จับแล้ว 2 คน คดีคาร์บอมบ์บิ๊กซีปัตตานี มี “อุสตาซ”ร่วมทีมด้วย สารภาพเป็นคนเช็ดคราบเลือดหนุ่มเจ้าของปิกอัพ ที่ร่วมกันปล้นแล้วฆ่าทิ้ง ซัดทอด “นายก อบต.” ในพื้นที่หนองจิก รวมผู้ก่อเหตุทั้งหมด 11 คน แบ่งหน้าที่กันทำ 7 คนปล้นรถ อีก 4 คนประกอบคาร์บอมบ์แล้วนำไปถล่ม ล่าสุดพบศพคนขับรถกระบะแล้ว ถูกรัดคอหมกคูน้ำ ขณะชาวเมืองปัตตานีเดินขบวนต่อต้านความรุนแรง เรียกร้องแก้ปัญหาอย่างสันติ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่บริเวณด้านหน้าห้างบิ๊กซี สาขาเมืองปัตตานี จุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ส่งผลให้พนักงานห้างและประชาชนที่จับจ่ายซื้อของบาดเจ็บกันระนาว 61 คน มีกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ในพื้นที่กว่า 100 คน เดินขบวนชูป้ายต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ และประณามกลุ่ม คนร้ายก่อเหตุ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และเลิกก่อความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บนั้นยังรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ปัตตานี 25 ราย และร.พ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 1 ราย ในจำนวน ดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ประกอบด้วย 1.ด.ญ. นุรซาฟีการ์ สุรอระยอ อายุ 5 ขวบ มีแผลฉีกขาดที่ใบหน้า ศีรษะ ช่องท้อง ข้อมือซ้าย และแผลถลอกที่ขา 2 ข้าง 2.นางวรกมล ชูวงศ์ อายุ 32 ปี มีแผลสะเก็ดระเบิดบริเวณท้อง

3.นางมณทิวา อรุณทัต อายุ 43 ปี มีแผลฉีกขาดบริเวณแก้มซ้ายและแขนซ้าย ทั้ง 3 รายได้รับการผ่าตัด อาการดีขึ้นตามลำดับ และ 4.นายสมพร พึ่งจิตร อายุ 47 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและท้ายทอย แพทย์ผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว พักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.สงขลานครินทร์

สำหรับความคืบหน้าการสืบสวนติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ทำให้พอรู้เบาะแสว่ามีคนร้ายร่วมก่อเหตุ 4 คน ตามภาพจากกล้องวงจรปิดจึงรู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 1 คน คือ นายมะกอเซ็ง หม้าแอ้ อายุ 25 ปี อยู่ ต.บาราโหม อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยพยานระบุว่านายมะกอเซ็งเป็นบุคคลที่ใส่เสื้อสีดำ ปรากฏในภาพวงจรปิดขณะออกจากรถกระบะคาร์บอมบ์ด้านที่นั่งข้างคนขับ และจากการตรวจสอบประวัติทราบว่ามีหมายจับคดีความมั่นคง 3 หมาย ส่วนอีก 3 คนอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ปัตตานี กล่าวว่ามีด้วยกัน 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน แบ่งการทำงานเป็นอย่างดี โดยชุดก่อเหตุมี 4 คน ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี สามารถก่อเหตุเชิงประชิดตัวได้ ใน 3 กลุ่มนี้ทางเจ้าหน้าที่ออกหมายจับไปแล้วหลายคน

รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางการสืบ สวน ของเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้าย 4 คนเชื่อมโยงกับคดีที่เคยเกิดในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี คือเหตุคาร์บอมบ์ร้านอาหารมิตติ้ง เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2559 และคาร์บอมบ์โรงแรมเซาเทิร์น วิว ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2559

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจกฎอัยการศึกเชิญตัวผู้ต้องสงสัย 1 ราย ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านใหม่ ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มาซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร และพบเบาะแสว่ามีพยานพบเห็นรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน บจ 3303 ยะลา ที่ถูกปล้นมาทำคาร์บอมบ์ มีผู้ขับมาจอดบริเวณมัสยิดบ้านใหม่ จากนั้นมีชาย 4 คนโอบล้อมรถ และได้ยินเสียงคนทะเลาะและยิงกัน ก่อนรถกระบะอีกคันนำร่างผู้ถูกยิงคาดว่าเป็นเจ้าของรถออกจากจุดเกิดเหตุ และเมื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบเจ้าหน้าที่พบรอยเลือด ที่พื้นถนนตรงกับพยานระบุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงเก็บรอยเลือดทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นของนายนุสน ขจรคำ เจ้าของรถหรือไม่








Advertisement

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกเชิญตัวไปซักถามนั้นเริ่มให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ระบุว่านายนุสนมาติดตั้งผ้าใบที่มัสยิด จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนเข้ามาภายในมัสยิด ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้นแล้วเคลื่อนย้ายศพนายนุสนขึ้นรถกระบะอีกคันหลบหนีไป แต่ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ สาเหตุที่ไม่กล้าแจ้ง เจ้าหน้าที่เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้น่าจะเห็น รูปพรรณของคนร้าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่เชิญตัวนายก อบต.ในพื้นที่ อ.หนองจิก มาสอบปากคำอีกรายที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ในฐานะพยานในที่เกิดเหตุปล้นรถนายนุสน เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าในช่วงเกิดเหตุ นายก อบต.คุมงานก่อสร้างถนนอยู่ห่างจากมัสยิดบ้านใหม่ ประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะรู้หรือเห็นเหตุการณ์ โดยเฉพาะบุคคลต้องสงสัยที่อาจจะเป็นคนร้ายที่ร่วมกันปล้นรถกระบะและฆ่านายนุสน ก่อนไปทำคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซี

ขณะที่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่าควบคุมตัวผู้ต้องหา 1 คน เป็นครูสอนศาสนา หรือ อุสตาซ โดยยอมรับสารภาพว่าเป็นคนเช็ดคราบเลือดที่อยู่ภายในรถกระบะคาร์บอมบ์ และให้การซัดทอดผู้ร่วมขบวนการปล้นรถทั้งหมดจำนวน 8 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นถึงระดับนายก อบต. ในพื้นที่ อ.หนองจิก เบื้องต้นมีผู้ก่อเหตุปล้นรถ 10 คน คาดว่าเจ้าของรถกระบะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ต้องรอผลตรวจคราบเลือดก่อนว่าเป็นอย่างไร

“จากนี้ไปประชาชนในพื้นที่จะลำบาก เล็กน้อยเรื่องการสัญจรไปมา เพราะเจ้าหน้าที่ จะต้องตรวจรถทุกคัน แม้แต่รถไอศกรีม เพราะผู้ก่อเหตุพยายามปรับเปลี่ยนแผนก่อเหตุอยู่ตลอดเวลา เราจะต้องทำให้ดีกว่าเขา ทุกครั้งเราใช้ความเป็นมนุษยธรรม เปิดโอกาส ให้ทุกอย่าง ผู้ก่อเหตุไม่ได้เสียมวลชน แต่เสียความเป็นมนุษย์ เสียความเป็นคน ขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลว่ามีคนที่ไม่ใช่คน และคนที่ไม่ใช่มนุษย์มาอยู่ในพื้นที่รึเปล่า” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

ด้านพล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ยะลา สั่งการพ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองยะลา ประสานการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร ฉก. ยะลา 12 ตั้งด่านตรวจสอบเข้มรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบุคคลบนเส้นทางเข้าออกบริเวณตลาดสดพิมลชัย เขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นตลาดสดใหญ่ที่สุดในจ.ยะลา ป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ตรวจอย่างละเอียด ทั้งคู่มีทะเบียนรถ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขับขี่ และตรวจสอบการบรรทุกสิ่งของบนรถที่ส่อไปในทางสนับสนุน การก่อเหตุร้ายได้ หากพบว่าเป็นที่ต้องสงสัยให้ยึดไปตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนที่บ้านพักนางสาวิตรี ขจรคำ ภรรยานายนุสนนั้น ยังคงปิดบ้านเงียบ ทำใจไม่ได้ เนื่องจากยังเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว โดยนางสาวิตรีบอกแต่เพียงว่าเชื่อว่าสามียังมีชีวิตอยู่ โดยขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามหาตัวสามี มาโดยเร็ว

