เด็กๆร้องระงม จับจ่ายเปิดเทอม ปล้นรถดีแมคซ์ จอดประตูห้าง รปภ.ถ่ายรูปได้ ผบ.ตร.สั่งไล่ล่า
บิ๊กซีปัตตานียับ โดนคาร์บอมบ์ ตูมสนั่น-ไฟท่วม ลูกค้า-พนัก งานเจ็บกว่าครึ่งร้อย คนร้ายจุดประทัดยักษ์ล่อ แล้วเคลื่อนปิกอัพเข้าจุดเกิดเหตุ รปภ.พบพิรุธถ่ายรูปรถไว้ พร้อมกันคนออกห่าง ก่อนเกิดเหตุระเบิด บิ๊กซีแถลงเสียใจพร้อมช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ขณะศอ.บต.สั่งเร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุ
เมื่อเวลา 14.25 น. วันที่ 9 พ.ค. สภ.เมืองปัตตานีรับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนลอบวางระเบิดบริเวณห้างบิ๊กซี อ.เมือง จ.ปัตตานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เปิดคลิปสยอง! นาทีระเบิดถล่มห้างปัตตานี เปลวเพลิงพวยพุ่ง แฉปิกอัพจอดหน้าประตูทางเข้า
เบื้องต้นมีรายงานว่ามีชาวบ้านแจ้งว่าได้ยินเสียงคล้ายประทัดยักษ์ดังขึ้นบริเวณประตูทางเข้าออกของห้าง ด้านหน้ารั้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้ประสาน เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมกันบริเวณจุดเกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด
จากนั้นอีกประมาณ 10 นาที เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกครั้งเป็นลักษณะคาร์บอมบ์จนเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างแรงที่บริเวณลานจอดรถด้านข้างของห้าง แรงระเบิดเป็นวงกว้าง มีประชาชนได้รับบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 6 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่เข้ากันพื้นที่และลำเลียง คนเจ็บนำส่งโรงพยาบาล และประสานรถ ดับเพลิงเข้ามาสกัดไฟที่ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานห้างและลูกค้าวิ่งหนีตายจ้าละหวั่น พร้อมเตรียมเคลียร์พื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย นอกจากนั้นมีรายงานแจ้งว่าพบระเบิดไม่ทำงานอยู่ที่ห้างไดอาน่าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน โดยเจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้ไว้ได้
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุ บจ 3303 ยะลา ซึ่ง เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ และตรวจสอบแผ่นป้ายรถที่พบในที่เกิดเหตุว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนนำระเบิดบรรจุในรถยนต์เข้าจอดบริเวณหน้าห้างบิ๊กซีสาขาปัตตานี แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีลูกค้าและพนักงานห้างดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ตอนนี้เจ้าหน้า ที่ได้ลำเลียงส่งโรงพยาบาลปัตตานีเป็น การด่วน
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ. จ.ปัตตานี เดินทางมาอำนวยการที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมทางเข้าออกเมืองทุกจุดเพื่อไล่ล่าคนร้าย พร้อมกับเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวทั้งของห้างและตามเส้นทาง เพื่อนำภาพผู้ต้องสงสัยกระจายไปตามจุดตรวจและชุดสายตรวจในการไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่และได้มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้าเพื่อต้องการสร้างสถานการณ์และความเสียหาย
พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี กล่าวว่าหลังเกิดเหตุจุดประทัดยักษ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพบมีผู้ขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน บจ 3303 ยะลา บรรทุกวัสดุก่อสร้างมาจอดบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดห้ามจอด แล้ววิ่งจากรถ จึงถ่ายรูปไว้ พร้อมกันคนออกนอกบริเวณ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเก็บกู้ระเบิด ในระหว่างนั้นรถได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงทำให้เกิดเพลิงไหม้ภายในห้าง บิ๊กซี และมีลูกค้าทางห้างได้รับบาดเจ็บ
วันเดียวกัน ร.ต.อ.บัณฑิต ซาดา รอง.สวป.สภ.เมืองยะลา หน.จุดตรวจโพธิ์ทอง เข้าตรวจสอบ บ้านเลขที่ 81/23 หมู่ 9 สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นเจ้าของทะเบียนรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา แบบแค็บ หมายเลขทะเบียน บง-3303 ยะลา ที่ถูกนำมาทำคาร์บอมบ์ทางเข้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยภรรยาเจ้าของรถยนต์ให้การว่า สามีได้ขับรถไปเร่ขายผ้าใบในเขตพื้นที่ จ.ปัตตานี ตั้งแต่เช้าวันนี้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อกับสามีได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างบิ๊กซีขณะคนร้ายขับรถเข้ามาภายในห้าง พบว่าได้เดินทางมาด้วยกัน 2 คน โดยขณะผ่านจุดตรวจคนร้ายยังได้แสดงบัตรประชาชนของนายนุสน ขจรคำ ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่หายตัวไปด้วย
สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บเหตุคาร์บอมบ์ 61 รายประกอบด้วย 1.นายสมพร พึ่งจิต (สาหัส) 2.น.ส.มณฑิตา อรุณทัศ (สาหัส) 3.น.ส.นูรซาฟีการ์ คูรอระยอ (สาหัส) 4.นายสมศักดิ์ ศรีอักษร 5.น.ส.สาปีกา สุรอระยอ 6.นายชัยนัลฮาบีดิน สุรอระยอ 7.นายอนุสรณ์ เลิศประสิทธิ์ 8.นางสายทิพย์ ไม่ทราบนามสกุล 9.นางปวีณา นวลจันทร์ 10.น.ส.ศิริจรรญา แป้นคง 11.ด.ช.ชัยวัฒน์ แก้วสำอาง 12.น.ส.สุนทรี ไม่ทราบนามสกุล 13.นาย สุทธิชัย ศิริวรวงศ์เจริญ 14.น.ส.วรกมล ชูวงศ์ 15.น.ส.สุพิณ คณานุรักษ์
16.นางตูแวนะ เซะอุเซ็ง 17.นายเลิศ แก้วสกุล 18.นางตูแวยารอ บินคงเลาะ 19.น.ส.ประภัสสร วงศ์รก 20.นายอีรฟัน ยูโซะ 21.น.ส.นูรีดา สามะ 22.นายซูลกีฟลี เซ็ง 23.น.ส.ซูเฟีย จาโรจน์หยา 24.ด.ญ.ริฟาร์ อาแว 25.น.ส.ฟาดีละ โต๊ะยูโซะ 26.น.ส.สุไรดา สาเมาะ 27.น.ส.ศิริพร แก้วสกุล 28.น.ส. ชูนีตา อีแต 29.น.ส.ซารีฮะ แยนา 30.น.ส. นูรีซา ต่วนสุหลง
31.นายฉัตรทวี ดาราเซ๊ะ 32.น.ส.แวเม๊าะ เจะแม 33.น.ส.ปัทมา อาแว 34.น.ส.เกศรินทร์ สือนิ 35.น.ส.รอฮานี เจะแว 36.น.ส.อริญรดา แก้วศรีบุญ 37.นายชาญณรงค์ กุมภิส 38.ด.ญ.ฟ้ารุ่ง โต๊ะเซ็ง 39.น.ส.วรีพรรณ มากศรี 40.น.ส.ยาวาเหร์ เย็ง 41.น.ส.แววมณี ไข่มุก 42.น.ส.วิลาวรรณ คำภิระ 43.ด.ญ.ปัญจรัตน์ แม่นสกุล 44.นายบุญเรือง เพ่งนีพัตรา 45.น.ส.ยัจมีย์ มูซอ
46.น.ส.โซฟีเยาะ อาแว 47.นายฟาฮัด หะยียูโซ๊ะ 48.นายบาฮารี ชีนา 49.นางปัทมา หมุดแหล๊ะ 50.น.ส.กนกอร สุวรรณชาตรี 51.น.ส.ซาฟีวาตี มะดือเระ 52.น.ส.นารีมัน มาหะมะ 53.น.ส.อามีเนาะ มะแอ 54.นาย ฮาเซ็ง เต๊ะชง 55.น.ส.มารีนา ฮะ 56.นาย ปรีดา สุกุตะ 57.ด.ญ.อติราณ์ แม่นสกุล 58.นางสุมิตรดา แก้วสกุล 59.นางรอมือเล๊าะ ม๊ะกูหลง 60.น.ส.ซูรีนายา ตีเยาะ และ 61.น.ส. ซารีดา กาเร็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะเกิดเป็นช่วงที่ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การศึกษา เนื่องจากใกล้เปิดเทอม รวมถึงยังมีลูกค้าอื่นมาจับจ่ายซื้อของอีกเป็นจำนวนมาก ช่วงเกิดเสียงระเบิดภายในห้างจึงเต็มไปด้วยความโกลาหล เพราะผู้ปกครองต่างพยายามพาบุตรหลานหลบเข้าที่ปลอดภัย
จากเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดปัตตานี ซึ่งมีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน ในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ว่า “ขอประณามเหตุระเบิดครั้งนี้ซึ่งเป็นการก่อเหตุในสถานที่ที่ทราบกันดีว่ามีเด็กและประชาชนอยู่พลุกพล่าน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง เพราะไม่ควรมีเด็กคนใดต้องตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายเช่นนี้”
นายวิเชียรโชค เพ็ชรภักดี ผู้อำนวยการสำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. มีความเป็นห่วงผู้บาดเจ็บ และได้สั่งการให้สำนักเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน โดยตั้งจุดบริการให้ความช่วยเหลือที่โรงพยาบาลปัตตานี ซึ่งจะมีศูนย์เยียวยาจังหวัดปัตตานี และศูนย์เยียวยาอำเภอเมืองปัตตานีเข้ามาช่วย โดยจะอำนวยความสะดวกและเยียวยาครอบครัวผู้ได้รับเหตุระเบิดครั้งนี้ ทั้งนี้เลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้เร่งให้มีการลงพื้นที่ประเมินความเสียหายของห้างบิ๊กซี ปัตตานี ในวันที่ 10 พ.ค. พร้อมตั้งจุดสำรวจลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ กรณี ทรัพย์สินเสียหาย หน้าห้างบิ๊กซีปัตตานี ตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ระเบิดบิ๊กซีที่ปัตตานีว่า ขณะนี้พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกำลังทหารลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายที่จุดเกิดเหตุ หลังจากเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ เบื้องต้นไม่มีผู้เสียชีวิต มีแต่บาดเจ็บเล็กน้อย คาดว่าระเบิดซุกในกระเป๋าวางอยู่ในรถปิกอัพที่จอดบริเวณลานจอดรถหน้าบิ๊กซี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่ปฏิบัติงานตามขั้นตอน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่แจ้งว่าเบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บกว่า 50 คน
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีลอบวางระเบิดบริเวณห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 51 ราย อาการสาหัส 4 ราย พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อที่จะขยายผลและจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุต่อไป
วันเดียวกันทาง บริษัทบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อมูลกรณีคาร์บอมบ์บิ๊กซี สาขาปัตตานี ทำให้ลูกค้าและพนักงานในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ชุมชน ห้างบิ๊กซีอ.เมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เมื่อเวลาบ่ายของ วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้กล่าวแสดงความเสียใจและขอเป็นกำลังใจให้กับประชาชนที่บาดเจ็บและได้รับผลกระทบกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่ร่วมกันดูแลผู้บาดเจ็บและผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ดีที่สุด รวมทั้งเร่งคลี่คลายความเสียหายที่เกิดขึ้น ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเร่งติดตามผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้อง มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
พล.ต.คงชีพกล่าวต่อว่า การกระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและผู้อยู่เบื้องหลัง ดังกล่าว ถือเป็นอาชญากรรมที่รุนแรง ป่าเถื่อน โหดเหี้ยม มุ่งหวังต่อชีวิตของพี่น้องประชาชนที่บริสุทธิ์ โดยเฉพาะกระทำในพื้นที่ ย่านธุรกิจสำคัญ ซึ่งประสงค์จะทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมทั้งต้องการสร้างความหวาดกลัวเพื่อจำกัดและลิดรอนเสรีภาพของประชาชน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง พร้อมทั้งเชื่อว่าประชาชนไทยด้วยกันทั้งประเทศ ไม่สามารถรับได้กับกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุและอยู่เบื้องหลัง การกระทำที่รุนแรงโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนเช่นนี้
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ผู้ประกอบการ ห้างร้านบริเวณใกล้เคียง และเจ้าของทรัพย์สินที่เสียหาย โดยสั่งการผ่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกนาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแถลงการณ์ของกลุ่มมาราปาตานีที่สนับสนุนให้มีเซฟตี้โซน ว่า ในส่วนของสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ไม่ต้องการให้เป็นประเด็น ขณะนี้เป็นเรื่องของการพูดคุย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงอำนวยการในเรื่องนี้อยู่ ข้อสำคัญต้องพยายามไม่ให้เรื่องเหล่านี้ไปสู่เวทีนานาชาติ และที่ผ่านมาตนได้คลี่คลายเรื่องเหล่านี้ได้มากกับทางองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) และมีคณะทำงานของโอไอซีมาดูการทำงานในพื้นที่ภาคใต้ และพอใจการทำงานของเรา โดยเฉพาะด้านการพัฒนา ส่วนการบังคับใช้กฎหมายการละเมิดสิทธิมนุษยชนเราก็ต้องชี้แจงให้ได้ถ้าเป็นการทำผิดของเจ้าหน้าที่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในโครงการติดตั้งเสาไฟโซลาร์เซลล์ที่ใช้งบกว่าพันล้านแต่ชำรุดเสียหายจำนวนมากว่า เดี๋ยวจะให้ตรวจสอบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และในการติดตั้งต้องดูว่าชำรุดตรงไหน และต้องไปดูเรื่องการจัดทำโครงการ ทุกขั้นตอนมีกรรมการ มีการตรวจสอบและสัญญา อย่างไรก็ตามจะให้ทางกระทรวงมหาดไทย กอ.รมน. ภาค 4 ไปตรวจสอบอีกครั้ง
