นักเรียนไทย เล่าประสบการณ์ จากอู่ฮั่นกว่าจะถึงเมืองไทย ไม่ได้ง่าย

เป็นการเดินทางที่คนไทยคอยเอาใจช่วย สำหรับภารกิจพาคนไทยกลับจากอู่ฮั่น โดยหนึ่งในนักศึกษาที่คอยรายงานสถานการณ์ที่อู่ฮั่น นายณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร เขียนเล่าประสบการณ์ผ่าน เฟซบุ๊ก ว่า “Day 0 – 1 วันก่อนเดินทางสู่ประเทศไทย -โพสนี้เป็นรายงานสถานการณ์ตามมุมมองของผมเอง-

ในวันที่ 3 ก.พ. 62 เราได้รับการแจ้งเตือนในกลุ่มเกี่ยวกับการเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 4 ก.พ. 62 โดยมีการแจ้งเตือนในเรื่องการเดินทางและนัดพบอย่างละเอียด กล่าวโดยคล่าวๆคือทุกคนจะต้องเดินทางไปพบกันที่สนามบินเทียนเหอในวันที่ 4 ก.พ. 62 เวลา 09.30 น. และสัมภาระที่ติดตัวไปได้ไม่เกินคนละ 7 กิโลกรัม เพราะจะไม่มีการโหลดไว้ใต้เครื่อง

เรื่องการเดินทางไปสนามบินนั้น แต่ละคนจะมีวิธีการเดินทางที่แตกต่างกันไป บางคนมีญาติไปส่ง บางคนเช่ารถไปเอง และบางคนอาสาไปรับคนอื่นๆที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน ส่วนผมนั้นมหาวิทยาลัยมีรถไปส่งที่สนามบินจึงไม่มีปัญหาการเดินทาง แต่เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางเข้าเมืองอู่ฮั่นนั้นยากมากเนื่องจากเมืองถูกปิดและมีการตั้งด่านเพื่อไม่ให้ผ่านทาง

ดังนั้น รถที่จะผ่านที่ระบุเลขทะเบียน ชื่อผู้ขับ ซึ่งแน่นอนเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคนที่ต้องเดินทางจากเมืองอื่นในมณฑลหูเป่ยเพื่อไปสนามบินที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น เพราะการผ่านด่านนั้นต้องมีเอกสารรับรองจากมณฑลหูเป่ย (มณฑลหูเป่ยใหญ่พอๆ หรือใหญ่กว่ากับภาคอีสานของไทย ผมประมาณคร่าวๆตามความรู้สึกผมนะ) แต่ปัญหาในด้านเอกสารและการผ่านทางเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตได้ช่วยกันแก้ไขจนราบรื่นไปด้วยดี ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตอีกครั้ง

กลับมาที่สถานการณ์ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 3 หลายคนก็แจ้งปัญหาและอุปสรรค์เข้ามาในกลุ่ม เช่น เจ้าหน้าที่ไม่ให้ผ่านทางบ้าง ทางหมอกลงจัดบ้าง ยังหารถไม่ได้บ้าง ต่างคนต่างช่วยกันหาทางออก และก็ผ่านอุปสรรค์กันไปได้ด้วยดี ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่พบเห็นคือ มีกลุ่ม survivor กลุ่มแรกได้ถึงสนามบินแล้วในเวลา 19.30 น. ความไวเป็นของปีศาจจริงๆ 555 ส่วนผมเข้านอนเพื่อเอาแรงตอน 5 ทุ่มและตั้งปลุกในเวลาตี 5 เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาสุขภาพในเวลาเดินทาง

*มีกฎ 1 ข้อจากทางการจีนคือถ้าอุณภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาจะถูกปฏิเสธการออกนอกประเทศจีน ต้องถูกกักกันในประเทศจีน 14 วันแทน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน