ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการป้องกันการใช้ไลฟ์เผยแพร่ความรุนแรง ซึ่งได้ระบุ ถึงเหตุการณ์ถ่ายทอดสด ฆ่าตัวตายผ่านหน้าเฟซบุ๊ก ซึ่งรวมถึง กรณีชายไทย ที่แขวนลูกสาววัย 11 เดือน ก่อนที่จะแขวนคอตัวเอง ซึ่งคลิปดังกล่าวเผยแพร่อยู่บนเฟซบุ๊กเกือบ 24 ชั่วโมงก่อนจะถูกลบออกไป
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้ประกาศว่า จะแก้ไขเรื่องดังกล่าวเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ชุมชนออนไลน์ โดยจะจ้างคนเพิ่ม 3,000 ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่ในทีมปฏิบัติการชุมชนซึ่งจะมีหน้าที่ยุติการเผยแพร่ถ้อยคำแห่งความเกลียดชัง การละเมิดสิทธิเด็ก รวมถึงการทำร้ายตนเองผ่านการถ่ายทอดสดของเฟซบุ๊กไลฟ์
ซัคเคอร์เบิร์ก ระบุว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ใจสลายเมื่อเห็นผู้คนทำร้ายตนเองรวมถึงผู้อื่นในวิดีโอที่มีการถ่ายทอดสดบนเฟซบุ๊ก และว่าเขาจะทำให้การรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นในลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยผู้ที่ได้รับการว่าจ้างเพิ่มขึ้นอีก 3,000 ตำแหน่ง จะทำงานร่วมกับทีมที่มีอยู่แล้ว 4,500 คน เพื่อให้บริษัทสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วขึ้นเมื่อมีเนื้อหาที่เข้าข่ายดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก
ซักเคอร์เบิร์กยังระบุด้วยว่าบริษัทจะพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อบริหารจัดการข้อมูลหลายล้านชิ้นที่ได้รับรายงานมาทุกสัปดาห์ โดยจะทำให้การรายงานปัญหาเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วเมื่อผู้ชมเห็นว่าโพสต์ใดที่ถือเป็นการละเมิดมาตรฐาน ทั้งยังจะทำให้การติดต่อกับเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายทำได้รวดเร็วขึ้นหากเห็นว่ามีผู้ที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ
ในช่วงที่ผ่านมาเกิดกรณีที่มีการฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตายโดยถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์หลายกรณี และเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมามีชายไทยรายหนึ่งฆ่าบุตรสาวของตนเองก่อนฆ่าตัวตายตามโดยการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เพราะระแวงว่าภรรยานอกใจจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
