สคบ.แบนโฆษณาเกินจริงของกระทะ โคเรียคิง ชี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อาทิกระทะลื่นไหลกว่าปกติ 300 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีหน่วยวัดหรือตรวจสอบได้ ส่วนผลการตรวจสอบกระทะ มีหน่วยงานเดียวที่ทำเสร็จ แต่ยืนยันไม่ได้เคลือบ 8 ชั้นตามที่โฆษณา และไม่ได้ทำด้วยหินอ่อน ขณะที่ทนายความโคเรียคิงเข้ายื่นเอกสาร ยันบริษัทโฆษณาไปตามเอกสารของบริษัทแม่ หากไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ผู้บริโภคคนไทยก็ต้องฟ้องร้องดำเนินคดี แต่เมื่อมีการพาดพิงให้สินค้าเสียหาย ก็ต้องฟ้องร้องด้วยเช่นกัน ขณะที่กรมศุลกากรเผยมีการนำเข้าจากเกาหลีจริง แต่ไม่ต้องเสียภาษีตามกรอบการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีการประชุมคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง และสคบ. เกี่ยวกับผล การพิสูจน์กระทะโคเรียคิง จากนั้น ศ.วีระพงษ์ บุญโญภาส ประธานกรรมการคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง แถลงผลการประชุมว่า สินค้าต้องมีราคาอ้างอิงที่ชัดเจน ข้อความต้องเป็นธรรม เพราะมีผลทางจิตวิทยา พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 22 และพ.ร.บ.ขายตรง 2545 ซึ่งขณะนี้โฆษณามีลักษณะจูงใจ เช่นการใช้คำว่า กระทะโคเรียคิง มีความลื่นไหลกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ หรือ 3 เท่า นั้น ซึ่งมีความจูงใจต่อผู้บริโภค เเละไม่สามารถพิสูจน์ได้
สำหรับการโฆษณาว่า มีการเคลือบ 8 ชั้นนั้น จากการตรวจสอบ มีการสรุปผล 1 แห่ง พบว่ารุ่นโกลด์ซีรีส์ เคลือบ 5 ชั้น ส่วนรุ่นโกลด์ไดม่อน เคลือบ 2 ชั้น ไม่ใช่ 8 ชั้น ตามโฆษณา และไม่มีส่วนประกอบของหินอ่อน ซึ่งยังต้องรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ส่งพิสูจน์อีก 2 หน่วยงานก่อน ยังต้องรอแต่เอกสารบางส่วนที่ทางบริษัทนำเข้ากระทะโคเรียคิงยังขาดอยู่ และไม่ได้ให้มาในบางส่วน เนื่องจากอ้างว่า ลิขสิทธิ์ของบริษัทแม่ที่ผลิตกระทะโคเรียคิง ซึ่งวันนี้ตัวแทนจากบริษัทมาแต่นักกฎหมาย ไม่มีนักเทคนิคมาด้วยจึงทำให้การสอบถามยังไม่ชัดเจน
“สิ่งสำคัญที่พบคือ ไม่มีการอ้างอิงที่มาของราคาที่จำหน่าย 15,000 และ 18,000 บาท การโฆษณาที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นไปตามนั้น ถือเป็นการโฆษณาไม่เป็นธรรม จึงมีมติ สั่งห้ามโฆษณา ซึ่งไม่ได้มีกฎหมายระบุว่าห้ามอะไร แต่ต้องห้ามโฆษณาในสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ สำหรับการพิสูจน์คุณสมบัติ ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะมีการส่งผลการพิสูจน์เพียง 1 แห่ง แต่ก็พบว่า เรื่องของชั้นเคลือบกระทะ ยังไม่ได้คุยกันมากนัก แต่การโฆษณาว่า เคลือบกี่ชั้น ลื่นไหลกี่เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการระบุว่า จะได้โปรโมชั่นตามเงื่อนไขเวลา ถือเป็นการตลาดที่ไม่เป็นธรรมให้ ผู้บริโภค ซึ่งในต่างประเทศก็ไม่ยอมให้มี แบบนี้ขึ้น” ศ.วีระพงษ์กล่าว
ศ.วีระพงษ์ กล่าวว่า สำหรับผู้บริโภคที่ คิดว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น หากจะร้องต่อสคบ. ต้องบอกว่า สคบ.ไม่ใช่ศาล อาจต้องเรียกร้องต่อศาลโดยตรงเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า ความเสียหายที่ได้รับเป็นจริง แต่ สคบ.เป็นทางผ่านที่จะส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย แต่ก็มีการฟ้องคดีแบบกลุ่มอยู่ สามารถทำได้แล้ว
ด้านนายวิพากย์ ชูศักดิ์ ทีมกฎหมายบริษัทวิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่าย กระทะโคเรียคิง ในประเทศไทย กล่าวภายหลังนำเอกสารจากบริษัทผู้ผลิตที่เกาหลีใต้ ส่ง มอบให้สคบ. ว่า ตนเองนำเอกสารมามอบให้ สคบ. เนื่องจากก่อนหน้านี้มีนักวิชาการและสื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท เบื้องต้นต้องรอฟังผลการตรวจพิสูจน์กระทะโคเรียคิงอย่างเป็นทางการ จาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) กรมวิทยาศาสตร์บริการ และนายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน
ด้านนายวิพากษ์ ชูศักดิ์ ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท นำเอกสารยืนยันคุณภาพของสินค้ากระทะโคเรียคิง จากบริษัทเคียว ซุง เวิลด์ ประเทศเกาหลีใต้ หรือผู้ผลิต มา ชี้แจงต่อสคบ.ด้วย พร้อมระบุว่า วันนี้มาชี้แจงคุณสมบัติของกระทะโคเรียคิง ว่ามี 8 ชั้นตามที่โฆษณาและมีราคาจำหน่ายตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งทาง สคบ.ไม่ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมมากนัก เนื่องจากมีเอกสารชี้แจง อยู่แล้ว แต่ทาง สคบ.ต้องการคำชี้แจงด้านเทคนิค เพื่อพิสูจน์ทราบว่ากระทะโคเรียคิง มีคุณสมบัติเคลือบผิววัสดุ 8 ชั้น ตรงตามที่โฆษณาไว้หรือไม่
ทั้งนี้ ต้องการให้ทุกฝ่ายรอผลการพิจารณาจาก สคบ. ก่อน เนื่องจากขณะนี้มีการนำเสนอข่าวที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในตัวสินค้า ซึ่งทางฝ่ายกฎหมายของบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาฟ้องกลับผู้ที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
ส่วนข้อสงสัยที่ว่าก่อนหน้าที่บริษัทจะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของกระทะโคเรียคิงว่ามีการเคลือบผิววัสดุ 8 ชั้นหรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากต้องให้ฝ่ายเทคนิคเป็นผู้ชี้แจง แต่หากผลตรวจสอบออกมาไม่ตรง ก็ขอสนับสนุนให้ฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะเราก็ต้องเห็นแก่ ผู้บริโภคคนไทยมากกว่าบริษัทต่างชาติอยู่แล้ว
วันเดียวกัน นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ส่งทำหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลกากร เพื่อขอเอกสารหลักฐานยืนยันว่ากระทะยี่ห้อโคเรียคิง มีการนำเข้าจากเกาหลีหรือไม่ ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือกับ สคบ. ซึ่งจากการตรวจสอบของกรมศุลกากรพบว่ากระทะยี่ห้อดังกล่าวมีการนำเข้าจากประเทศเกาหลีจริง โดยที่ผ่านมามีการนำเข้ามาจากเกาหลีหลายแสนใบ ภายใต้พิกัดสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน ซึ่งการนำเข้าดังกล่าวไม่เสียภาษี ตามกรอบการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี โดยเสียเพียงภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น” นายชัยยุทธกล่าว
เมื่อถามถึงราคานำเข้าอยู่ที่เท่าใด นายชัยยุทธกล่าวว่า คงให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวหรือสาธารณชนเกี่ยวกับราคานำเข้าไม่ได้ เนื่องจากถือเป็นความลับผู้นำเข้า หากเปิดเผยไปอาจทำให้ผู้นำเข้าเสียเปรียบคู่แข่ง และผู้นำเข้าอาจฟ้องกรมศุลกากรได้
