อัยการตั้งทีมดูสำนวน คดีซิ่งเก๋งชนดต.ดับ 7วันเสร็จ-เสนอบัวแก้ว ตร.ยันกลับไทยรวบแน่

ศาลอนุมัติจับแล้ว บอส-วรยุทธ ทายาทกระทิงแดงคดีขับรถชนตำรวจตายเมื่อปี 55 หลังยืดเยื้อกว่า 5 ปี เบี้ยวนัดอัยการ 7 ครั้ง เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากอังกฤษ ผบ.ตร. ยันหากพบว่าเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อใดจับได้ทันที ขณะที่อัยการเตรียมตั้งคณะทำงานขอผู้ร้ายข้ามแดน คาดทำเรื่องเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ แล้วจึงประสานกระทรวงการต่างประเทศติดต่อทางการอังกฤษต่อไป

จากกรณีที่นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชื่อดัง กระทิงแดง มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 จนกระทั่งผ่านไป 5 ปี ยังไม่ได้ส่งฟ้องศาลเนื่องจากจำเลยขอเลื่อนนัดอัยการถึง 7 ครั้ง และทำให้คดีหมดอายุความไปแล้ว 2 คดี เป็นเหตุให้สื่อต่างชาติให้ความสนใจตีข่าวอย่างครึกโครม
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เปิดเผยว่า หลังจากอัยการสูงสุดยืนยันให้ติดตามตัวนายวรยุทธ มาฟ้องคดีขับรถประมาทชนตำรวจเสียชีวิตภายในอายุความ 2570 ตามขั้นตอนปฏิบัติ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 จะทำหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน. ทองหล่อ ให้ติดตามตัวนายวรยุทธ มาส่งให้อัยการ หากไม่พบตัวให้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาฟ้องคดีต่อไปตามคำสั่งของอัยการที่ยุติแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการทำหนังสือแจ้งพนักงานสอบสวนนั้น มีรายงานแจ้งว่า อัยการให้พนักงานสอบสวน มารับหนังสือที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ ภายในวันที่ 28 เม.ย.นี้
ด้านนายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องและประสานพนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ โดยผู้ต้องหามีภาพปรากฏตามสื่อมวลชนว่าพำนักอยู่ต่างประเทศว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นสามารถดำเนินการได้ทั้งตามสนธิสัญญาที่ทำระหว่างกัน ส่วนกรณีที่ไม่มีสนธิสัญญา ก็ขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยอาศัยหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติภายใต้เงื่อนไขต่างตอบแทนระหว่างกัน ซึ่งระหว่างประเทศไทยกับประเทศอังกฤษนั้นมีการทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันไว้ตามประกาศสัญญาว่าด้วยส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันในระหว่างกรุงสยามกับอังกฤษ ร.ศ. 129
สนธิสัญญาตามประกาศนี้จะกำหนดประเภทความผิดที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กันได้ โดยถึงแม้จะไม่ได้กำหนดให้ความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นความผิดที่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ แต่ตามสนธิสัญญานี้ก็ได้กำหนดข้อยกเว้นไว้ว่าความผิดอื่นๆ นอกเหนือจากที่สนธิสัญญากำหนดไว้ ก็ให้สามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ถ้ากฎหมายทั้งสองประเทศกำหนดให้ความผิดนั้นสามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้
“มาตรา 7 ของพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ของไทย กำหนดให้ความผิด ที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ต้องเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศ คือทั้งตามกฎหมายไทยและกฎหมายอังกฤษ และความผิดนั้นต้องมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนี้เป็นความผิดทั้งตามกฎหมายไทยและกฎหมายอังกฤษ และมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปตามกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศ จึงเข้าหลักเกณฑ์ที่จะร้องขอให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กันได้ภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด ซึ่งตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 มาตรา 5 นั้นกำหนดให้อัยการสูงสุด เป็นผู้ประสานงานกลางในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฝ่ายไทย” นายธนกฤตระบุ
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นรับรายงานจากพนักงานสอบสวนว่ายืนยันขออนุมัติหมายจับ ถ้าศาลอนุมัติหมายจับแล้วก็จะดำเนินการตามกระบวนการช่องทางที่ผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี หากอยู่ในประเทศไทยก็ติดตามจับกุมให้ได้ หากนอกประเทศก็มีสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามปกติ ซึ่งเป็นข้อกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศตามปกติ คาดว่าหากอยู่ในประเทศไทยก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการติดตามจับกุมตัวหากมีการอนุมัติหมายจับแล้ว
ผบช.น.กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการกำชับหรือตรวจดูข้อมูลอะไรหรือไม่ คงไม่ต้องใช้หลักฐานอะไรมาก ตามข้อมูลที่มีอยู่ 7 ครั้งที่ไม่มาตามนัด ซึ่งตามหลักการออกหมายจับนั้นตามหลักสำคัญคือการไม่มาตามนัดหรือไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยเรียกมาแล้วไม่มาพนักงานสอบสวนออกหมายเรียก 2 ครั้งไม่มาถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนีแล้ว แต่กรณีดังกล่าวน่าจะมีพฤติการณ์หลบหนีแล้วทางพนักงานอัยการส่งเรื่องมาให้ตำรวจจึงเอาเหตุผลที่สั่งการมายื่นคำร้องว่ามีพฤติการณ์หลบหนี อย่างไรก็ตาม ตนพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีข้อบกพร่องหลายจุดแต่ผู้เกี่ยวข้องก็ได้มีการดำเนินการแล้ว แต่ขณะนี้ที่เป็นปัญหาจะทำอย่างไรให้กระบวนการที่ทุกคนสนใจคือ กฎหมายต้องมีความเสมอภาคใช้ได้กับทุกคนทุกชั้นไม่ว่าจะเป็นคนระดับไหน ประเทศไทยก็ดำเนินการให้เกิดความเสมอภาคกับทุกคนโดยปราศจากอคติ ทุกคนก็ถือว่าอยู่ภายใต้กฎหมายต้องปฏิบัติตามกฎหมาย คำว่า 2 มาตรฐานไม่มีอย่างแน่นอน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ทราบว่าขณะนี้ พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 และ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ กำลังเร่งดำเนินการ คาดว่าวันนี้จะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้แน่นอน
ส่วนขั้นตอนการติดตามตัวหลังจากออกหมายจับก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ จะมีการประสานทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษซึ่งเป็นที่อยู่ของนายบอส สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) และตำรวจสากล เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทางประเทศอังกฤษจะส่งตัวมาให้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ส่งมาตำรวจก็มีช่องทางในการติดตามตัวอยู่แล้ว สำหรับสถานะนายบอสคือผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ ต้องใช้กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน หากผู้ต้องหาเคลื่อนย้ายไปอยู่ประเทศอื่นตำรวจก็มีช่องทางในการติดตามตัวเช่นกัน หากนายบอสเดินทางเข้ามาเมืองไทยเมื่อใดก็จับทันที ไม่ต้องกังวลเพราะที่ผ่านมาตำรวจได้พยายามจับผู้ต้องหาหมายจับค้างเก่ามาโดยตลอด
เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ศราวุธ เดชศรี สว.สอบสวน.สน.ทองหล่อ ซึ่งรับผิดชอบสำนวนคดีนายวรยุทธ ให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อขออนุมัติหมายจับนายวรยุทธแล้ว โดยในส่วนข้อหามี 2 ข้อหาคือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดให้การช่วยเหลือและไม่แจ้งเจ้าพนักงาน ตามป.อาญา ม.59 วรรค4 และม.291 และตามพ.ร.บ.จราจร โดยทำหนังสือไปยื่นศาลอาญาขอออกหมายจับตามที่อัยการสั่งมาแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ร.ต.อ.อาทิตย์ เกตุทอง ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติออกหมายจับนายวรยุทธ โดยหมายจับดังกล่าวมีอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่ 3 กันยายน 2555 ถึง 3 กันยายน 2570
นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เผยถึงขั้นตอนหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับนายวรยุทธ ว่า เมื่อมีหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ตำรวจก็ต้องตามจับผู้ต้องหา หากอยู่ในราชอาณาจักรก็ตามจับได้เลย แต่หากกรณีมีข้อมูลหรือ หลักฐานว่าตัวผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ก็ต้องทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากหากครบเงื่อนไขแล้ว คิดว่าภายใน 1 สัปดาห์ก็สามารถออกหนังสือส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ แล้วเราก็ทำเรื่องส่งไปที่กระทรวงการต่างประเทศ
สำหรับคณะทำงานตอนนี้ตนคิดไว้ในใจแล้วว่าจะตั้งอัยการใดขึ้นมาเป็นคณะทำงานบ้าง โดยคณะทำงานเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในคดีนี้จะมีประมาณ 4-5 คน ซึ่งจะเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ทำงานเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศอังกฤษมาก่อน โดยจะมีระดับรองอธิบดีเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งเรามั่นใจว่าถ้ามีหลักฐานจากทางตำรวจครบ เราสามารถทำได้เลย เพราะเป็นนโยบายของเราอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน