คุมตัวอดีตคนงานฆ่าชิงทรัพย์”เจ๊สั้น”เจ้าของแผงผักตลาดไทไปทำแผน ท่ามกลางเสียงร่ำไห้และตะโกนด่าของลูกสาว พร้อมระดมกำลังตำรวจกว่า 20 นาย ป้องกันเหตุชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ เผยตร.คลองลึกรวบตัวได้ขณะลงจากรถทัวร์เตรียมเผ่นหนีกลับประเทศ ด้านผู้ต้องหาสารภาพแค้นที่ถูกดุด่าและไล่ออกจากงาน ด้านรอง ผบช.ภาค 1 ระบุกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ชัดเจนหลังจากก่อเหตุแล้วเผ่นหนี เตรียมนำตัวส่งศาลขออำนาจฝากขังวันนี้

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญคนร้ายใช้อาวุธมีดจ้วงแทงนางพรพรรณหรือหรือเจ๊สั้น แสนประสิทธิ์ อายุ 42 ปี เจ้าของแผงผักรายใหญ่ที่สุดในตลาดไท เสียชีวิตหน้าบ้าน เหตุเกิดภายในหมู่บ้านพระปิ่น 7 ซอยเทพกุญชร 12 ที่บ้านเลขที่ 72/49 เฟส 4 ซอยที่ 3 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ลูกสาวคือน.ส.ชมภัคมนธฑ์ หรือฝ้าย แสนประสิทธิ์ อายุ 23 ปี ที่มาเห็นสภาพศพมารดาถึงกับช็อกตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 23 เม.ย. พ.ต.อ. สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี รรท. ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท. นิมิตร นูโพนทอง รอง ผกก.สส. สภ. คลองหลวง พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว. สส.สภ.คลองหลวงได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองลึก จ.สระแก้วว่าได้จับกุมตัวนายที อดีตลูกจ้างชาวกัมพูชาไว้ได้แล้ว หลังจากลงรถทัวร์กรุงเทพฯ-อรัญประเทศเพื่อหนีกลับประเทศ โดยถูกจับกุมไว้ได้ ขณะลงจากรถทัวร์

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 เม.ย.ที่ห้องประชุมสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก., พ.ต.ท.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.เศรษฐกรณ์ ชัยวีระวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว พ.ต.ท.มงคล คะเชนทร สวป.,พ.ต.ท.อานนท์ ตางาม สว.สส.ฯ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ร่วมกันแถลงจับกุมนายทีหรือทัช วุที อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 256/2560 ในข้อหา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมด้วยของกลางเงินสด 6,385 บาท พระเครื่อง 6 องค์ อาวุธปืน .22 จำนวน 1 กระบอก

พล.ต.ต.ธนายุตม์เปิดเผยว่า สืบเนื่องด้วยเมื่อวันที่ 23 เม.ย. เวลาประมาณ 14.00 น. มีเหตุคนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นางพรพรรณ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 72/49 หมู่บ้านพระปิ่น 7 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี หลังทราบเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้าน สภาพศพถูกอาวุธมีดแทงที่บริเวณลำตัวและอกหลายแผล พบอาวุธมีดปลายแหลมลักษณะมีคราบเลือดติดตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณพื้นบ้านมีเลือดกระจายบนพื้นและหยดเป็นทางมาจากภายในตัวบ้าน ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบร่องรอยการงัดบ้านและรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิต

จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพค้าขายผักอยู่ที่ตลาดไท และเมื่อ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ไล่ลูกจ้างชื่อนายที สัญชาติกัมพูชา ออกจากงาน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้โกรธแค้น ชุดสืบสวนจึงได้เร่งสืบสวนติดตาม ทราบว่าหลังจากที่ผู้ตายขับรถกลับเข้ามาที่บ้านพัก ซึ่งขณะนั้นผู้ตายได้โทรศัพท์คุยกับญาติและระหว่างที่พูดคุยกับญาติอยู่นั้น ญาติได้ยินเสียงผู้ตายคล้ายถูกทำร้ายและเสียงได้เงียบไป จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆ ที่เกิดเหตุพบว่า ได้มีคนร้ายวิ่งออกจากบ้านและปีนกำแพงรั้วหมู่บ้านออกไปทางด้านหลังคลองหลวงบูทีครีสอร์ท ชุดสืบสวนได้สืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ต และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี

รองผบช.ภ.1 จากการตรวจสอบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายที ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขออาศัยรถจักรยานยนต์ผู้อื่นออกมาที่หน้าตลาดไอยรา และเรียกรถแท็กซี่ สีส้ม หลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและศาลได้อนุมัติหมายจับนายที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตามพร้อมทั้งประสานหน่วยงานข้างเคียง พื้นที่ชายแดนและตรวจคนเข้าเมือง สกัดจับกุมตามเส้นทางหลบหนีต่างๆ โดยคาดว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีไปยังภูมิลำเนาคือประเทศกัมพูชา จนสามารถติดตามจับกุมนายที ผู้ก่อเหตุได้ที่เขตอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้พร้อมของกลางดังกล่าว

พล.ต.ต.ธนายุตม์เปิดเผยอีกว่า ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือใช้อาวุธมีดของกลางที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุแทงผู้ตายจริง โดยโกรธแค้นที่ผู้ตายด่าทอและไล่ออกจากงาน ในวันเกิดเหตุ นายทีจึงได้เตรียมอาวุธมีดแล้วปีนบ้านผู้ตายเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินและผู้ตายได้กลับมาพบตนขณะรื้อค้นทรัพย์สิน จึงได้ลงมือใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้หลบหนี เพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่งถูกจับกุม

ระหว่างแถลงข่าว นายทีสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุปีนเข้าไปที่บ้านเจ๊สั้น เพื่อต้องการงัดตู้เซฟ เพราะแค้นที่ไล่ออกจากงาน แต่ระหว่างงัดอยู่นั้น ปรากฏว่าเจ้าของบ้านกลับมาบ้านพอดี เจอตนกำลังงัดเซฟ เจ๊สั้นจึงวิ่งออกจากบ้านตะโกนเรียกให้คนช่วย ตนจึงเข้าล็อกคอแล้วจ้วงแทงจนเสียชีวิต

หลังจากแถลงข่าวเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุ โดยมีประชาชนมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นายคอยควบคุมเพื่อไม่ให้เข้ามาในบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ผู้ต้องหาจุดธูปขอขมาผู้ตาย

ส่วนภายในบ้านพักนั้น น.ส.ชมภัคมนธฑ์หรือน้องฝ้ายลูกสาวผู้ตายพร้อมด้วยญาติได้ จุดธูปไหว้บอกแม่ที่เสียชีวิต เมื่อเห็นหน้า ผู้ต้องหาก็ได้ตะโกนด่าด้วยความโกรธแค้นพร้อมทั้งร้องไห้ และตะโกนถามว่าฆ่าแม่ทำไมเมื่อทำแผนเสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายทีขึ้นรถตู้กลับมาที่สภ.คลองหลวง เพราะเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์และนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน