เจ้าของเก๋งเปิดใจ กระบะทำรุนแรงเกินไป ดูแล้วไม่ขวาง ถ้าเข้าไม่ได้ก็ควรรอหน่อย!
จากกรณีรถปิกอัพคันหนึ่ง ขับรถพุ่งชนรถเก๋งที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้าน จนทำให้ไปกระแทกรถปิกอัพที่จอดอยู่ด้านหน้าอีกทีได้รับความเสียหายยับเยิน ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่ สภ.บางปู น.ส.ปุ๋ย คนโพสต์เรื่อวราวลงเฟซบุ๊ก ได้เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” ถึงกรณีดังกล่าว
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
น.ส.ปุ๋ย กล่าวว่า ตนอยากจะชี้แจงว่า ในวันนั้น เราไม่สามารถจอดรถ ตรงฝั่งซอย 6 ที่มันเป็นซอยคนรู้จักตนได้เลยเพราะว่า ทั้งสองฝั่งเป็นบ้านหมด แต่ในซอย 1 ซึ่งเป็นซอยที่เกิดเหตุนั้น อีกฝั่งนึงเป็นบ้าน และอีกฝั่งเป็นกำแพง ซึ่งมันสามารถจอดรถได้ ก็เลยตัดสินใจไปจอดตรงนั้น หลังจากนั้น เราเห็นแชทในกลุ่มของหมู่บ้าน บอกว่า ช่วยมาขยับรถ เราก็ยอมรับผิดว่า เราจอดรถขวางจริง พอเรากลับมา เราจะรีบไปขยับรถเลย แต่ว่ามันก็เกิดเหตุการณ์นี้ซะก่อน
อ่าน กระบะพุ่งชนคนจอดขวางบ้าน ยอมรับ โมโห ตามให้เลื่อนรถไม่เจอใคร พร้อมชดใช้
ในตอนแรกเราเข้าใจว่า เราจอดรถขวางบ้านของ นายวัลลพ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทราบมาว่าเพื่อนของเรามีปัญหากับบ้านตรงกลาง ซึ่งเป็นบ้านของ นายวัลลพ เราก็พยายามเลี่ยงที่จะไม่จอดตรงนั้น แต่ไปจอดด้านในสุดแล้ว เราไม่ได้ไปจอดรถขวางทางหน้าบ้านเขาเลย เรามองแล้วว่า รถเขาสามารถเข้าออกได้ แต่พอเรามารู้ตอนหลังว่า คนที่ส่งแชทมาในกลุ่มนั้น ไม่ใช่บ้านของนายวัลลพ ซึ่งเป็นบ้านเกิดเหตุ แต่ว่าเป็นบ้านหลังในสุด ที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ซึ่งที่เราไปจอดรถขวางหน้าบ้านเขา เรายอมรับว่า ไม่ได้ขอเจ้าของบ้านก่อน เราก็ขอโทษในส่วนนี้ด้วย
“ หลังจากที่เราเห็นคลิปแล้ว เราก็ตกใจ และมองว่ามันเกินไป เลยคิดว่าจะต้องแจ้งความ
ที่เราลง โพสต์ไปเพราะเราคิดว่าเราตกเป็นผู้เสียหาย แล้วยิ่งรู้ว่าคนก่อเหตุไม่ใช่คนในหมู่บ้าน และเข้ามาโดยที่ไม่แลกบัตร ก็ยิ่งทำให้เราต้องรีบลงโพสต์เลย เราไม่รู้ว่าเขาเข้ามาภายในหมู่บ้านได้ยังไง ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ ทางเจ้าของรถก็ทุกข์ใจ ไม่มีรถใช้ อยากจะบอกว่าปัญหาที่จอดรถในหมู่บ้านมีทุกที่ อยากให้ฝ่ายนิติบุคคลของหมู่บ้านออกมาชี้แจงให้ชัดเจน ว่าที่ตรงไหนจอดได้ ที่ตรงไหนจอดไม่ได้ เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน “ น.ส.ปุ๋ย กล่าว
นายวิชิต พิลาศรี อายุ 48 ปี เจ้าของรถเก๋งที่ถูกชน กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ ทางคนขับรถกระบะทำรุนแรงเกินไป ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ เพราะว่า ตอนที่ตนจอดรถ ตนก็ดูแล้วว่ารถมันสามารถเข้าออกได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงได้จอดไว้ แล้วเราเองก็เป็นคนนอกหมู่บ้านนี่ด้วย ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ เรามองว่า เหตุการณ์ดังกล่าว มันสามารถที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ เพราะว่าปัญหาที่จอดรถ มันก็มีอยู่ในทุกๆหมู่บ้าน เรื่องแบบนี้มันคุยกันได้ เข้าไม่ได้ก็รอก่อน
