ปัญหามลพิษทางอากาศในปี 2562 ซึ่งคาดว่ายังจะมีต่อเนื่องในปี 2563 ที่คนกรุงเทพฯ และคนไทยในอีกหลายพื้นที่ ทั่วทุกภาคของไทยยังต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง

เพราะมลพิษทำให้ปัญหาสุขภาพที่มีอยู่กำเริบขึ้น อันตรายจาก PM 2.5 กลายเป็นภัยเงียบที่มองไม่เห็น ส่งผลต่อคนทุกเพศ ทุกวัย เพราะเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก (เล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า) ไม่มีกลิ่น สามารถผ่านเข้าไปในร่างกายด้วยการหายใจเอาฝุ่นเขาไป ผ่านขนจมูกเข้าสู่ปอด และหลอดเลือด กระจายตัวแทรกซึมไปทั่วร่างกาย จนส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระบบเส้นเลือด ผ่านเข้าทางเส้นประสาทการรับกลิ่นที่อยู่ในโพรงจมูกผ่านเข้าไปยังสมองโดยตรง กระตุ้นให้คนที่มีโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังเกิดอาการกำเริบ เช่น โรคจมูกอักเสบ ภูมิแพ้ โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง อีกทั้งยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งปอด และกระตุ้นให้คนที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือดเรื้อรัง มีอาการกำเริบ รวมถึงภาวะสมองเสื่อม ฯลฯ

ทั้งนี้ ปัญหาของฝุ่นละอองขนาดจิ๋วนี้ไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังพบตามเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก ทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพกระจายเป็นวงกว้าง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกหรือ WHO พบว่า ในทุกปีมีประชากรถึง 7 ล้านคนต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากการได้รับมลพิษทางอากาศ โดยในจำนวนนี้ เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบถึงร้อยละ 10 ซึ่งฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็กโดยตรง คุณแม่ตั้งครรภ์ ยิ่งสูดดม PM2.5 เป็นเวลายาวนาน ยิ่งส่งผลในระดับพันธุกรรม ซึ่งจะมีผลมากกับทารกในครรภ์ รวมถึงเด็กเล็ก เมื่อหายใจเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าไป ผลกระทบที่จะตามมามีได้ทั้งเด็กมีสติปัญญาด้อยลง, พัฒนาการช้าลง, มีปัญหาการได้ยินและการพูด รวมทั้งยังมีผลทำให้เกิดภาวะสมาธิสั้น เป็นต้น

ดังนั้น กลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันจากฝุ่นพิษขนาดจิ๋ว PM2.5 คือกลุ่มเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง และสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงานต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสมาชิกในครอบครัว หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน สิ่งสำคัญคือต้องหมั่นตรวจเช็คค่าฝุ่นในแต่ละจุดของแต่ละวัน จากแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ หรือข้อมูลของหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันคนที่คุณรักจากมลพิษทั้งหลาย

การทำตัวให้เคยชินกับค่าฝุ่น PM 2.5 ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ดังนั้น การป้องกันจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด จึงควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ

(ข้อมูลอัพเดตค่าฝุ่นล่าสุด วันที่ 8 มกราคม 2563 / ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Air visual)

ล่าสุด Air visual รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ ซึ่งคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประจำวันที่ 8 ม.ค. 2563 พบว่า สีของแต่ละพื้นที่จะอยู่ในระดับ สีส้มจนถึงม่วง คุณภาพอากาศถือว่าอยู่ในระดับ คุณภาพแย่ถึงแย่มาก จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

(ข้อมูลอ้างอิงจาก US AQI ลิงค์ https://airnow.gov/index.cfm?action=aqibasics.aqi “)

โดยสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยระหว่างวันที่ 6-11 มกราคม ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีลมอ่อนหรือสงบในช่วงเช้า อาจส่งผลให้ปริมาณฝุ่นเพิ่มสูงขึ้น

วิธีรับมือกับฝุ่น ข้อแนะนำและวิธีป้องกันตนเองและคนที่คุณรักจากฝุ่น PM 2.5 สำหรับผู้ที่นิยมออกกำลังกาย สิ่งแรกที่ต้องทำคืองดออกกำลังกายกลางแจ้ง ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกาย และที่สำคัญคือ ต้องสวมหน้ากากที่มีประสิทธิภาพ ปกป้องตัวเองจากฝุ่น PM2.5 และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีฝุ่นขนาดจิ๋วในปริมาณสูง

แต่หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน หรือสถานที่โล่งแจ้ง แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคหัวใจเรื้อรัง โดยเลือกใช้ประเภทของหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพการป้องกันฝุ่นพิษได้ดี คำแนะนำคือ การสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 หรือชนิด KN95 ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับว่า สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดี สามารถกรองฝุ่นละออง ที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้มากกว่า 95% จึงเหมาะสำหรับการสวมใส่เพื่อป้องกันมลพิษ ฝุ่น PM 2.5 และมลภาวะในอากาศชนิดอื่น ๆ เช่น ควันพิษ ไอเสียรถยนต์

สำหรับวิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง ต้องให้แถบโลหะอยู่ด้านบนของจมูก คล้องเชือกไว้กับหู โดยกดแถบโลหะให้แนบชิดกับสันจมูกมากที่สุด และดึงส่วนล่างมาปิดที่คางให้แนบกระชับใบหน้า สิ่งสำคัญคือควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน และไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น

อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิภาพการป้องกันตัวคุณและคนที่คุณรักจากฝุ่นพิษขนาดจิ๋ว และมลภาวะทางอากาศอื่นๆ ต้องเลือกใช้หน้ากากกันฝุ่นที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้วเท่านั้น ซึ่งหน้ากาก 3M Nexcare™ เป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน KN95 ว่าสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้จริง หน้ากากกันฝุ่น 3M ผ่านการรับรองมาตรฐาน KN95 มั่นใจได้ ออกแบบรูปทรงแบบ 3 มิติ เพื่อกระชับกับรูปหน้า มีวาล์วระบายอากาศ 3M™ Cool Flow ช่วยให้หายใจได้สะดวก สวมใส่ง่าย ที่สำคัญพกพาไปได้ทุกที่ และหาซื้อง่าย ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป และทางออนไลน์

สั่งซื้อและดูประสิทธิภาพของหน้ากากกันฝุ่น 3M ได้จากลิงค์นี้

LAZADA : http://bit.ly/2QNJWSy (มีโปรโมชั่นพิเศษ ตั้งแต่ 9 ม.ค – 29 ก.พ )

Shopee : http://bit.ly/2ZVdNMX (มีโปรโมชั่นพิเศษ ตั้งแต่ 9 ม.ค – 29 ก.พ )

https://www.facebook.com/3Mdelivery/

#No1เรื่องกันฝุ่น

#3M

#Nexcare

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน