นักธุรกิจหนีจากป่า แจ้งตร.ช่วย ถูกอุ้มขึ้นรถดาราหนุ่ม เพื่อนสิงคโปร์จับขัง-รีดเงินล้านดอลลาร์

พบเป็นรถดาราหนุ่มจริง – พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ชาติ งานพิทักษ์ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ร่วมประชุมเพื่อติดตามคดีที่นักธุรกิจหนุ่มชาวสิงคโปร์ โดนแก๊งเพื่อนชาวต่างชาติ อุ้มเรียกค่าไถ่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค. จากจังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วผู้เสียหายสามารถหลบหนีออกมาได้จากพื้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

จากการสอบสวน ผู้เสียหาย คือ นายมาร์ค เชง อายุ 33 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ สร้างแอพพลิเคชั่นสตาร์ทอัพ ได้ให้การว่า เมื่อเช้าวันที่ 9 ม.ค. ตนได้เดินทางมาประเทศไทย พร้อมกับ นายคิม ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นเพื่อนชาวสิงคโปร์ที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิ นายคิมก็ได้ชักชวนให้ตนนั่งรถแท็กซี่มาด้วยกัน จนมาถึงที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนสุวินทวงศ์ ต.นครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา

นายคิมก็ให้ตนลงจากรถแท็กซี่ เพื่อไปขึ้นรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีดำ ทะเบียน กรุงเทพฯ ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นรถของดาราหนุ่มลูกครึ่ง ซึ่งเคยเจอและเที่ยวด้วยกันที่ร้านเหล้า 2-3 ครั้ง มีคนขับมาจอดรออยู่ภายในปั๊ม พอตนเข้ามาในรถก็ถูกปิดตาคลุมหน้า แล้วนายคิมก็ได้พาตนไปขังไว้ในห้องพักกลางป่า ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าคนร้ายมีกันกี่คน และนายคิมขู่บังคับให้ตนโอนเงินเข้าบิทคอยน์จำนวนหลายล้านดอลล่าร์ เมื่อตนขัดขืนก็ถูกทำร้ายร่างกายและขู่จะฆ่าตนให้ตาย

ตนจึงได้ยอมโอนเงินให้ไปก่อน 1 ล้าน จนกระทั่งกลางดึกของวันที่ 10 ม.ค. ตนมีโอกาสหลบหนีออกมา ก็วิ่งเข้าไปแอบอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง เมื่อมีรถผ่านมา ตนจึงได้ออกไปขอความช่วยเหลือ และให้พาไปแจ้งตำรวจ ที่ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก แล้วพาตนเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวนายคิม ผู้ก่อเหตุ นำมาสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการในการก่อเหตุ

ด้าน พล.ต.ท.มนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องที่เกิดและพัวพันกับชาวต่างชาติ จึงต้องใช้เวลาการทำคดีให้ออกมาอย่างถูกต้องและชัดเจนที่สุด จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลอะไรได้มาก

โดยขณะนี้ตำรวจก็ได้เร่งสืบสวนติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่ม และยังไม่ได้สรุปว่าเป็นการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ หรือเป็นเรื่องของความขัดแย้งกันเองทางธุรกิจ เพราะเมื่อฟังจากคำให้การของผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาเองก็ยังไม่ชัดเจน

ส่วนรถคันที่ใช้ก่อเหตุนั้น ทราบว่า เป็นรถของดาราหนุ่มลูกครึ่งคนดังกล่าวจริง โดยจะได้เรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ หากพบว่าใครกระทำผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด โดยไม่มีข้อยกเว้น เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังดาราคนดังกล่าว พบว่าปิดมือถือ