ออกหมายจับ “เสี่ยชาติ” เสี่ย ค้าไม้เก่าซื้อบริการด.ญ.14 เหยื่อกามแก๊งไอ้ไก่ หลังตร.นำภาพถ่ายให้เด็กชี้ยืนยัน ขณะที่เจ้าตัวเผ่นแน่บไปแล้ว ทนายสงกานต์นำแม่เด็ก เข้าพบพล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. มอบหลักฐานเอาผิด “เจ๊ใหญ่” แก๊งค้ามนุษย์ ลูกพี่”เจ๊บีม” ชี้มีผู้ร่วมขบวนการอีก 3-4 คน ก่อนเดินทางไป ปปง. ขอให้ยึดทรัพย์แก๊งค้ามนุษย์ ด้านแม่เด็กกล่าวทั้งน้ำตา ทุกวันนี้ยังเสียใจ และไม่อยากมีชีวิตอยู่ ยธ.รับตัวด.ญ.14 กับแม่ เข้าโครงการคุ้มครองแล้ว
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 21 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในฐานะทนายความ นำมารดา และญาติ ของด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 14 ปี ที่ถูก รุมโทรมที่ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. และ พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. เพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติมและให้ข้อมูลเครือข่ายของนายธนพัตร แสนคำ หรือเจ๊บีม กะเทย แม่เล้ากับพวก
นายสงกานต์กล่าวว่า วันนี้นำข้อมูลของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นเจ๊ใหญ่ หัวหน้าของเจ๊บีม มาให้ตำรวจสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นระดับใหญ่กว่าเจ๊บีม แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่เชื่อว่ามีกลุ่มที่ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 3-4 ราย ซึ่งมีภาพถ่ายและข้อมูลหมดแล้ว พร้อมทั้งให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งวันนี้ตนและมารดาผู้เสียหายจะเดินทางไปที่สำนักงานปปง. เพื่อยื่นหนังสือต่อเลขาธิการ ปปง. ให้พิจารณายึดทรัพย์ขบวนการค้ามนุษย์ทั้งหมด พร้อมทั้งกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จะรับตัวแม่ผู้เสียหายไปอยู่ในความคุ้มครองพยานนับแต่วันพรุ่งนี้ 22 เม.ย. เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาการค้ามนุษย์และได้กำชับกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอด ยืนยันเดินหน้าปราบปรามเต็มที่ เพราะทำให้ประเทศเสียหาย ส่วนการตั้งกรรมการสอบพนักงานสอบสวนในพื้นที่ ได้ดำเนินไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา ต้องให้เวลาตรวจสอบภายใน 1 เดือน ตามกฎของ ก.ตร.
ด้านพล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์อย่างน้อยอีก 1 ราย จากการสอบสวนเจ๊บีม ยังให้การปฏิเสธ เบื้องต้นยังไม่พบตำรวจหรือคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ สำหรับการปราบปรามการค้ามนุษย์ตำรวจดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปแบบการค้ามนุษย์ก็ไม่แตกต่างไปจากเดิม คือมีคนซื้อและคนจัดหาให้ ซึ่งในกรณีนี้เข้าข่าย การค้ามนุษย์เนื่องจากเด็กอายุยังไม่ถึง 18 ปี แต่ถ้าอายุเกิน 18 ปี จะเข้าข่ายการค้าประเวณี เบื้องต้นยังไม่พบเหยื่อเป็นต่างด้าว
ขณะที่มารดาด.ญ.เอ กล่าวด้วยเสียง สั่นเครือ ว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูแลประชาชนด้วยความเป็นธรรม ตนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ทุกวันนี้ยังเสียใจ และไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ตายดีกว่า ส่วนเจ๊บีมตนไม่เคยพบเห็นและไม่เคยรู้จักมาก่อน และลูกสาว ก็ไม่เคยหายตัวไปแบบนี้ ตนติดต่อลูกตลอดเวลา
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นาย สงกานต์ นำครอบครัวผู้เสียหาย ร้องทุกข์ ต่อ ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบทรัพย์สินเครือข่ายค้ามนุษย์นายธนพัตร แสนคำ หรือเจ๊บีม โดยมี ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม เป็นผู้รับเรื่อง
ร.ต.อ.ไพรัตน์ กล่าวว่า กรณีนี้เด็กหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศ และเกี่ยวโยงกับการค้ามนุษย์ ปปง. ก็จะรับเรื่องไว้ตรวจสอบ โดยจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาว่าเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมาย ปปง.หรือไม่ และมีการได้ทรัพย์สินไปหรือไม่ ซึ่งถ้ามี ปปง.ก็จะยึดทรัพย์ตามกฎหมายการฟอกเงิน โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาเวลา 16.00 น. ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้อนุมัติหมายจับ นายอนุชาติ หงษ์ทอง อายุ 52 ปี ชาวตำบลหนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ตามหมายศาล เลขที่ 120/2560 กรณีมี หลักฐานสมควรว่า ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้น จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, ผู้ใดพาบุคคลอายุ ยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการกระทำอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม” หลังกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์พร้อมสหวิชาชีพ ได้ร่วมกันสอบปากคำ ด.ญ.เอ พร้อมทั้งนำรูปภาพใบหน้าและรถของนายอนุชาติ ให้ด.ญ.เอดู ก่อนที่เด็กจะชี้ยืนยันรวมทั้งมีพยานและหลักฐานว่านายอนุชาติ เป็นหนึ่งในบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบริการทางเพศด.ญ.เอ (นามสมมติ) ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ด่านช้าง จนนำมาสู่การรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ล่าสุดมีรายงานว่านายอนุชาติ ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ทั้งนี้นายอนุชาติ หงษ์ทอง หรือฉายาว่าเสี่ยชาติ มีอาชีพขายไม้เก่าในพื้นที่ ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังออกติดตามจับกุมมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
