แท็กซี่ไทยฉาวโลก ลวงสาวบราซิล ดีกรีอดีตนางงาม จากสนามบินดอนเมืองไปข่มขืนที่ทุ่งนา ในอ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซ้ำทำร้ายเหยื่อจนน่วม ก่อนปล่อยทิ้ง เหยื่อสาวเดินกระเซอะกระเซิงจนมาเจอชาวบ้านพาแจ้งความ ตำรวจระดมล่า สุดท้ายจับได้ในพื้นที่จ.นนทบุรี รับสารภาพก่อเหตุจริง แฉประวัติมีคดีข่มขืนติดตัว 2 คดี เพิ่งออกจากคุกไม่นานก็มาก่อเหตุอีก ขนส่งเต้นลงดาบ สั่งปรับอู่แท็กซี่ แฉเอารถใกล้หมดอายุวิ่งมาขายให้คนนอกไปวิ่ง จึงไม่รู้ประวัติ คาดโทษเจออีกถึงยึดใบอนุญาต

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 23.30 น.ของคืนวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ร.ต.อ.สมเกียรติ ศรีสังวาลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานี มีชาวบ้านพาตัวหญิงสาวชาวต่างชาติ อายุประมาณ 23 ปี ที่อยู่ในสภาพอิดโรย เสื้อผ้าขาดวิ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรังขึ้นมาพบที่โรงพัก โดยแจ้งว่าถูกโชเฟอร์รถแท็กซี่ลวงมาข่มขืน ก่อนปล่อยทิ้งไว้บริเวณทุ่งนา หมู่ 8 ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

จากการสอบสวนหญิงสาวให้การว่า ตนเป็นชาวบราซิล โดยก่อนเกิดเหตุนั่งเครื่องบินมาจากเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 10.30 น. มาลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 13.30 น. จากนั้นก็เดินเข้าไปที่โรงแรมแอร์พอร์ต ก่อนเรียกแท็กซี่ สีเหลืองคาดเขียวให้มาส่งที่ซอยทองหล่อ

จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็นำกระเป๋าของตนไปไหว้หลังรถ และเรียกให้ตนมานั่งด้านหน้า หลังจากนั้นก็ขับพาไปที่ทองหล่อ ขณะนั้นยังติดต่อเพื่อนได้ คนขับแท็กซี่ก็ขับวนไปวนมา จากนั้นตนก็เริ่มสงสัยจึงนำมือถือขึ้นมาจะติดต่อเพื่อนและถ่ายรูปคนขับแท็กซี่ แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์ไม่สามารถใช้การได้ จากนั้นก็โดนยึดโทรศัพท์มีการทำร้ายร่างกายและล็อกรถ

ตนไม่รู้ว่าคนขับรถแท็กซี่ขับพาอ้อมไปทางไหนบ้าง จนสุดท้ายมาถึงบริเวณทุ่งนาซึ่งไม่ทราบว่าเป็นที่ไหน คนขับแท็กซี่จอดรถแล้วใช้กำลังบังคับปลุกปล้ำตน ตนพยายามขัดขืนจึงถูกทำร้ายด้วยการถูกทุบตีอย่างหนัก กระทั่งหมดแรงและถูกคนร้ายข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นก็ทิ้งตนไว้แล้วหลบหนีไป ตนจึงเดินกระเซอะกระเซิงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนจะพากันมาแจ้งความ

หลังรับทราบข้อมูลร.ต.อ.สมเกียรติรีบส่งตัวหญิงสาวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ร.พ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ก่อนประสานศูนย์วิทยุสกัดจับ เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เส้นทางมาจากอ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จนกระทั่งเข้าเขต อ.สองพี่น้อง

ต่อมาพล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก. ภ.จว.สุพรรณบุรี เดินทางมาร่วมสอบปากคำหญิงสาวผู้เสียหายที่ ร.พ. สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ รอง ผบก. พ.ต.อ.สุเทพ ไพบูลย์ผล ผกก.สภ.สองพี่น้อง โดยประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการสุพรรณบุรี ร่วมสเกตช์ภาพคนร้าย พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เดินทางมาก่อเหตุและหลบหนี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้เสียหายรายนี้มีดีกรีเป็นถึงอดีตนางงามเคยเข้าประกวดระดับนานาชาติมาแล้ว

โดยหลังเจ้าตัวหายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อนๆ ได้โพสต์เฟซฯตามหาตัว เนื่องจากทั้งหมดนัดหมายว่าจะมาเจอกันที่ย่านทองหล่อ เมื่อเจ้าตัวมาถึงที่สนามบินดอนเมืองก็จะนั่งแท็กซี่มาหาทันที แต่ผ่านไปนานเพื่อนๆ จึงโพสต์ตามหาร่วมทั้งประสานทางสถานีวิทยุและสื่อโซเชี่ยลต่างๆ ให้ช่วยตามหา จนมาทราบข่าวเอาเมื่อตอนดึก

ล่าสุดมีรายงานว่าตร.สภ.ทุ่งคอก นำกำลังจู่โจมบุกไปรวบตัวโชเฟอร์แท็กซี่หื่นรายนี้ได้ขณะกบดานอยู่ที่จ.นนทบุรี โดยทราบชื่อคือนายค้ำคูณเจริญ หรือนายสมเกียรติ ค้อนจัตุรัส อายุ 44 ปี เป็นชาวอ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พร้อมรถแท็กซี่สีเหลือง ทะเบียน ทย 4448 กรุงเทพฯ โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพ

ต่อมาพล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (สบ10)พร้อมกำลังคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ในทุ่งนา ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยให้เหยื่อสาวตามไปชี้ตัวที่ศาล จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่าแท็กซี่หื่นเคยก่อเหตุมาแล้ว 2 คดี คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อ 24 ก.ย.51 ได้ขืนใจหญิงสาวชาวไทยอายุ 20 ปี บริเวณริมถนน 340 (ตลิ่งชัน-สุพรรณฯ) ท้องที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ส่วนคดีที่สองเกิดขึ้นเมื่อ 9 ม.ค.56 โดยได้ขืนใจสาวชาวพม่าวัย 25 ปี บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 พื้นที่สน.ทุ่งสองห้อง เพิ่งออกจากคุกมาไม่นานกระทั่งมาลงมืออีกในครั้งนี้

ด้านนายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการขนส่งทางบก(ขบ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ ซึ่งขบ.แจ้งข้อหาไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมแล้ว

นอกจากนี้ ยังเชิญตัวแทนจากสหกรณ์แท็กซี่ธนาสยาม จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแท็กซี่มาสอบข้อเท็จจริง โดยผู้แทนสหกรณ์ยอมรับว่าให้เช่าขับโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ และไม่ได้จัดส่งประวัติมายังนายทะเบียน ถือเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 จึงพิจารณาลงโทษผู้ประกอบการ ดังนี้ 1.เพิกถอนทะเบียนรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทย 4448 กรุงเทพ 2.ระงับการเพิ่มรถเป็นเวลา 6 เดือน 3.ปรับฐานยินยอมให้ผู้ซึ่งไม่ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะเข้าขับรถของตน ตามมาตรา 56 ประกอบมาตรา 60 ในอัตราสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และ 4.ปรับฐานไม่จัดส่งประวัติผู้ขับรถให้นายทะเบียน ตามมาตรา 5(15) ประกอบมาตรา 58 ในอัตราสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท

นายสุกรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวเกิดจากความโลภของสหกรณ์แท็กซี่ที่มีการแอบนำรถแท็กซี่เก่าคันนี้ซึ่งจะหมดอายุภายใน 1-2 ปี ไปขายต่อให้บุคคลภายนอกในราคาถูกๆ ประมาณ 5-6 หมื่นบาท เพราะเกรงว่าหากปล่อยให้หมดอายุจะไม่ได้ราคา ซึ่งกรณีนี้พบว่าคนที่ซื้อรถคันดังกล่าวกลับนำรถแท็กซี่ออกไปให้คนที่ก่อเหตุเช่าขับในราคาถูก โดยไม่ตรวจสอบประวัติคนขับ จนนำมาสู่ปัญหาในการก่อคดีดังกล่าว สำหรับบทลงโทษสหกรณ์แท็กซี่ หากพบทำผิดซ้ำอีกอาจจะพิจารณายึดใบอนุญาตต่อไป

ขณะที่ นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ทดม.ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่านักท่องเที่ยวชาวบราซิลดังกล่าว ขึ้นรถแท็กซี่ ซึ่งเข้ามาส่งผู้โดยสาร บริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 ชั้น 1 ประตู 6 ออกไป ทดม.ใคร่ขอชี้แจงว่าแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นรถแท็กซี่ภายนอกที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นรถแท็กซี่ที่ให้บริการ ณ ทดม.แต่อย่างใด ทั้งนี้ทดม.ได้จัดจุดบริการแท็กซี่ไว้ 2 จุด ได้แก่ บริเวณชั้น 1 ประตู 8 อาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 และบริเวณใต้อาคารจอดรถ 7 ชั้น ใกล้กับประตู 15 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 จุดบริการแท็กซี่ทั้งสองจุดนี้ ทดม.จะมีการลงทะเบียนประวัติผู้ขับขี่และตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พร้อมทั้งบันทึกจุดหมายปลายทางที่ผู้โดยสารเดินทาง เมื่อเกิดเหตุร้ายกับ ผู้โดยสารหรือผู้โดยสารหลงลืมสิ่งของไว้ บนรถ ทดม.จะสามารถทราบรายละเอียด และสามารถติดต่อผู้ขับขี่ได้ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน