รวบทันควัน ผู้จัดการบริษัทเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อดัง ควงปืนบุกเดี่ยวปล้นเงินแบงก์ออมสินกวาดเงินไปร่วม 3 แสนบาท ก่อนขึ้นจยย.หวังหลบหนี แต่ถูกพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันถีบจยย. จนล้ม แล้วรวบตัวก่อนแจ้งตร.มาจับไป เจ้าตัวเผยไปทำธุรกิจส่วนตัวจนเป็นหนี้สินกว่า 3 ล้านบาท หาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจปล้นธนาคาร โดยก่อนหน้านี้มาดูลาดเลาก่อน 3 วัน พร้อมเตรียมรถยนต์จอดไว้ที่ลานวัดท่าช้าง หวังเปลี่ยนรถหลบหนี แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ต.ค. พ.ต.ท.อุทัย วงศ์คำแสน รองผกก.ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองน่าน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้เอาเงินสดในธนาคารออมสิน สาขาห้างนราไฮเปอร์มาร์ท ต.ในเวียง เขตเทศบาลเมืองน่าน ก่อนวิ่งขึ้นจยย.ที่จอดไว้หลบหนีไป แต่มีพลเมืองดีช่วยกันจับกุมคนร้ายไว้ได้ จึงเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณห้างใจกลางเมือง ที่ลานจอดจักรยานยนต์ด้านหลังห้าง พบพลเมืองดีควบคุมตัวนายนฤทธิ์ อมาตศักดิ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน พร้อมด้วยของกลางถุงใส่เงินสด 298,500 บาท และรถจักรยานยนต์ฟีโน่ที่ใช้ก่อเหตุ หมายเลขทะเบียน วจต 657 กรุงเทพ มหานคร ซึ่งใช้สติ๊กเกอร์ปิดรอบคันและแผ่นป้ายทะเบียน ปืนสั้นขนาด .38 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอก

พ.ต.ท.อุทัยเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้จัดการสาขาเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อดัง ที่ตั้งอยู่แยกสวนตาล เขตเทศบาลเมืองน่าน โดยอาศัยช่วงจังหวะคนน้อยบุกเข้าไปในธนาคารใช้ปืนสั้นเข้าไปบังคับให้พนักงานที่เคาน์เตอร์นำเงินใส่ถุง ก่อนหลบหนี

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง เนื่องจากมีปัญหาด้านหนี้สินที่เกิดจากการทำธุรกิจกว่า 3 ล้านบาท ทำให้เกิดความเครียดและวางแผนดูลาดเลาในธนาคารกว่า 3 วัน ก่อนลงมือ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดในมุมต่างๆ ทั้งของทางห้างสรรพสินค้าและของธนาคาร ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะมีการเตรียมการวางแผนมาอย่างดี เนื่องจากมีการเตรียมรถยนต์นำไปจอดรอไว้ที่ลานวัดท่าช้าง เขตเทศบาลเมืองน่าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบปากคำอย่างละเอียด

นายนพดล อินต๊ะมา และนายอัครเดช เสื้ยนเสริม พลเมืองดีที่ช่วยสกัดจับคนร้าย เล่าถึงเหตุการณ์ว่า เห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีคนถือไม้วิ่งไล่ตาม ซึ่งเข้าใจว่าเป็นคนทะเลาะวิวาท แต่เมื่อได้ยินว่าเป็นการจี้เงิน ก็ได้ช่วยกันหาจังหวะถีบรถจักรยานยนต์ให้ล้มลง ซึ่งคนร้ายได้ยกปืนขึ้นข่มขู่ไม่ให้เข้าจับตัว แต่ก็มีพลเมืองดีหลายคนได้ช่วยกันหาจังหวะเพื่อจับตัวให้ได้ ซึ่งคนร้ายมีเพียงลำพัง ทำให้สามารถรุมจับตัวไว้ได้ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน