ทอท. แจงเครื่องตรวจวัดสกัดโคโรนาไวรัส วางกำลังเข้ม รู้ก่อนตำหนิ ด่าได้แต่อย่าแรง

ทอท. แจงเครื่องตรวจวัดสกัดโคโรนาไวรัส วางกำลังเข้ม รู้ก่อนตำหนิ ด่าได้แต่อย่าแรง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. หรือ AOT ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงมาตรการตรวจจับและสกัดโคโรนาไวรัส ในผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการป้องกันที่หละหลวม

โดยระบุว่า “มีการสอบถามและตำหนิกันเข้ามามาก เมื่อบางท่านออกจากสะพานเทียบแล้วพยายามมองหากล้องตรวจอุณหภูมิฯ แล้วไม่พบ #ด่าได้แต่อย่าแรง #ทอท #Coronavirus : ขอชี้แจงกระบวนการที่ ทอท ร่วมกับ สธ ในการตรวจ โคโรน่าไวรัส ดังนี้ครับ

(1) การตรวจจะมี 3 ชั้น คือ (1.1) ตรวจหน้า gate เฉพาะ flight ที่มาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงมาก (1.2) ตรวจที่จุดตัด concourse D E F (flight ที่มาจากแกล่งสุ่มเสี่ยงปกติจะถูกจัดเครื่องบินไปลง Concourse เหล่านี้) และ (1.3) ตรวจหน้า ตม. สำหรับทุก flight ที่มาลงยังทุก Concourse ซึ่งหมายความ ว่า ผดส. ที่มาจาก flight ที่มาจากประเทศสุ่มเสี่ยงมาก จะถูกตรวจ 3 ชั้น คือ (1.1)-(1.3) และ flight ที่มาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงปกติ จะถูกตรวจ 2 ชั้นคือ (1.2)-(1.3) ส่วน flight ที่มาจากแหล่งปกติ จะถูกตรวจ 1 ชั้นคือ (1.3)

(2) Bus Gate สำหรับ International Flight อยู่ Concourse E ซึ่งหมายความว่า หาก Flight ใดที่ไม่ได้มาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงมากในเวลานั้น ก็จะไม่มีการตั้งกล้องเป็นกรณีพิเศษที่หน้า Gate ดังกล่าว แต่เมื่อเดินผ่านจุดตัด Concourse D E F ก็จะถูกตรวจในกระบวนการ (1.2) และเมื่อผ่าน ตม. ก็จะถูกตรวจอีกครั้งในกระบวนการ (1.3) ครับ

เราตรวจใน 3 ชั้น มากกว่า หรือเท่ากับมาตรฐานสากลที่ดำเนินการในสนามบินนานาชาติอื่นทั่วโลก..​โปรดวางใจในกระบวนการครับ

ปล. สำหรับขั้นตอนที่ 1.1 หากไม่มีการประกาศแหล่งสุ่มเสี่ยงมากอย่างเป็นทางการ ทางสนามบินจะเลือกปฏิบัติ แยก flight ไป gate ใดเฉพาะที่มีอุปกรณ์ติดตั้งไม่ได้ครับ ผิดหลักการที่ต้องปฏิบัติต่อสายการบินที่เท่าเทียมกัน….นั่นหมายความว่าขั้นตอนที่ 1.1 ทาง ทอท. และ สธ. ต้องวิ่งย้ายอุปกรณ์ไปตาม gate ที่ flight สุ่มเสียงมากเข้ามาครับ”