สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชวินิจฉัยแล้ว วันที่ 26 ต.ค.นี้พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” โปรดเกล้าฯให้จัดพระราชพิธีรวมทั้งสิ้น 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.วันแรกออกพระเมรุจนถึงวันที่ 29 ต.ค.เชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระวิมานที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปประดิษฐานที่ 2 วัดสำคัญ โดยในวันที่ 26 ต.ค.คณะรัฐมนตรีประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้ประชาชน ร่วมไว้อาลัย

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง อาทิ คณะนักเรียนเก่าโรงเรียนราชินีบน รุ่นที่ 47, รุ่นที่ 51 และรุ่นที่ 59, โรงเรียนปานะพันธุ์วิทยา ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่น 12, โรงเรียนเทศบาล 1 นาเริ่งราษฎร์บำรุง, โรงเรียนศรัทธาสมุทร, บริษัท เหนือน้ำ จำกัด (ร้านอาหารบ้านเหนือน้ำ), บริษัท สุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด (ตลาดยิ่งเจริญ), บริษัท ส.บุญมีฤทธิ์วิศวกรรม จำกัด คณะที่ 1-2, ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์ วัน ช้อปปิ้ง พลาซ่า, บริษัท หลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย, บริษัท เอ็ม.เอ.เอ็น กฏหมายและบัญชี, บริษัท ไร้ซ์แลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เกียรติ ไพศาล โลจิสติก จำกัด, บริษัท อดัมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด,บริษัท คลาสิคสแกน จำกัด และครอบครัวพลเอกหลวงสุรณรงค์และ ท่านผู้หญิงจรวย สุรณรงค์ ฯลฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพเป็นวันที่ 174 ตลอดทั้งวันมีพสกนิกรเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศ อาทิ ภูเก็ต สุรินทร์ ลพบุรี กาญจนบุรี นครศรีธรรมราช เพื่อกราบสักการะพระบรมศพ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ท่ามกลางสภาพอากาศที่แดดร้อนอบอ้าว และสำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวม ประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 26,462 คน รวม 173 วัน มี 6,422,621 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,504,497.50 บาท รวม 173 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 519,069,697.26 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่จากสวนนงนุช ช่วยกันตัดแต่งกิ่งต้นมะขาม จำนวน 30 ต้น ก่อนขนย้ายต้นมะขามออกจากสนามหลวงให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ โดยนำไปอนุบาลไว้ ที่ จ.ปทุมธานี เพื่อเปิดพื้นที่ใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง ประชุมครม.ว่า ที่ประชุมครม.รับทราบกำหนดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือวันที่ 26 ต.ค. 2560

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบข้อเสนอของคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชวินิจฉัยแล้วว่ากำหนดการในพระราชพิธีมี 5 วัน ซึ่งที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบไปตามข้อเสนอโดยให้วันที่ 26 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการ ส่วนวันอื่นๆ นั้น รอให้คณะกรรมการพิจารณาเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม รอง นายกฯ เปิดเผยว่า สำหรับพระราชพิธี 5 วันนั้น ในวันแรกจะเป็นพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล หรือการออกพระเมรุ ซึ่งพิธีจะกำหนดขึ้นเวลา 17.30 น. ซึ่งจะมีพิธี 3 ช่วง ช่วงแรกคือเช้ามืด จะเป็นพิธีเชิญพระบรมโกศขึ้นพระราชยานและเข้าขบวนแห่ไปยังหน้าวัดพระเชตุพนฯ และเปลี่ยนขึ้นราชรถเชิญไปสู่ท้องสนามหลวง พิธีที่สองคือการถวายพระเพลิงในช่วงเย็น 17.30 น. ช่วงที่สามคือ 22.00 น. เป็นพิธีถวายพระเพลิงจริง ในวันที่สาม เป็นพิธีเสด็จพระราชดำเนินเก็บพระบรมอัฐิ หรือชาวบ้านเรียกพิธีสามหาบ โดยจะเชิญเข้าขบวนกลับเข้าพระบรม มหา ราชวังในเวลา 07.00 น.

รองนายกฯ กล่าวต่อว่าวันที่สี่ เป็นพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ คือการ สวดมนต์พระบรมอัฐิในเวลา 17.30 น. วันที่ห้า จะมีพิธี 2 ช่วง ช่วงเช้าจะมีพิธีเชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระวิมาน คือจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยเชิญขึ้นไปเก็บที่ห้องพระด้านบน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิพระเจ้าแผ่นดิน ทุกรัชกาล ตอนเย็นจะเชิญพระบรมราช สรีรางคาร (ถ่านเถ้าที่เหลือ) ขึ้นขบวนแห่อิสริยยศไปยัง 2 วัด คือประดิษฐานที่วัดราชบพิธฯ และวัดบวรนิเวศวิหาร ส่วนทั้งหมดจะตรงกับวันที่เท่าใดนั้นยังไม่ทราบ

นายวิษณุ กล่าวว่า ที่นำพระบรมราช สรีรางคารไปวัดที่วัดราชบพิธฯ และวัดบวรนิเวศวิหารนั้น เพราะวัดราชบพิธฯนั้นประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคารของรัชกาลที่ 5 และรัชกาล 7 ส่วนวัดบวรนิเวศฯนั้นประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 7 ทั้งหมดนี้แล้วแต่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อบรรจุพระบรมราชสรีรางคารแล้วก็จะเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 9

พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า ครม.รับทราบผลการดำเนินงาน ของคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานตามที่ได้มีหนังสือเรียนราชเลขาธิการเพื่อขอให้นำผลการประชุม ของคณะกรรมการกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทและขอพระราชทานพระราชวินิจฉัยใน 3 ประเด็น

เรื่องแรก คือ หมายกำหนดการพระราชถวายพระเพลิงพระบรมศพ เห็นสมควรกำหนดจำนวนมา 5 วัน ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค. เรื่องที่สอง การจัดทำภาพประดับซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชน เห็นสมควรเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมภาพพระบรมโกศ โดยได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตการบันทึกภาพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเรื่อง ที่สาม การจัดนิทรรศการภายหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งเห็นสมควรกำหนดเป็นเวลา 30 วัน ระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย.2560 โดยมีกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักดำเนินงาน

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.นั้น นายวิษณุ แจ้งให้ทราบว่า เรื่องการประกาศวันหยุดนั้น ครม.สามารถพิจารณาเพิ่มได้ โดยอาจจะเสนอวันหยุดเพิ่มเติมในวันที่ 25 ต.ค. เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะต้องเดินทางเข้ามาและวันที่ 27 ต.ค. จะต้องเดินทางกลับ แต่มีข้อกังวลกันว่าในเดือนต.ค.มีวันหยุดหลายวัน นายวิษณุ จึงเสนอว่ามีวิธีคือ ไม่ต้องประกาศเป็น วันหยุด ใครอยากมาก็มา ประกาศหยุด ทั้งประเทศ และประกาศให้เฉพาะต่างจังหวัดหยุด กทม.ปริมณฑลไม่หยุด เพื่อให้หน่วยงานราชการทำงานต่อ แต่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์จะประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง หากเห็นว่าสมควรจะนำเสนอครม.อนุมัติต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ลง ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดเวลาทํางานและวันหยุดราชการ (ฉบับที่ 23) พ.ศ.2560 ความว่าด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 เม.ย. เห็นชอบให้วันที่ 28 กรกฎาคม และวันที่ 13 ตุลาคม เป็นวันหยุดราชการประจําปี เนื่องจากเป็นวันสําคัญ ของชาติไทย ดังนี้ คือวันที่ 28 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และให้ยกเลิกวันหยุดราชการ วันที่ 5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ตามความในข้อ 5 ตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดเวลาทํางานและ วันหยุดราชการ(ฉบับที่ 11) พ.ศ.2500 ลง วันที่ 11 ตุลาคม 2500 จากประกาศดังกล่าวทำให้ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ มีวันหยุดทั้งหมด 3 วัน คือ วันที่ 13,23 และวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน