายไปในไลน์กลุ่มว่ามีดาราคนนี้ไปด้วย โดยทางทัวร์ก็ให้เราแยกไปกับกลุ่มดารา ทั้งนี้หากไปดูในบทสนทนาจริงๆ ตนเองก็บอกชัดเจนว่า ไปเที่ยวอย่างเดียว อาหารเสริมไม่ยุ่ง ธุรกิจก็ไม่ยุ่ง ซึ่งเราก็ได้บอกชัดเจนไปแล้วว่าไม่ทำธุรกิจ แต่คนที่มาชวนยังบอกว่า หากไม่เชื่อถือจะพาไปที่วังจักรพงษ์ เพื่อไปดูการทำธุรกิจของซินแสโชกุน ซึ่งได้ปฏิเสธไป ตอนนั้นก็ไม่รู้เลยว่าซินแสโชกุนเป็นใคร เพราะไม่เคยเจอหน้า หรือว่ารู้จักเป็นการส่วนตัว กระทั่งมีข่าวปรากฏ อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอโทษพี่ๆ ทุกคนที่ถูกอ้างชื่อถึง ที่ทำให้เดือดร้อน ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นสมาชิกของบริษัทดังกล่าว ทุกคนที่จ่ายเงินไปเพราะต้องการไปเที่ยวเท่านั้น

ด้านพ.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ และรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าน.ส.จีร่าห์ เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับคดีมากน้อยเพียงใด ซึ่งตัวของดาราสาวก็เข้ามาให้ข้อมูลในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลของเจ้าของบัญชีผู้รับโอนเงินที่น.ส.กัสจัง และเพื่อนๆ โอนเงินไปให้นั้น ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และพิจารณาว่าจะเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบัญชีธนาคารที่ดาราสาวและกลุ่มเพื่อนโอนเงินค่าทัวร์ไปให้นั้น ทราบว่าเป็นบัญชีของนายสุทิน ธัญญเจริญ ซึ่งเคยเข้าแจ้งความที่กองปราบฯ แล้วเช่นกัน โดยระบุยอดความเสียหายกว่า 1.9 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อน.ส.จีร่าห์ระบุว่า นายสุทินแสดงตัวเป็นผู้บริหารของบริษัทที่จะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น พร้อมระบุวันเดินทางเป็นวันที่ 12 เม.ย. กระทั่งเกิดเหตุ ฝ่ายผู้เสียหายได้ทวงถามไปยังนายสุทิน ที่ได้ตอบปฏิเสธ อ้างว่าตกเป็นผู้เสียหายด้วย พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่า นายสุทินเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดหรือไม่ เพราะทราบมาว่าน่าจะเป็นระดับแม่ข่ายขบวนการของซินแสโชกุนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วย ในวันที่ 21 เม.ย. เวลา 10.00 น. น.ส.สิรินทร์ ก่อเกียรติ หรือเมย์ ดารานักแสดง ก็เตรียมเข้าพบพนักงานสอบสวน กรณีมีภาพถ่ายรวมกลุ่มกับซินแสโชกุน ร่วมเดินทางไปเที่ยวหัวหิน และร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์บนเรือสำราญ

ที่สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 คน ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ที่ถูกชักชวนให้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นของซินแสโชกุนซึ่งได้จ่ายเงินไปหมดแล้วและกำลัง รอกำหนดการเดินทาง แต่ปรากฏว่าถูกหลอกลวงลอยแพที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 เม.ย. โดยเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ต. วิโรจน์ อินทรเพชร พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพิ่มเติมหลังจากที่ครั้งก่อนได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว เพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบสำนวนการสอบสวนดำเนินคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากแต่ละคนได้เสียเงินไปหมดแล้ว ตั้งแต่คนละหลักหมื่นจนถึงหลักแสน

ผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพเปิดเผยว่า ผู้เสียหายในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ประมาณ 60 คน ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกับตน มีทั้งกลุ่มพยาบาลวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และพนักงานทั่วไป ได้รับการติดต่อจากอดีตผู้ช่วยพยาบาลชายคนหนึ่งที่ได้ลาออกไปแล้ว ชักชวนให้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในราคาถูกแค่หนึ่งหมื่นต้นๆ กับบริษัทของซินแสโชกุน จึงหลงเชื่อ เพราะสนิทสนมเคยทำงานด้วยกันมานาน และเกือบทุกคนจะไปรวบรวมเครือญาติทั้งพ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน อีกนับสิบคนเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวกันเป็นครอบครัวใหญ่ เนื่องจากค่าเดินทางมีราคาถูก โดยโอนเงินให้อดีตผู้ช่วยพยาบาลไปแล้ว หลักหมื่นจนถึงหลักแสน แต่เมื่อกลายเป็นข่าว ไม่สามารถติดต่ออดีตผู้ช่วยพยาบาลเพื่อขอเงินคืนได้

พยาบาลวิชาชีพเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของผู้เสียหายในพื้นที่จ.สงขลา จากการสอบถามพบว่ามีประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการบำนาญ เช่น พยาบาล ครู ที่ต้องการเดินทางไปพักผ่อนหลังเกษียณอายุราชการ ไปกันเป็นครอบครัวใหญ่