ขณะเดียวกัน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จัดรถ โมบายซีซีทีวี หรือรถปฏิบัติการกล้อง วงจรปิด เคลื่อนที่ไร้สายความเร็วสูงออกลาดตระเวน จุดเสี่ยง ย่านการค้า สถานีขนส่ง และสถานที่สำคัญ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยพ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้รอบรถ 4 ตัว มองเห็นได้ 360 องศา จะจอดประจำแต่ละจุดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ให้ออกปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ทุกวัน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีการข่าวแจ้งเตือนครึ่งชั่วโมง หรือหนึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ป้องกันเหตุได้ระดับหนึ่ง ส่วนรถที่ใช้ก่อเหตุนั้นตำรวจมีข้อมูลและแผนผังผู้ต้องสงสัยแล้ว พร้อมฝากเตือนผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ระมัดระวังการสร้างสถานการณ์ในรูปแบบที่เปลี่ยนไป โดยจะหลอกให้ผู้ประกอบการไปซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านแล้วปล้นทรัพย์

ต่อมาเวลา 16.20 น. สภ.หนองจิก จ.ปัต ตานี รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าพบศพผู้ชายอยู่บริเวณปลายนาหมู่ 1 ต.เกาะเปาะ อ.หนอง จิก จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพนาย นุสน ขจรคำ อยู่บ้านเลขที่ 81/23 หมู่ 9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าของรถกระบะที่ถูกคนร้ายชิงปล้นไปทำคาร์บอมบ์ จาก สภาพศพคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

ต่อมา พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ปัตตานี นำกำลังเดินทางมายังจุดพบศพอยู่ใน ร่องน้ำ โดยสภาพศพมีร่องรอยถูกรัดคอ ส่วน จะถูกยิงด้วยหรือไม่นั้น จึงนำไปชันสูตรพลิก ศพอย่างละเอียดต่อไปที่ร.พ.หนองจิก โดยพล.ต.ต.ปิยะวัฒน์กล่าวว่า เชื่อว่าเป็นศพนายนุสนถูกรัดคอ ขณะนี้ควบคุมตัวแล้ว 2 คน คาดว่าเป็นผู้ต้องหา และมีผู้ร่วมก่อเหตุ 11 คน คือฆ่าและวางระเบิด 9 คน ส่วนอีก 2 คน เป็นแกนนำ และผู้ให้ใช้สถานที่เพื่อก่อเหตุ แจ้งภรรยาผู้ตายทราบแล้ว มั่นใจว่าจะจับได้คนร้ายได้ทั้งหมดแน่นอน และออกหมายแล้ว 1 คน อีก 2 วันจะออกหมายอีก 3-4 คน ยืนยันออกหมายได้หมด แต่ขอยืนยันพยานหลัก ฐานก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า การติดตามค้นหาจนพบศพ สืบเนื่องจากผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวรับสารภาพว่า นายซูไฮมีเป็นแกนนำสั่งการขอใช้บริเวณมัสยิดเป็นสถานที่ก่อเหตุ มีผู้ร่วมก่อเหตุ 8 คน รู้ตัวแล้ว 3 คน เมื่อฆ่านายนุสนก็นำศพมาทิ้ง ส่วนนายซูไฮมีถูก เจ้าหน้าที่จับกุมได้แล้ว และนำตัวเข้าไปยังศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร จนถึงชั้นนี้ทั้งทีมปล้นและคาร์บอมบ์มีทั้งหมด 11 คน แบ่งเป็น 7 คนปล้นรถปิกอัพและฆ่านายนุสน และอีก 4 คนเป็นทีมคาร์บอมบ์

ทีมบอมบ์- ภาพ 4 ผู้ต้องสงสัยซ้อนท้ายจยย. 2 คันหลบหนี หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี โดยกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ เจ้าหน้าที่นำไปให้พยานชี้ตัวยืนยันจนได้เบาะแสสำคัญ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน